9 เม.ย. 2019 เวลา 01:31
อย่าคาดหวังอะไรใหม่ๆ จากการกระทำแบบเก่าๆ
ความล้มเหลว เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการขาดความรู้, ขาดประสบการณ์, หรือแม้กระทั่งตัดสินใจผิดพลาดเอง หลงเชื่อคนอื่นเอง แต่ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เมื่อความล้มเหลวได้เกิดขึ้นแล้ว เราคงย้อนเวลาหรือมานั่งโอดครวญกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ดูจะเป็นทางออกที่ไม่น่าจะถูกต้อง แต่เชื่อหรือไม่คนที่ประสบความล้มเหลวส่วนใหญ่และไม่รวยสักทีจะมีชุดความคิดและกระทำแบบนี้
1. หาที่ลง และถามหาความรับผิดชอบ จากทุกๆสิ่ง ไม่ว่าคน สัตว์ สิ่งของ หรือแม้แต่โชคชะตา เทวดาอารักข์ ถ้าอยู่ตรงนั้นโดนหมด เชื่อเถอะสุดท้ายคนเหล่านั้นมักไม่เคยโทษตัวเอง
2. หาคำปลอบใจ จากหมู่มิตร และเหตุผลต่างๆไว้แก้ตัวต่อสาธารณะมิตรห่วยๆของตัวเอง อธิบายคือคนล้มเหลวส่วนใหญ่ก็จะมีสภาวะแวดล้อมคล้ายๆกับสิ่งที่ตัวเองเป็น และหมู่มิตรเหล่านี้พร้อมที่จะมีวาจาอ่อนหวาน ปลอบประโลมหัวใจสะออนที่ล้มเหลวมาจากการกระทำที่ผิดพลาดของตัวเองเหมือนๆกัน ภาษาผมเรียกว่า "อบอุ่นไปวันๆ" ก็อยู่ด้วยกันแค่นี้ ต่างคนต่างอวยกันเอง "ใช่ๆนายลาออกจากงานนี้ดีอยู่แล้ว เจ้านายแกมันห่วย" "งานนี้มันไม่ใช่แนว" "คนนั้นเขาโกงนายนายจึงเจ๊ง" "หุ้นที่นายซื้อตอนราคากำลังขึ้นอีกวันมาตกฮวบก็ต้องโทษตลาดโทษโลกที่แกว่งไปมานะไม่ใช่นายที่ผิด" "นายเก่งมากอยู่แล้วครั้งนี้ที่ล้มเหลวนายอาจจะดวงไม่ดี" "เจ้าแม่สำนักนี้ให้หวยแย่มาก คราวหลังเอาเลขใหม่ฝันใหม่สำนักใหม่" แล้วแบบนี้จะถามหาความสำเร็จจากไหนกันครับเนี่ย? แต่ก็ไม่แปลกเพราะคนเหล่านี้รู้สึกว่าตัวเองมีค่าเวลาอยู่ด้วยกัน เหมือนว่าคนทั้งโลกก็คงคิดเหมือนฉันก็ไม่ปาน
3. ทำแบบเดิม (Loops เดิม) และแล้ววงจรอุบาทว์ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง หลังจากเลียแผลใจกันเรียบร้อย แต่เนื่องจากไม่เคยคิดว่าตนทำผิดตรงไหน จึงไม่มีการพัฒนาหรือทำอะไรที่แตกต่างจากเดิม สุดท้ายก็ล้มเหลว และก็วน Loops เดิมคือ หาที่ลงใหม่ คือโทษสิ่งอื่นใหม่ ปลอบใจกันใหม่ และเจ๊งใหม่
ผมยกตัวอย่างแบบนี้ให้เพื่อให้คุณๆเรียนรู้จากสิ่งที่คนล้มเหลวคิดและทำ เราจะได้ไม่เอาเยี่ยงอย่าง ซึ่งแน่นอนผมเองก็เคยเป็นมาแล้วครบทั้ง3ข้อ วิธีที่ทำให้ผมหลุดจาก Loops นี้คือการคิดใหม่ทำใหม่ทั้งหมด วิธีลัดคืออ่านหนังสือที่ดี เพิ่มกลุ่มเพื่อนหรือหาคนที่สำเร็จแล้วลองเรียนรู้จากความคิดและมุมมองของเขา (ผมบอกให้เพิ่มนะครับไม่ได้บอกให้เปลี่ยนกลุ่มเพื่อน) และลงมือทำด้วยแนวความคิดใหม่ๆ ผลลัพธ์ที่ผมได้ก็คือผลลัพธ์แบบใหม่เช่นเดียวกัน ผมพิสูจน์มาแล้ว
ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าคุณขายข้าวแกงแล้วเจ๊ง คุณจะเลือกขายข้าวแกงแบบเดิม สูตรเดิม คิดราคาเหมือนเดิมอยู่หรือไม่? คุณก็ต้องปรับปรุงสูตรเลือกเมนูที่คนบริเวณนั้นทานได้หรือชอบทาน ไม่ใช่คุณไปขายข้าวขาหมูในชุมชนมุสลิม แล้วขายไม่ดีก็เลยขายหมูปิ้งแทน แบบนั้นมันไม่ make sense ใช่มั้ยครับ คุณก็ต้องเลือกเมนูที่คนละแวกนั้นกินได้ หรือไม่คุณก็เปลี่ยนไปขายอย่างอื่นที่ไม่ใช่อาหารไปเลย ด้วยชุดความคิดใหม่
ถ้าคุณเล่นหุ้นแล้วเจ๊ง คุณก็ไปซื้อหุ้นใหม่ เล่นใหม่ เลือก set ใหม่ แต่เล่นด้วยความคิดชุดเดิมที่เคยเจ๊ง อาจจะเล่นเพราะโลภ ติดดอย ขายหมู ผลลัพธ์มันก็ต้องเหมือนเดิม คือเจ๊งอยู่แล้วใช่ไหมครับ
การได้ผลลัพธ์ใหม่ๆดียังไง?
