29 มี.ค. 2019 เวลา 12:37 • กีฬา
ใครคือ มาร์โก โรเซ่
มาร์โค โรเซ่ กุนซือหนุ่มวัย 42 ปีชาวเยอรมัน ที่กำลังมาแรงอยู่ในหมู่มวลแฟนบอลสาย Hipster อยู่ ณ ตอนนี้
อาจจะยังไม่ดังมากในระดับแฟนบอลทั่วไปแต่จะเริ่มมาเป็นที่รู้จักตอนที่มีข่าวกับแมนฯยูในช่วงที่มูริณโญ่โดนปลดไปช่วงแรกๆ
และมีข่าวกับซลติกหลังจากที่ แบรนดอน รอดเจอร์หนีมาคุมเลสเตอร์ ซิตี้
มาร์โค โรเซ่ตอนนี้คุมมี RB Salzburg ในลีคสูงสุดของออสเตรียอยู่ จริงๆเขาเริ่มงานกับทาง RB Salzburg ตั้งแต่ปี 2013 โดยโรเซ่เริ่มจากการคุมทีม U16 ของทีม
ก่อนจะขยับขึ้นมาคุมทีม U18 ซึ่งเขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์ UEFA Youth League ได้เป็นผลสำเร็จ จึงทำให้เขาได้รับการดันขึ้นมาคุมชุดใหญ่ของ RB Salzburg ในปี 2017
ในปีแรกที่เขาคุมทีมชุดใหญ่ เขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีคสูงสุดและพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในศึก Europa League ได้
สถิติการคุมทีมของโรเซ่กับชุดใหญ่ของ RB Salzburg นั้น เขาคุมไปแล้ว 102 นัด แพ้ไปแค่เพียง 9 นัดเท่านั้น
Rene Maric ผู้ช่วยคู่ใจ
ถ้า โรเซ่ เป็นแบทแมน มาริคก็คือโรบิน จุดเริ่มต้นการเข้าสู่วงการของมาริคคือเริ่มจากการเขียนบล็อคที่ชื่อว่า https://spielverlagerung.com/ ในปี 2011
ซึ่งหนึ่งในบทความที่เขาวิเคราะห์ Mainz ได้ไปเข้าตา Thomas Tuchel กุนซือ Mainz 05 ขณะนั้นที่ได้เห็นและคิดว่าแม่นมากเลยเรียกมาริคเข้ามาคุย พร้อมกับให้โปรเจคทีมงานของมาริคทำโดยเน้นไปในด้านการวิเคราะห์คู่แข่ง
หลังจากเสร็จโปรเจ็คกับMainz ทาง Ted Knutson เจ้าของเวป StatBomb ซึ่งเป็นทีมงานของทางสโมสร Brentford กับ Midtjylland ได้มอบหมายให้ทางมาริคหานักเตะที่คิดว่าเหมาะสมให้กับทั้งสองทีม
หลังจากนั้นโรเซ่ที่เห็นบทวิเคราะห์ของมาริคและชื่นชอบจึงเรียกไปคุยอยู่หลายครั้ง จนมาริคลองแย็บๆไปดูว่าฤดูกาลหน้าต้องการผู้ช่วยไหม โรเซ่เลยตอบไปว่ามาลองดูก็ได้ และปีแรกที่ทำงานคู่กัน พวกเขาสามารถพาทีม U18 คว้าแชมป์ UEFA Youth League ได้สำเร็จ
ปรัชญาแทคติคของ Marco Rose
โรเซ่นั้นนับเป็นอีกคนที่ได้รับอิทธิพลการเล่นบอลเพรสซิ่งมาจากเจอร์เก้น คลอปป์ เนื่องจากเจ้าตัวเคยเป็นผู้เล่นให้กับ Mainz 05 สมัยช่วงเริ่มต้นอาชีพโค้ชของคลอปป เพราะฉะนั้นไม่แปลกใจเลยที่โรเซ่จะมีชื่อเสียงในเรื่องของการเพรสซิ่ง
ระบบการเล่นหลายคนจะวิเคราะห์กันว่า Salzburg นั้นเล่น 4312 Diamond แต่Rene Maric ออกมาทวีตว่า ถ้าจะเรียกว่าระบบ 4312 มันดูจะกว้างเกินไป ซึ่งมาริคใช้คำเรียกระบบของ Salzburg ว่า 4-d-2
ซึ่งตัว d ตรงกลางนั้นก็คือย่อมาจากคำว่า diamond แต่ที่ไม่ใช้เรียก 442 diamond หรือ 4312 diamond นั้น มาริคบอกว่า ในแผงกลางของเขานั้นมีรูปแบบหลากหลายถึง 11 แบบ ขึ้นอยู่กับ สถานการณ์ในเกม เพราะฉะนั้น การจะเรียก 442 หรือ 4312 นั้นมันกว้างเกินไป
การเพรสซิ่งในช่วงที่คุ่ต่อสู้ขึ้นเกม
ในช่วงที่คู่ต่อสู้ขึ้นเกม Salzburg มักจะเพรสด้วยการยืนตำแหน่งที่ได้เปรียบคู่ต่อสู้ ถึงแม้ว่ามันจะขึ้นอยู่กับแผนของคู่ต่อสู้แต่ส่วนใหญ่ Salzburg จะยืนด้วย ระบบ 4-d-2 เสมอ (สามารถดูตัวอย่างการยืนได้ในภาพประกอบที่1)
จุดประสงค์ในการเพรสคือบีบให้คุ่ต่อสู้คืนหลังให้ผู้รักษาประตูและบีบให้ประตูเตะยาวขึ้นมา ซึ่งทาง Salzburg ได้เตรียมการยืนสำหรับการต่อสู้ลูกกลางอากาศรวมถึงการดักเก็บลูกจังหวะสองจังหวะสามไว้หมดแล้ว
