7 เม.ย. 2019 เวลา 01:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ปิดตำนานดาวปริศนา!!! สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ (Megastructure) ของต่างดาวไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้แสงลดลงของ Tabby's Star
ทีมนักวิจัยและนักดาราศาสตร์กว่า 200 คน นำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ Jason Wright และ, Tabetha Boyajian ของมหาวิทยาลัยรัฐ Louisiana ได้ช่วยกันกแก้ปัญหาความลึกลับของ "ดาวที่ลึกลับที่สุดในจักรวาล ที่ชื่อ " KIC 8462852 หรือ "Tabby's Star" ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่ใหญ่กว่าประมาณ 0.5 เท่า มีอุณหภูมิสูงกว่าดวงอาทิตย์ถึง 1,000 องศาเซียลเซียส และห่างออกไปกว่า 1,000 ปีแสง แต่ที่ทำให้ลึกลับคือแสงมีความสว่างที่เหมือนเป็นการกระพริบเป็นระยะ ๆ ไม่เหมือนกับดาวฤกษ์ปกติ มีทฤษฎีมากมายที่จะอธิบายรูปแบบแสงที่ผิดปกติของดาวฤกษ์นี้ ซึ่งหนึ่งในทฤษฏีที่สร้างความลึกลับคือ มีโครงสร้างขนาดใหญ่โคจรอยู่รอบดาวฤกษ์ดวงนี้
ความลึกลับของดาว Tabby เป็นที่น่าสนใจจากคนหลายกลุ่ม จะเกิดการระดมทุนว่ากว่า 1,700 คน ยอมบริจาคเงิน 100,000 ดอลลาร์ ผ่านแคมเปญ Kickstarter เพื่อสนับสนุนกล้องโทรทรรศน์ภาคพื้นดินเพื่อสังเกตการณ์และรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับดาวฤกษ์ดวงนี้ผ่านเครือข่ายกล้องโทรทรรศน์ทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ข้อมูลจาก Boyajian และเพื่อนร่วมงานที่รวบรวมโดย Las Cumbres Observatory จึงมีอยู่วารสาร The Astrophysical Journal Letters
โดยในวารสารงานวิจัย จะตรวจหาคลื่นความถี่ของแสงที่มาจากดาว Tabby ว่าความยาวคลื่นเท่ากันทั้งหมดหรือไม่ ถ้าหากใกล้เคียงกันก็จะชี้ให้เห็นว่าสาเหตุเกิดจากอะไรบางอย่าง เช่น วงโคจรโคจรมีดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ หรือแม้แต่โครงสร้างขนาดใหญ่ในอวกาศ
ฝุ่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมแสงของดาวจึงลดลงและสว่างขึ้น ข้อมูลใหม่นี้แสดงให้เห็นว่ามีการปิดกั้นสีของแสงที่ต่างกัน และสิ่งที่ผ่านไปมาระหว่างเรากับดาวฤกษ์ไม่ทึบแสง ทำให้เราสามารถตัดประเด็นของดาวเคราะห์ดาวฤกษ์ หรือ สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ (megastructure) ไปได้เลย Boyajian กล่าว
นักวิทยาศาสตร์เฝ้าดูดาวนี้อย่างใกล้ชิด ผ่าน Las Cumbres Observatory ตั้งแต่เดือน มีนาคม 2016 ถึง ธันวาคม 2017 แล้วคนพบ ส่งที่เคลื่อนที่ผ่านที่ทำให้แสงกระพริบแล้ว สองอย่าง โดยมีการตั้งชื่อว่า Elsie และ Celeste ซึ่งเป็นชื่อของเมืองที่หายสาบสูญไปของ สกอตแลนด์และกัมพูชา โดยผู้ตั้งชื่อให้เหตุผลว่า สิ่งที่ตั้งชื่อให้ก็เหมือนกับสิ่งลึกลับที่ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้บนโลก
วิธีการในการศึกษาของดาวดวงนี้ เป็นสัญญาณยุคใหม่ของดาราศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์มือสมัครเล่นที่สามารถร่วมหาข้อมูลจำนวนมหาศาลจากภารกิจของ NASA Kepler ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของภารกิจของ Kepler คือการค้นหาดาวเคราะห์ซึ่งทำโดยการตรวจจับการหรี่แสงที่เกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ จากดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่เคลื่อนที่อยู่ตรงหน้าดาวฤกษ์ และด้วยเหตุนี้ทำให้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์นักวิทยาศาสตร์มือสมัครเล่น Planet Hunters ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้อาสาสมัครสามารถช่วยในการจำแนกเส้นโค้งแสงจากภารกิจ Kepler และค้นหาดาวเคราะห์ดังกล่าวได้
Boyajian กล่าวว่า "มันน่าตื่นเต้นมาก และขอชื่นชมทุกคนที่มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ทั้งนักวิทยาศาสตร์มือสมัครเล่นและนักดาราศาสตร์มืออาชีพ ที่ทำให้แก้ประเด็นปัญหานี้ได้ "
โฆษณา