ใช่ครับผมบอกว่ามันคือผลลัพธ์ใหม่ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ความสำเร็จก็ได้ แต่สิ่งที่คุณจะได้มันคือองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใกล้ความสำเร็จมากกว่าเดิม ครั้งหนึ่งโทมัส อัลวา เอดิสัน เขาผลิตหลอดไฟกว่า 2,000 ครั้ง คุณคิดว่าถ้าครั้งที่ 1 ไม่ติด เขาจะทำครั้งที่ 2 ด้วยวิธีการของครั้งที่ 1 เหรอครับ? คำตอบคือไม่แน่นอน เขาก็ต้องเริ่มวิธีที่2ในแบบที่ไม่เหมือนวิธีที่1 และสุดท้ายเขาก็ทำสำเร็จในครั้งที่ 2,xxx เพราะเขาเรียนรู้จากความล้มเหลวซึ่งมีจำนวนมากพอต่างหาก นั่นแหละคือสิ่งที่ผมอยากจะบอกคุณ "ล้มเหลวให้มากพอและคุณจะประสบความสำเร็จ" เพราะ "ความสำเร็จ กินความล้มเหลวเป็นอาหาร" แต่ต้องเป็นความล้มเหลวจากวิธีการใหม่ๆนะครับ ไม่ใช่หลับหูหลับตาทำเดิมๆซ้ำซากเจ๊งแล้วเจ๊งอีกอันนั้นก็...เกินไป
รู้หรือไม่
เอดิสันใช้วัสดุกว่า 10,000 ชนิด เพื่อทดลองไส้หลอดไฟ ครั้งหนึ่งเมื่อเขาล้มเหลวจากการทดลองมากกว่าสองพันครั้ง มีคนบอกให้เขาเลอกทำมันซะ เพราะเขาทำล้มเหลวมากเกินไป แต่เอดิสันกลับตอบไปว่า ..."มันไม่ได้ล้มเหลวมากเกินไปหรอกผมได้วิธีที่ทำให้หลอดไฟไม่ติด ตั้ง2พันวิธีต่างหาก" ต้องยอมรับเลยครับว่า ทัศนคติเชิงบวกและการผลักดันด้วยความใฝ่ฝันของคนระดับผู้ยิ่งใหญ่ล้วนไม่ธรรมดาทุกคน เป็นอย่างเราๆเหรอครับให้เต็มที่ 50 ครั้งคุณว่าไปหรือยัง? ..
เพราะการกระทำมันส่งผลมาจาก Mild Set ของเจ้าของ ตามแนวคิดจากบทความเก่า "ความคิดเปลี่ยนโลก" ดังนั้นคงไม่ผิดหากผมจะบอกว่า ความคิดชุดไหนที่ทำให้เราล้มเหลว หากไม่เปลี่ยนที่ราก(ความคิด) ความล้มเหลวก็ยังคงรออยู่ที่ปลายทางเช่นเดิมเพราะการกระทำเป็นผลลัพธ์หนึ่งของความคิด ดังนั้นหากเราทำอะไรแบบเดิมๆมานานแต่ชีวิตตัวเองยังไม่ดีขึ้น เรามาลองหาวิธีคิดหรือวิธีทำใหม่ๆให้กับตัวเองกันเถอะครับ
โฆษณา