เทคโนโลยีที่ใช้ในการเลือกตั้งที่สหรัฐฯ จาก 2008 สู่อนาคต
การเลือกตั้งแต่ละครั้งที่สหรัฐฯ มีการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้
มาดูกันว่าเทคโนโลยีที่ใช้ในการเลือกตั้ง มีพัฒนาการอย่างไรบ้างในแต่ละปี และการเลือกตั้งในปี 2020 หรือ 2024 จะมีอะไรใหม่ ๆ จากปัจจุบันมากน้อยแค่ไหน
2008 Social-networking features
เว็บ my.BarackObama.com ของ Barack Obama มีเทคโนโลยี social-networking ที่ช่วยผู้สนับสนุนรวมตัวกันได้ แชร์ข้อมูล วางแผนจัดกิจกรรม และระดมทุน
2012 Data-Analytical และ personalization
ในปี 2012 ชาวสหรัฐฯ วัยผู้ใหญ่ส่วนมากมีบัญชี Facebook แล้ว เพื่อช่วยในการหาเสียง ทีมงานของ Obama ได้พัฒนา software ที่สามารถวิเคราะห์สิ่งที่กลุ่มเป้าหมายทำบน social media และใช้ข้อมูลที่ได้ในการออกแบบข้อความการหาเสียง ที่เจาะจงเฉพาะของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
2016 Data-Analytical และ personalization
แต่ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016 ต่างจาก Hillary Clinton ที่เลือกที่พัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีที่ Obama ใช้ Trump เลือกที่จะใช้ “embeds”หรือบริการของบริษัท social media เช่น Facebook หรือ Twitter ที่ให้พนักงานฝั่งตัวทำงานอยู่กับ campaign อย่างใกล้ชิดเลยเพื่อทำ data-analytics และให้คำแนะนำ
ผลที่ออกมาคือ ในช่วงเวลาเดียวกัน Clinton ได้ทดลอง ads หาเสียงที่ออกแบบมาเฉพาะกลุ่มเป้าหมายแค่ 66,000 ตัว ในขณะที่ Trump ทดลองได้มากถึง 5.9 ล้านตัว ทำให้ออกแบบข้อความการหาเสียงที่โดนใจผู้มีสิทธ์มากขึ้น เป็นการเอาข้อมูลมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่
2018 Artificial Intelligence (AI)
ในการเลือกตั้ง สส/สว ของสหรัฐฯ ในปี 2918 พรรค Democrat ได้ใช้เครื่องมือ AI เช่น CallTime.ai ที่ช่วยระบุผู้สนับสนุนที่น่าจะบริจาคให้กับพรรค แทนที่เจ้าหน้าที่พรรคต้องเสียเวลาหาข้อมูล หรือโทรหาผู้สนับสนุนแต่ละคนเอง
2020 และในอนาคต Generative adversarial networks (GANs)
GANs เป็นเครื่องมือ AI ที่สามารถสังเคราะห์รูปภาพหรือวีดีโอ ที่เหมือนจริงผ่านการทำงานของ algorithms หลายตัว สิ่งที่เราน่าจะเห็นจากเทคโนโลยีนี้กับการเลือกตั้งในอนาคตคือ fake news หรือข่าวลวงในรูปแบบของวีดีโอที่สมจริงมาก จนเราแยกไม่ออก
เรียบเรียงโดย : คุณก้องไกล เมฆศรีวรวรรณ (อาจารย์ก้อง)
Innovation Specialist
แหล่งที่มา : https://bit.ly/2PuY5Cu
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
