Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
moncheep siva
•
ติดตาม
29 มี.ค. 2019 เวลา 11:18 • บันเทิง
วันนี้เป็นประวัติของยาขอบอีกวันนะครับ
เพียงแค่ประวิติของผู้เขียน ก็โคตรจะ colourful แล้ว...
เด็กชายโชติ หรือยาขอบในเวลาต่อมา...เรียนหนังสือจบแค่ชั้นม.4...ซึ่งสมัยนั้นต้องเรียนถึง ม.8 จึงจะเรียกว่าจบชั้นมัธยม...
ทำไมแค่นั้นล่ะ ไม่มีเงินหรือ...ไม่ใช่ครับ...เป็นเพราะนิสัยอินดี้อีกนั่นแหละ บวกกับตอนนี้โตขึ้นเริ่มจะแสดงให้เห็นลวดลายในการใช้ภาษา...
วันหนึ่งในห้องเรียน ครูถนิม สอนศาสนาพุทธ...ท่านถามนักเรียนในห้องว่า...ธรรมะคืออะไร...
เด็กชายโชติยกมือ แล้วลุกขึ้นตอบเสียงฉะฉาน...ธรรมะคือคุณากร ส่วนชอบสาธร ดุจดวงประทีปชัชวาล...
ก็คือยกเอาร้อยกรองแปลบทสวด ขึ้นมากวนตีนครูนั่นแหละ...เพื่อนๆในห้องก็หัวเราะกันกลิ้งในความกวน
แต่ครูไม่เล่นด้วย ฉุนจัด...ด่าทันที “ไอ้เด็กอัปรีย์”...เด็กๆในห้องพากันเงียบกริบ
แต่ไม่ใช่เด็กชายโชติ...ขานี้สวนกลับโดยไม่มีความเกรงกลัว “ครูระยำ มาด่านักเรียนอัปรีย์”...
โห...ซัดกันถึงขนาดนี้ คิดว่าจะได้เรียนต่อเหรอครับ...โชติก็คงรู้ตัวเอง เดินออกจากห้องเรียนทันที
ไหนๆก็จะออกจากโรงเรียนแล้ว ด้วยความโมโห...โชติหยิบหมวกครูที่แขวนอยู่หน้าห้อง มากระทืบๆเสียยับเยิน แล้วค่อยจากไป...
ไปไหนต่อดีล่ะ...โชคดีที่วันนั้น มีเงินที่จะมาจ่ายค่าเทอมติดกระเป๋าอยู่สี่สิบบาท...
สี่สิบบาทในสมัยรัชกาลที่หก เยอะมั้ย...ก็ซื้อทองคำได้สองบาทแล้วกันอ้ะ...
เรียนก็ไม่เรียนแล้ว บ้านก็เลยพาลไม่กลับไปด้วย...มีเงินติดกระเป๋าอยู่ค่อนข้างเยอะ...ก็เลยตุหรัดตุเหร่ไปเรื่อย...
...ไปรับจ้างแขกจูงวัว ได้ค่าแรงก็ไม่ถือว่าน้อย...จูงคู่นึงได้ห้าสิบสตางค์...แต่ทำได้ไม่นานแขกก็เลิกจ้าง
เพราะแทนที่จะจูงวัว...เด็กชายโชติใช้วิธีขี่วัวแทน...
เร่ร่อนไปอยู่กับญาติห่างๆ เปิดเป็นสำนักทรงเจ้าเข้าผี...ทำอยู่ไม่นาน เด็กชายโชติได้รู้เบื้องหลังว่าหลอกลวงชาวบ้าน...ก็เลยฉี่ใส่พวกรูปปั้นเจ้าพ่อเจ้าแม่ในสำนักนั้น เหม็นฉี่ไปหมด...แล้วก็จากมา
ทำงานมั่งตกงานมั่ง อยู่หลายปี...จนวันนึงขณะที่เดินวิจัยฝุ่นอยู่ข้างทาง ก็ได้มาเจอโจทก์เก่า...ครูถนิม...
ด้วยวิญญาณความเป็นครู ท่านไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองโชติอย่างเป็นการส่วนตัว...คงเห็นหน้าแห้งๆ ท่านก็เลยถามว่าทำอะไรอยู่ล่ะ แล้วตอนนี้ยังเลวเหมือนเดิมมั้ย...
