26 มี.ค. 2019 เวลา 13:17 • บันเทิง
ตำนานงูยักษ์แห่งกาญจนบุรี!!
สมัยสงครามโลกครั้งที่2
งูยักษ์แห่งกาญจนบุรี เกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเรื่องราวที่เล่าต่อกันมาสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดยเค้าว่ากันว่าเป็นเรื่องจริง!!!
ในประเทศไทยของเราก็มีตำนานลี้ลับเกี่ยวกับงูยักษ์ซึ่งมีขนาดใหญ่โตมโหฬารไม่แพ้อนาคอนด้าในภาพยนตร์แม้แต่น้อย
“จังหวัดกาญจนบุรี” ในสมัยนั้นที่ยังคงความสมบูรณ์ของป่าไม้อันเขียวชอุ่มอยู่ตลอดทั้งปี รวมทั้งมีแม่น้ำแควอันเลี้ยวลดคตเคี้ยวไหลผ่าน
ทำให้ตรงนี้ได้รับฉายาว่า “ป่าอะเมซอนแห่งทวีปเอเชีย”
คุณลุง ผู้รอบรู้ และเป็นมิตร ข้าราชการอาวุโส ของสถานีรถไฟ ผู้เติบโตและก็ดำเนินชีวิตอยู่ที่ จังหวัดกาญจนบุรีมาตลอด ปัจจุบันนี้คุณลุง รับหน้าที่ นันทนาการบนรถไฟขบวน กทม-น้ำตกไทรโยค ในทริปพิเศษวันหยุดที่มีผู้โดยสารเข้ามาท่องเที่ยวดู น้ำตกไทรโยค
คุณลุงได้เล่าว่า เมื่อประมาณ ปี 2485 เมืองไทยตกอยู่ในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2
มีกองทัพทหารญี่ปุ่นเข้ามาใน จังหวัดกาญจนบุรีจำนวนมากเพื่อสร้างฐานสำหรับจู่โจมทหารอเมริกันและสร้างทางรถไฟเพื่อลำเลียงอาวุธไปฝั่งพม่า
อีกทั้งด้วยสภาพพื้นที่ที่เป็นป่าดงดิบดงทึบทำให้ทาง กองทัพทหารญี่ปุ่นมองเห็นถึงความปลอดภัยเพื่อการหลบลี้จากกองกำลังศัตรูทหารญี่ปุ่นใช้เชลยสงครามที่จับมาได้สร้างทางรถไฟผ่านแม่น้ำแควเพื่อลำเลียงอาวุธได้อย่างสะดวก ว่ากันว่าก่อนที่จะสร้างได้เสร็จนั้น ต้องแลกมาด้วยชีวิตเชลยสงครามไปร่วมหลายหมื่นคน จนมีคำกล่าวเปรียบเทียบว่า “หนึ่งไม้หมอนรถไฟแทนหนึ่งชีวิตที่เสียไป"
คุณลุงเล่าว่า ยุคนั้นทหารญี่ปุ่นได้รุกล้ำเข้าไปในเขตของสัตว์ป่าที่อยู่ลึกจนแทบจะไม่เคยมีใครเข้าไปมาก่อน บริเวณนั้นถูกปรับเปลี่ยนทำเป็นป้อมพร้อมรบ เมื่อตกช่วงเวลากลางคืนก็ได้มีการจัดเวรยามออกลาดตะเวนแบ่งเป็นกะ 10-15 คน รอออกลาดตะเวนทุกคืน
แต่บางคืน กองลาดตะเวนก็กลับมาไม่ครบ หายไป 3-5 คน เมื่ออกค้นหาไม่เจอก็เลยคิดว่าเป็นศัตรูแอบลอบเข้ามาจู่โจม เลยได้จัดเวรยามให้เคร่งครัดขึ้นอีกเท่าตัว แม้กระนั้นเหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดขึ้นอีก