หลายๆทีมที่เจอเกมเพรสซิ่งมักพยายามจะจ่ายบอลยาวเพื่อให้ผ่านสองไลน์แรกไปและโจมตีที่ว่างระหว่างไลน์ แต่ Salzburg ไม่มีปัญหานี้เพราะการยืนแบบ diamond นั้นทำให้ Salzburg มีไลน์ในการยืนถึง 5 ไลน์ และพื้นที่ที่มักจะโดนเจาะก็มี holding midfield ยืนคุมอยู่
แต่อย่างที่บอกไปความหลากหลายในการยืนเวลาไม่มีบอลของ Salzburg นั้นมีถึง 11 แบบ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งการได้บอลของคู่ต่อสู้ เช่นถ้าแบ็คู่ต่อสู้ได้บอล กองกลางด้านข้างฝั่งใกล้บอลก็จะออกจาก diamond ไปเพื่อเข้าเพรสซิ่งเป็นต้น
การตั้งรับในโซนลึก
เมื่อบอลเลยเข้ามาถึงหน้ากรอบเขตโทษของ Salzburg จะไม่มีมีการยืนแบบ diamond อีกต่อไป แต่ Salzburg จะปรับมายืนเป็น 4141หรือ 442 ตามสถานการณ์
Salzburg จะบีบไลน์แรกของคู่ต่อสู้ให้ขึ้นเกมทางด้านข้าง ซึ่งอันตรายน้อยกว่าการบุกจากพื้นที่ตรงกลาง เมื่อผู้เล่นด้านข้างของคู่ต่อสู้ได้บอล Salzburg จะเพรสซิ่งแนวทะแยงเพื่อบีบให้คุ๋ต่อสู้เข้าหาริมเส้นให้มากที่สุด โดยมีสัญญาณเริ่มการเพรสที่หลากหลาย (pressing trigger) เช่น จับบอลยาว, หันหลังจับบอล, จ่ายบอลกลับหลัง, ลังเลเมื่อได้บอล เป็นต้น
นอกจากนั้นเมื่อคู่ต่อสู้ได้บอลทางปีกในพื้นที่สุดท้ายของ Salzburg โรเซ่จะให้ลูกทีมแค่สองคนคือปีกและแบ็คออกไปปิดคู่ต่อสู้ ส่วนนักเตะที่เหลือมีหน้าที่แพ็คตรงกลางให้แน่น
การเล่นเกมรุก
จุดเด่นที่สุดคือ Fullback ของ Salzburg จะเติมเกมขึ้นสูงมากเพื่อช่วยในเกมบุกด้านข้าง กองหน้าสองคนจะยืนอยู่ระหว่าง เซนเตอร์กับแบ็คเพื่อเป็นการกดกองหลังคู่ต่อสู้ทั้ง 4 คนไว้
กลางรุกจะยืนอยุ่ระหว่างไลน์กองหลังและมิดฟิลด์ ส่วนกองกลางที่เหลือจะยืนเป็นสามเหลี่ยมคุมแดนกลางเอาไว้ โดย Salzburg พยายามดึงคู่ต่อสู่ไปฝั่งนึงก่อนจะเข้าโจมตีอีกฝั่ง (overload to isolate)
นอกจากนั้นพื้นที่ Halfspace ก็สำคัญ โดย Salzburg จะใช้กองกลางด้านข้างเป็นคนรับบอลตรง halfspace โดยจะรับบอลหันหน้าเข้าไปในกรอบเขตโทษทำให้สามารถมองเห็นสถานการณ์ได้ชัดเจน โดยสามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายบอลเข้าตรงกลางเพื่อเข้าทำหรือจะเปลี่ยนไปที่ Half-Space อีกฝั่ง
การขึ้นเกม
Salzburg มีการขึ้นเกมที่หลากหลายแต่นักเตะหัวใจสำคัญเลยคือเซ็นเตอร์ชาวบราซิลเลี่ยนอย่าง Andre Ramalho การขึ้นเกมส่วนใหญ่จะมาที่เขาโดย Ramalho มีลูกจ่ายทะแยงมุมที่อันตรายมากหลายๆครั้งเขาสามารถโยนบอลไปให้กองหน้าเข้าทำเลยก็ได้
Salzburg มักจะใช้การจ่ายบอลแนวตั้งมากกว่าที่จะใช้แนวนอน โดยเป้าหมายหลักคือกองกลางสองคนที่อยู่ตรงฐานของ diamond ถ้ามีพื้นที่และสามารถพลิกได้ เซนเตอร์จะพยายามจ่ายบอลให้ทันที แต่ถ้าพื้นที่ตรงกลางไม่มี เป้าหมายถัดมาจะอยู่ที่แบ็คสองข้างที่เติมขึ้นสูงและมักจะมีพื้นที่ว่างให้รับบอล
อนาคตของ Rose
ผมดูทรงแล้วน่าจะอยู่ กับ Salzburg ได้อีกไม่นาน ดีไม่ดีฤดูกาลหน้าอาจจะย้ายเลยก็ได้เพราะผมมองว่าลีคออสเตรียน่าจะหมดความท้าทายสำหรับเขาแล้ว และจุดหมายค่อไปของ โรเซ่น่าจะเป็นบุนเดสลีก้าลีคบ้านเกิดก่อน ไปคุมเพื่อหาประสบการณ์ ก่อนที่มีสองทางเลือกคือ ไปคุมบาร์เยินหรือออกไปคุมทีมในยุโรปโดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีคในอนาคต
#MarcoRose #โค้ชFM
โฆษณา