28 มี.ค. 2019 เวลา 10:36 • ประวัติศาสตร์
ฮอลลีวู้ด อุตสาหกรรมภาพยนตร์โลก ตอนที่ 9
ความสำเร็จที่ถูกส่งต่อ
ในช่วงปลายยุค 60 (พ.ศ.2503-2512) ยังมีหนังที่ควรกล่าวถึงอีกหลายเรื่อง เช่น The Graduate (1967) Bonnie and Clyde (1967) ซึ่งสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการ ไม่ว่าจะด้วยพล็อตเรื่องหรือการถ่ายทำ
The Graduate (1967)
Bonnie and Clyde (1967)
จนกระทั่งล่วงเข้าสู่ยุค 70 (พ.ศ.2513-2522) ผู้กำกับระดับตำนานอีกคน ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา (Francis Ford Coppola) ก็ได้นำภาพยนตร์เรื่อง The Godfather ออกฉายในปีค.ศ.1972 (พ.ศ.2515)
The Godfather เป็นเรื่องราวความขัดแย้งของมาเฟียในนิวยอร์ก 2 ตระกูล และผลิตโดยบริษัทพาราเมานท์
ในตอนแรกนั้น ทางบริษัทอยากจะได้ดาราดังๆ มาแสดง แต่คอปโปลากลับเสนอให้ใช้ดาราใหม่เกือบหมด เช่น ไดแอน คีตัน (Diane Keaton) อัล ปาชิโน (Al Pacino) ซึ่งบริษัทก็ยอมเสี่ยง และคุ้มเกินคาดครับ
The Godfather (1972)
ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดประจำปี และได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
1
ปีค.ศ.1974 (พ.ศ.2517) The Godfather 2 ก็ได้ออกฉายและได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน
The Godfather part II (1974)
ในยุค 70 นี้เอง ยังเป็นช่วงเวลาถือกำเนิดของเหล่าผู้กำกับดังๆ ในเวลาต่อมา หนึ่งในนั้นคือสตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg)
สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg)
สปีลเบิร์กนั้นหลงไหลในการทำหนังมาตั้งแต่เด็ก และการทำหนังดูจะเป็นอย่างเดียวที่เขาตั้งใจจะทำเพื่อเลี้ยงชีพ
ในขณะที่เขาอายุได้ 27 ปี เขาได้อ่านนิยายเรื่อง Jaws ของปีเตอร์ เบนช์ลีย์ (Peter Benchley) และชอบมาก นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของฉลามขาวที่ออกทำร้ายผู้คนที่มาเที่ยวชายหาดในช่วงวันหยุด
เหมาะที่จะทำเป็นหนังจริงๆ
ตอนนั้นนับเป็นโชคดีครับ มีโปรดิวเซอร์อยากทำหนังเรื่องนี้อยู่ 2 คนพอดี สปีลเบิร์กจึงอาสาเป็นผู้กำกับ และเขาก็ได้งานนี้ครับ
เขาถ่ายหนังเรื่องนี้บนเกาะที่ไม่ห่างไกลจากแมสซาชูเซตต์มากนัก และพบว่าการถ่ายหนังบนน้ำนั้นเป็นอะไรที่ยุ่งยากวุ่นวายมาก
1
สภาพอากาศก็ไม่เป็นใจ คลื่นลมแรงทำให้ถ่ายไม่ได้ หุ่นฉลามก็เอาแต่เสีย ไม่สามารถถ่ายได้
ยูนิเวอร์แซล บริษัทที่ออกทุนให้ทำหนังเรื่องนี้เริ่มหงุดหงิดครับ ถึงกับขู่ว่าจะให้ล้มโปรเจคท์นี้ซะ แต่นับว่าโชคดีครับ สุดท้ายก็ยังยอมให้ทำต่อจนจบและได้ออกฉาย
Jaws ออกฉายในเดือนมิถุนายน ค.ศ.1975 (พ.ศ.2518) ทุกคนรวมถึงตัวสปีลเบิร์ก ต่างคิดว่าหนังต้องเจ๊งแน่ๆ แต่ผิดคาดครับ หนังโด่งดังมาก ทำรายได้มหาศาลจนต้องมีภาคต่อตามมาอีก
สปีลเบิร์กกลายเป็นผู้กำกับดังทันทีครับ สร้างหนังระดับตำนานตามมาอีกมากมาย เช่น
อีกคนหนึ่งคือเพื่อนรักของสปีลเบิร์ก ชื่อว่าจอร์จ ลูคัส (George Lucas)
จอร์จ ลูคัส (George Lucas)
ลูคัสก็เป็นหนึ่งในผู้ที่หลงใหลในภาพยนตร์ เขาเป็นนักศึกษาวิชาภาพยนตร์ โดยในระหว่างเรียนนั้น เขาได้รับทุนจากวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ให้ไปเรียนกับผู้กำกับดัง ก็คือคอปโปลานั่นเองครับ
ภายหลังจากเรียนจบ เขาก็เปิดสตูดิโอของตัวเองในปีค.ศ.1971 (พ.ศ.2514) ชื่อว่า “ลูคัสฟิล์ม (Lucasfilm)” โดยเขาได้วางแผนถึงหนังที่จะทำแล้วครับ
หนังของเขาจะเป็นส่วนผสมระหว่างหนังคาวบอยตะวันตกกับหนังอวกาศ
ลูคัสไม่ต้องการให้ใครมาชี้นิ้วบงการ เขาจึงจัดการเขียนบทภาพยนตร์และออกตระเวนหาทุนด้วยตัวเอง โดยเงื่อนไขคือ เขาต้องมีอิสระในการทำงาน ทุกๆ อย่างต้องเป็นไปตามที่เขาคิดไว้
แต่ด้วยความที่หนังของเขานั้น พล็อตมันดูหลุดโลกเหลือเกินครับ แถมเขายังเขียนบทให้มีภาคต่อตามมาอีก ซึ่งขัดกับความเชื่อในยุคนั้น เนื่องจากสมัยนั้น หนังภาคต่อจะตามมาก็ต่อเมื่อภาคแรกประสบความสำเร็จเท่านั้น หลายๆ สตูดิโอจึงส่ายหัว ไม่เอาด้วยครับ
1
แต่ความพยายามของลูคัสก็เกิดผล ทเวนตี้ เซนจูรี่ ฟ็อกซ์ ตกลงออกทุนให้ลูคัสทำหนังครับ หนังเรื่องนั้นมีชื่อว่า
“สตาร์วอร์ส (Star Wars)”
Star Wars (1977)
สตาร์วอร์ส ออกฉายช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1977 (พ.ศ.2520) และประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายครับ หนังเรื่องนี้เปลี่ยนโลกมาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากทำเงินมหาศาลแล้ว ยังทำให้พฤติกรรมของคนนับล้านเปลี่ยนแปลงไป หลายคนนั้นคลั่งไคล้และเรียกตนเองว่าเป็นสาวก บางคนถึงขั้นบอกว่าตนเองนับถือศาสนาเจได ตามอย่างภาพยนตร์
ยุค 70 นี้สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการและโลกจริงๆ ครับ ผมจะมาเล่าต่อตอนหน้านะครับ ถึงยุคปัจจุบันที่การดูหนังในโรง เริ่มจะตกยุคแล้วครับ ผมจะมาเล่าต่อในตอนหน้านะครับ
โฆษณา