2 เม.ย. 2019 เวลา 08:43 • บันเทิง
#HappyTogether....รำลึกการจากไปของ เลสลี่ จาง
ในบรรดาหนังของ "หวังเจียเหว่ย" หรือที่รู้เราคุ้นหูกันในนาม " Wong Kar Wai "
หนังเรื่อง " Happy Together " เป็นหนังที่แอดรักและฝังใจมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ทุกครั้งที่ได้ยินบทเพลง" Happy Together " ไม่มีครั้งไหนเลยที่จะไม่นึกถึงหนังเรื่องนี้ " Wong " ถือเป็นผู้กำกับชาวเอเชียที่โด่งดังมากที่สุดในช่วงยุค 90s' ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของหนัง " อาร์ต " ฮ่องกงเลยทีเดียว สไตล์การกำกับของ " Wong " คงไม่มีอะไรให้ต้องพูดถึงมากนัก สำหรับผู้กำกับที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้กำกับที่ดีที่สุดในสาย " Autuer "
สำหรับแอดแล้ว " Happy Together " มีความโดดเด่นที่ "เนื้อหา" มากกว่าหนังเรื่องอื่นๆของ" Wong " ...
ในบรรดาหนังทั้งหมดของเขาไม่มีเรื่องไหนเลย ที่พูดถึงความ " เจ็บปวด " ได้ "สาหัส " เท่ากับหนังเรื่องนี้อีกแล้ว " เลสลี่จาง " ในบท " โหวเป่าหวัง " "เหลียงเฉาเหว่ย " ในบท " ไหลเยินฟา " ทั้ง 2 คน เล่นเป็นคู่รักกัน ประเด็นการ " รักร่วมเพศ " ในหนังไม่ใช่สาระสำคัญอะไรของเรื่องเป็นเพียงความพยายามที่สื่อให้เห็นถึง"ความแปลกแยก "ของตัวละครซะมากกว่า ซึ่งส่งผลให้ "ประเด็นหลัก " นั้นชัดเจนขึ้นตามมา
หากเรามองว่า " Wong Kar Wai " ตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับ "ความรัก " ว่าสรรพสิ่งนั้นล้วนต้องมี " คู่ " ของมันเสมอ กาถ่ายทอดมุมมองความรักผ่าน " การเต้นแทงโก้ " การเข้าคู่ที่สวยงาม ทุกอย่างสอดประสานกลมกลืน บ่งบอกให้เห็นถึงการ "จับคู่กัน "ที่ลงตัว...แม้กระทั่งชายกับชายก็ตาม
แต่อะไรหล่ะ คือความ " ลงตัว " ที่หนังพูดถึง การแยกทางกันของคนสองคน การได้พบกับคู่รักใหม่ และการเดินทางของ " ไหลเยินฟา " และ "จาง " ในตอนท้ายของเรื่อง ทั้งหมดนี้เป็นเสมือนการตั้งคำถามเพื่อค้นหาคำตอบ แต่...หนังไม่ได้ให้คำตอบที่เป็นบทสรุปอะไรเพียงแต่เปิดพื้นที่พอให้เราได้ค้นหาด้วยตัวเอง
ช่วงหนึ่งในชีวิตของแอดรู้สึกเหมือนเป็น"โหวเป่าหวัง " ฉันแค่รู้สึกเหงาจึงหยุดไม่ได้ที่จะออกไปหาแสงสีและผู้คนภายนอก มันเหงาและทรมานเกินไปที่จะอยู่คนเดียว แต่มันไม่ได้หมายถึงว่า " ฉันไม่ได้มีใคร "
คนทุกคนล้วนไขว่คว้าหาสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง มายาภาพต่างๆนั้นเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาและวิ่งเข้าหามัน สุดท้ายไม่สามารถคว้าอะไรไว้ได้เลย...
การแสดงเรื่องนี้ของ "เลสลี่จาง " เป็นสิ่งที่น่ายกย่อง เลสลี่จางถ่ายทอดความเจ็บปวดได้อย่างถึง
แก่นราวกับความเจ็บปวดนั้นเป็นของเขาเอง " เลสลี่จาง " ไม่ได้รับรางวัลไดๆเลย เป็น "เหลียงเฉาเหว่ย " ที่ได้ไป แม้นจะมีหลายคนพูดว่า เลสลี่จางมักเล่นเป็นตัวเอง เช่น " หยกไจ๋ " ใน " Day of Being Wild " "เตี๋ยอี๋ " ใน " Farewell My Concubine " หรือ "โหวเป่าหวัง " ในเรื่องนี้.....แต่ " เลสลี่ จาง " ตอบกลับคำสบประมาทเหล่านั้นด้วยคำที่เรียบง่ายว่า...
- ใช่ว่าเกย์ทุกคนจะเล่นเป็นเกย์อีกคนได้ง่ายอย่างนั้นแหละ -
หลังจากผ่านไป 3 ปี ในปี 2000 " เลสลี่จาง" ก็ประกาศเป็น " เกย์ " แต่ก็ไม่ช็อคเท่ากับ ปี 2003 ที่ "เลสลี่จาง " ทำ "อัตวินิบาตกรรม" โดยการกระโดดลงมาจากตึกชั้น 24 ของโรงแรม" แมนดาริน โอเรียนทัล" ฮ่องกง โดยทิ้งจดหมายไว้ ใจความมีอยู่ว่า...
1
" โรคซึมเศร้า !! ขอบคุณเพื่อนๆทุกคน ขอบคุณศาสตราจารย์ Felice Lieh-Mak ปีนี้เป็นปีที่ลำบากที่สุด ผมไม่สามารถทนกับมันได้อีกต่อไปแล้ว ขอบคุณ Mr. Tong ขอบคุณครอบครัว ครอบคุณ Sister Fei ในชีวิตไม่เคยทำสิ่งใดไม่ดี ทำไมมันจึงต้องเป็นแบบนี้ "
นับจากวันนั้นถือเป็นการครบรอบการจากไปเป็นปีที่ 16 พอดี ( 1เมษา 2003)
ก่อนการมาของ " เลสลี่จาง " ฮ่องกงไม่เคยมีนักแสดงดาวรุ่งที่ดีขนาดนี้และหลังการจากไปของ
"เลสลี่จาง" ฮ่องกงก็ไม่มีนักแสดงที่ดีพอที่จะทดแทนเขาได้ สำหรับแอดแล้ว " เลสลี่จาง " ถือเป็นนักแสดงที่ "ยิ่งใหญ่" ที่สุดคนหนึ่ง
#แอดเจได
โฆษณา