โชติก็ตอบว่าตกงานขอรับ...ตอนนี้ไม่ค่อยเลวเท่าไหร่แล้วล่ะขอรับ...
ท่านก็เลยจูงมือโชติไปที่ร้านหนังสือ พร้อมภัณฑ์ และฝากฝังให้รับเป็นเด็กฝึกงานด้วย...
เจ้าของร้านนี้กำลังจะออกหนังสือพิมพ์ที่เกี่ยวกับการเมือง ต้องการลูกมือที่ช่วยพิมพ์ช่วยเขียน...ซึ่งโชติช่วยได้เป็นอย่างดี...
แต่สันดานเดิมมันแก้ไม่หาย...โชติทำงานได้สิบสองวัน...วันที่สิบสามก็ขาดซะยังงั้น โดยไม่บอกไม่กล่าว...
วันรุ่งขึ้น เจ้าของร้านพร้อมภัณฑ์ก็เลยเรียกไปรับค่าแรงสิบสองวัน...แล้วก็เชิญไปทำงานที่อื่น...
แต่การได้เริ่มงานหนังสือพิมพ์ ถือเป็นอะไรที่จุดประกายความเป็นนักเขียนให้โชติเป็นอย่างดี เพราะต่อจากนั้น โชติก็ได้เวียนว่ายทำงานอยู่ในแวดวงหนังสือพิมพ์ตลอดมา...
แต่ก็ต้องเข้าใจว่า การเมืองในสมัยนั้นมันเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง...หนังสือพิมพ์ซึ่งถือเป็นสื่อทรงอิทธิพลในสมัยนั้น ก็หลีกไม่พ้นต้องกระเด้งกระดอนไปตามคลื่นลมการเมืองด้วย
หนังสือพิมพ์ที่สร้างชื่อในสมัยนั้น คือ “สุภาพบุรุษ”...ก๊วนที่ร่วมงาน ล้วนแล้วแต่เป็นนักเขียนระดับชื่อก้องปฐพีทั้งนั้น...
ลองฟังชื่อกันหน่อย คนที่เคยอ่านหนังสือรุ่นใหญ่หน่อยน่าจะคุ้นชื่อกัน...
เปลื้อง ณ นคร(ตำรา ณ เมืองใต้)...สด กูรมะโรหิต...กุหลาบ สายประดิษฐ์...เฉวียง เศวตะทัต...ปกรณ์ บูรณะศิลปิน...มาลัย ชูพินิจ...และ ยาขอบ...
1
ท่านยาขอบเริ่มเขียนผู้ชนะสิบทิศ ในชื่อเริ่มแรกว่า “ยอดขุนพล”...ขณะที่ทำงานให้กับหนังสือพิมพ์ สุริยา...โดยเขียนเป็นตอนๆไป...
แล้วก็มาแจ้งเกิดเต็มตัว เมื่อมาอยู่หนังสือพิมพ์ ประชาชาติ...
นิยายเรื่อง ยอดขุนพล...ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นชื่อ ผู้ชนะสิบทิศ...มีส่วนอย่างมากที่ทำให้หนังสือพิมพ์ ประชาชาติ ขายดิบขายดี...นำมาซึ่งรายได้ให้กับเจ้าของหนังสือ และยาขอบผู้ประพันธ์...
แต่ท่านยาขอบ ถือเป็นต้นแบบของนักประพันธ์ไส้แห้ง ได้อย่างสมบูรณ์แบบ...มีเงินเท่าไหร่เลี้ยงเพื่อนกับลงขวดหมด...จนวันที่เป็นวาระสุดท้ายของชีวิต...ปี 2499...ท่านมีเงินติดตัวอยู่เพียงร้อยกว่าบาท...ทั้งที่ผลงานของท่าน น่าจะสร้างรายได้ให้นับสิบล้านบาท...
จบประวัติอย่างย่นย่อของ ยาขอบ...โชติ แพร่พันธุ์ เพียงเท่านี้...
วันจันทร์มาติดตาม “ผู้ชนะสิบทิศ” กันครับ...
15 บันทึก
199
4
22
15
199
4
22
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย