25 มี.ค. 2019 เวลา 06:34 • การเมือง
จดหมายถึงคุณประชาธิปัตย์ ที่น่ารัก น่าชัง
.
.
.
ตั้งแต่จำความได้ ในเรื่องของการเมือง เมื่อราว 20 ปีก่อน ผมสนิทสนมกับคุณประชาธิปัตย์เป็นคนแรก ด้วยความที่สังคมต่างจังหวัด เวลาจะหาเสียงขอคะแนน ส่วนใหญ่ผู้สมัครจะเข้าหาคนผู้สูงอายุ คนมีความรู้ในพื้นที่นั้น ๆ ซึ่งตาผมเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ว่า
สมัยเด็กผมจึงติดตามคุณมาโดยตลอด ยิ่ง ส.ส. ที่บ้านผม สังกัดพรรคคุณด้วยแล้ว เรื่องการเมืองจึงซึมซับเข้าในตัวผม
ในสภา เวลาอภิปราย ส.ส. จากบ้านนอก เมื่อมีโอกาสได้พูด ยิ่งน่าติดตาม ความรู้สึกผม ประหนึ่งว่าเชียร์นางงามในเวทีประกวดเลยทีเดียว
ผมไม่รู้คนอื่นคิดอย่างไร แต่สำหรับผมนั่นคือความภาคภูมิใจของเรา เป็นตัวแทนของเรา ผมคิดอย่างนี้มาตลอด ตั้งแต่ประถม
.
แต่แล้ววันหนึ่ง ผมได้มีโอกาสได้เข้ามาเรียนในกรุงเทพ ซึ่งที่นั่น ผมได้พบกับรักใหม่ที่ชื่อ "คุณไทยรักไทย"
เหตุผลก็เพียงเพราะ ส.ส. ที่บ้านผม เขาย้ายไปอยู่กับคุณไทยรักไทย ก็เท่านั้น
และแน่นอน การมาของคุณไทยรักไทย นั่นก็หมายความว่า เป็นการสถาปนาตัวขึ้นมาเป็นคู่แข่งของคนรักเก่า อย่างคุณประชาธิปัตย์ทันที
ศึกแล้ว ศึกเล่า หลายสนามประลอง ทั้งสนามเล็ก สนามใหญ่ ส่วนใหญ่แล้วจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของฝ่ายคุณ
แต่ถึงกระนั้น ความรู้สึกที่ดีก็ยังมีให้กับคุณ ไม่เสื่อมคลาย เมื่อเติบใหญ่ขึ้น ด้วยความที่อยู่ใกล้แวดวงการเมือง ยิ่งได้รู้จักมักคุ้น กับสมาชิกฝ่ายคุณหลายคน
ฉะนั้น การเมืองสำหรับผมจึงไม่ใช่เรื่องความขัดแย้ง หรือการหาผลประโยชน์ แต่มันคือยุทธศาสตร์การรบ มันคือศิลปะการเมือง มันคือความแพรวพราวชั้นเชิงของนักการเมือง
จนกระทั่ง พฤษภา 53 .... ความผูกพันธ์ ก็สูญสลายหายไปสิ้น
.
ถึงความรัก ความผูกพันธ์ที่เคยมีจะสูญสลายหายไป แต่ผลการเลือกตั้ง 24 มีนา 62 ในครั้งนี้ กลับเป็นเรื่องสะเทือนอารมณ์ สะเทือนความรู้สึก สำหรับคนที่ติดตามสายการเมืองมาโดยตลอด
จากพรรคใหญ่ที่เป็นหัวหอก ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล กลายสภาพมาเป็นเพียงแต่องค์ประกอบหนึ่งของรัฐ เป็นเพียงตัวแปร ที่รอให้มีคนอื่่นยื่นข้อเสนอมาให้
ภาพคุณอภิสิทธิ์ประกาศลาออกด้วยน้ำตาคลอเบ้า เป็นอีกฉากการเมืองที่สะเทือนความรู้สึก
แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังคิดว่า ด้วยความเป็นสถาบันการเมืองที่ยืนหยัดมาหลายทศวรรษ ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่จะเป็นบทเรียนครั้งสำคัญให้กับคุณ
ความเป็นสถาบันการเมืองของคุณประชาธิปัตย์ จะยังคงอยู่ ตราบเท่าที่ คุณไม่ไปซบอยู่ใต้ปีกของชู้รักใหม่ ที่ชื่อ "พลังประชารัฐ"
.
ใช่ครับ ...
ผมกำลังพูดถึงสถานการณ์การเมืองในครั้งนี้ คุณต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนในหลักการ ไม่ใช่ลื่นไหลไปตามสถานการณ์แบบพรรคเล็ก พรรคน้อย พรรคขนาดกลางเขาทำกัน
คุณต้องยึดหลักการ เพราะถ้าหากยอมรับข้อเสนอร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ คุณก็จะกลายเป็นเพียงอดีตคนรักเก่าของใครหลายคน และคุณก็จะถูกลืม
ผมไม่ปฏิเสธว่าหลายคนในพรรคของคุณคิดต่างจากผม แต่ผมอยากบอกว่า ใครอยากจะไป ก็ปล่อยเขาไป ส่วนใครเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณ ก็ช่วยกันดูแล ขอแค่เท่าที่มี แล้วมาสร้างเนื้อสร้างตัวกัน
ผมไม่เชื่อหรอกว่า สถาบันการเมืองอย่างคุณ ล้มครั้งนี้แล้วจะไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก ขอเพียงแต่ยึดมั่นใจหลักการ ยอมอดทนกล้ำกลืน แล้วมาเริ่มสร้างกันใหม่ ขอเพียงเวลาเท่านั้น
.
จันทร์เต็มแล้วเสี้ยว สูงสุดแล้วย่อมตกเป็นธรรมดา เมื่อขึ้นสูงจนไปต่อไม่ได้ ก็มีแต่ตกต่ำลง
หากเมื่อตกต่ำลงจนถึงที่สุด มันจะไม่มีทางตกต่ำได้อีกแล้ว มีแต่จะผงาดขึ้น ขอเพียงยึดมั่นในหลักการ ใครไม่รักคุณก็ปล่อยเขาไป
และคุณต้องเข้าใจด้วยว่า คนที่เคยรักคุณก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้รักคุณด้วยใจจริง เขาจำเป็นต้องรักคุณ เพราะเขาเกลียดชายชื่อทักษิณต่างหาก เขาจำเป็นต้องรักคุณ เพราะต้องการประชดชายคนนั้น
เมื่อเจอคนที่สวยกว่า เร้าใจกว่า อย่างคุณพลังประชารัฐ เขาก็เลือกที่จะทิ้งคุณไปอย่างไม่ใยดี
สิ่งที่คุณต้องทำคือรักษาเนื้อ รักษาตัว ปรับปรุงแก้ไขนิสัยส่วนตัว พิสูจน์ให้คนอื่นเขาเห็น ว่าตัวคุณเองก็มีดี ทำให้คนกลับมารักคุณเหมือนเดิม
แต่หากวันนี้ คุณยอมกินน้ำใต้ศอกของคุณพลังประชารัฐ ไปร่วมกันสร้างบ้านใหม่ที่ชื่อรัฐบาล เพื่อจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
สุดท้าย ตัวคุณเองมันจะไร้ค่า สูญสิ้นซึ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งศักดิ์ศรี ...
.
.
... ด้วยความห่วงใย จากคนที่เคยรัก
**ภาพ : ณปกรณ์ ชื่นตา
โฆษณา