จนหัวหน้าทหารญี่ปุ่นทนไม่ได้ เช้าก็เลยจัด กำลังหลายร้อยออกค้นหาทหารที่หายไป
กระทั่งท้ายที่สุดก็ได้เจอกับถ้ำแห่งหนึ่ง เป็นโพลงลึกมืดแล้วก็บรรยากาศหนาวเย็น ก็เลยส่งทหารจำนวนหนึ่งเข้าไป ระหว่างที่ส่งทหารเข้าไปนั้น ทหารที่อยู่ข้างนอกก็ได้ยินเสียงปืนขึ้น 1-2 ครั้ง ก็คิดว่าเป็นศัตรู ก็เลยได้ส่งทหารอีกกรุ๊ปเข้าไปโดยทันที ผ่านไปไม่กี่อึดใจ ทหารพวกนั้นวิ่งกลับออกมาอย่างไม่คิดชีวิต พลางอุทานว่า “อสูรกาย” หัวหน้าและก็เหล่าทหารที่รออยู่ภายนอกต่างพากันแตกตื่น สุดท้ายก็มีคำสั่งจากหัวหน้าว่าให้ระเบิดถ้ำนี้ซะ
ระเบิดหลายลูกถูกส่งเข้าไประเบิดถ้ำ
ระเบิดไล่ไปเรื่อยตั้งแต่ปากถ้ำ จนกระทั่งด้านในถ้ำ และแล้วภาพที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เผยให้เห็นงูเหลือมขนาดใหญ่ยักษ์ มีความยาวหลายสิบเมตร ความกว้างขนาดตู้อาหารที่อยู่ในห้องครัว กำลังเลื้อยออกไปจากถ้ำ ทหารญี่ปุ่นเห็นดังนั้นก็จัดการยิงไม่ยั้งไปยังงูยักษ์ ก่อนที่มันจะขาดใจตายอยู่ตรงนั้น ด้านทหารก็ได้หั่นเนื้อของงูยักษ์ออกเป็นชิ้นๆด้วยความสะใจ เป็นการล้างแค้นให้กับคนที่ถูกมันเอาชีวิตไปอย่างสม
ภายหลังเหล่าทหารได้เข้าไปสำรวจในถ้ำอีกครั้ง ก็พบว่ามีกระดูกมากมายไม่ต่ำกว่าร้อย ทั้งคนและก็สัตว์ใหญ่
คุณลุงว่าเรื่องที่เล่ามาเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแต่ว่าข้อมูลอะไรบางอย่างบางทีอาจผิดเพี้ยนไปบ้างตามคนเล่าต่อกันมา นักท่องเที่ยวทราบดีว่าคุณลุงเป็นคนพื้นที่ ก็ชอบถามหัวข้อนี้อยู่ตลอด และก็อดคิดมิได้เช่นกันว่าป่าดงดิบอันสมบูรณ์แบบนี้นั้น ต้องมีอะไรลี้ลับอยู่มากไม่น้อยเลยทีเดียวนอกจากงูยักษ์
จริงอยู่ว่าธรรมชาติของงูจะกินเพียงแค่พออิ่ม แต่บางทีงูยักษ์นี้อาจจะอยากล้างแค้นมนุษย์ เลยกินแล้วคลายออกมา ตามที่เห็นกระดูกมนุษย์กองอยู่ในถ้ำมากมาย
คุณลุงเล่าต่อว่า เคยมีกระดูกงูตัวนี้1ท่อน อยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี แต่ว่าปัจจุบันหายไปแล้ว เพราะถูกขโมยไป น่าจะเอาไปขายให้กับพวกเศรษฐีที่นิยมของแปลกๆจึงเป็นที่น่าเสียดาย เรื่องราวทั้งหมดนี้ได้เป็นเรื่องเล่าปากต่อปากกันมาจนถึงปัจจุบัน
ที่มา: เรื่องเล่าคนกาญจนบุรี
ภาพ: อินเตอร์เน็ต
โฆษณา