วันศุกร์ ที่ผ่านมาหุ้น KTC ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ที่ 38.25 บาท
stockradars
เรื่องที่น่าสนใจ ไม่ใช่ราคาหุ้น แต่เป็น นักลงทุนท่านนึง ที่สร้างความร่ำรวยมหาศาลจากการถือหุ้น KTC ก็คือ คุณมงคล ประกิตชัยวัฒนา ที่ถือหุ้น KTC จำนวน 434 ล้านหุ้น และ ยังมีภรรยาของคุณมงคล คือคุณ ฉันทนา จิรัฐิติภัทร์ (อ้างอิงจาก นสพ.หุ้น ที่พูดถึงว่าทั้งสองคนเป็น สามีภรรยากัน) ถือจำนวน 126 ล้านหุ้น รวมเป็นมูลค่าที่ 21,420 ล้านบาท ยังไม่นับหุ้นตัวอื่นๆ ที่ถือในตลาดหุ้นไทยที่ น่าจะมี มูลค่าประมาณ พันล้านบาท ดูแล้ว คุณมงคลและภรรยา น่าจะติดอันดับ บุคคลธรรมดา ที่ร่ำรวย Top10 ในไทย เลยทีเดียว
มีเพจอื่นๆ เขียนถึงคุณมงคลไปหลายครั้งแล้ว ว่าได้เข้ามาซื้อลงทุนหุ้น KTC ในตลาดหุ้น ไปเมื่อ 4-5 ปีก่อน ต้นทุนน่าจะบริเวณ 3 บาท (หรือ 30 บาทสมัยก่อนแตกพาร์) ถ้าไม่นับว่าหุ้นขึ้นมา 10 กว่าเท่า คุณมงคลก็ต้องมีทุนประมาณ เกือบ 2,000 ล้านบาท มาซื้อหุ้น และใจแข็งถือทนมาได้ 4-5 ปีนั้นเอง และปัจจุบันนี้ คุณมงคล อายุประมาณ 39-40 ปี เท่านั้นเอง ถือว่ายังหนุ่มอยู่มากเลยทีเดียว
settrade
ในวันนี้ ทางเพจจะขอเขียนถึงวิธีการลงทุนของคุณมงคล จากที่ได้เห็นคุณมงคล โพสลงในเว็บบอร์ด ThaiVI มาหลายปี แต่ต้องบอกก่อนว่าผู้เขียนไม่ได้รู้จักส่วนตัวกับคุณมงคล นะครับ อาศัย ค้นหาในบอร์ด Thaivi จาก username ของคุณมงคล เอาซึ่งคุณมงคลเป็นผู้เขียนเอง ดังนั้นข้อมูลดังกล่าวนี้ จึงไม่ใช่ความลับแต่อย่างใด หวังว่า จะเป็นประโยชน์ให้ คนธรรมดา ที่มีความฝันนะครับ เรามาดูกันว่าเส้นทางการลงทุนที่ประสบความสำเร็จของคุณมงคลเป็นมายังไง ชื่อของคุณมงคลในบอร์โ thaivi คือชื่อว่า moomoo
ซึ่งสามารถอ่านโพสที่คุณมงคลเขียนได้ในกระทู้
thaivi
1. คุณมงคลบอกในกระทู้ว่า เริ่มเข้าตลาดประมาณปี 2007 โดยตัวเค้าเองทำธุรกิจขายคอมพิวเตอร์ และใช้การวิเคราะห์พื้นฐาน ซื้อหุ้น PTL ซึ่งเป็นบริษัทผลิตแผ่นฟิลม์ Pet Bopet ซึ่งเป็นหุ้นยอดฮิตในบอร์ด thaivi ในสมัยนั้น โดย คุณมงคลได้ใช้ วงเงินเบิกเกินบัญชี OD มาผสมกับ วงเงินมาร์จิ้น (คือนำหุ้นมาค้ำประกันเพื่อได้วงเงินไปซื้อหุ้นเพิ่ม) ซื้อหุ้น PTL ไปตัวเดียวทั้งพอร์ต ต้นทุนอยู่ทีประมาณ 5-6 บาท
2. พอเกิดวิกฤติ subprime ในปี 2008 หุ้นทุกตัวในตลาดไทย ลงระเนระนาด หุ้น PTL ก็เช่นกัน โดยลงมา คุณมงคลก็พยายามหาเงินมาซื้อหุ้นเพิ่ม จนหุ้นลงไป 2.88 บาท ถ้าลงไปต่ำกว่านี้ คุณมงคลมีโอกาสโดน forced sales(บังคับขาย) ซึ่งเป็นกระบวนการที่โบรกเกอร์ที่ปล่อยมาร์จิ้น จะยึดหุ้นในมือของลูกหนี้ และนำมาขายในตลาดทิ้งทุกราคา เพื่อเอาเงินที่ปล่อยกู้ไปคืน แต่โชคดี ที่ตอนนั้น คุณมงคลกลั้นใจ ไล่ซื้อหุ้นในตลาดด้วยเงินที่พอมีอยู่ เพื่อให้ราคาสูงกว่า ราคาที่จะโดนบังคับขาย
3.ตลาดไปทำ bottom ประมาณเดือนตุลา 2008 และเด้งขึ้นมาอย่างรวดเร็วทำให้คุณมงคล รอดพ้นการถูกบังคับขายไปได้ และเริ่มเป็น ขาขึ้นของหุ้น PTL พอดี (เพราะตัวหุ้นเองมีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว)
4.ช่วงกลางปี 2010 ถึงต้นปี 2011 เกิดเหตุการ์ณที่ว่า แผ่นฟิลม์ PET BOPET ทีเป็นสินค้าของ PTL ราคาขึ้นไปเยอะมาก เพราะเกิดภาวะสินค้าขาดแคลนในตลาด ซึ่งจะส่งผลให้กำไรของ PTL ดีขึ้นอย่างมาก ทำให้ราคา PTL ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 7-8 บาท วิ่งไป 45 บาท ต้นปี 2011 และจาก รายชื่อผู้ถือหุ้น PTL ปลายปี 2010 คุณมงคลถือหุ้นตัวนี้อยู่ถึง 25 ล้านหุ้น
รายชื่อผู้ถือหุ้น PTL ปลายปี 2010
5.ราคายืนอยู่ 40 กว่าบาทไม่นาน สินค้าของ PTL ก็ราคากลับอยู่เป็นปกติ ทำให้ราคาหุ้นร่วงลงมา และไม่เห็นชื่อของคุณมงคลในรายชื่อ ผู้ถือหุ้น PTL อีก ดังนั้นน่าจะขายได้ราคาสูงพอสมควร
investorz.com
6.ช่วงปี 2012 เดือน 8 คุณมงคลยื่นรายงาน 246-2 ครั้งแรกสำหรับหุ้น KTC (ต้องยื่นเมื่อซื้อหุ้นตัวใดในตลาดเกิน 5%) ตอนนั้นราคา KTC ประมาณ 3-4 บาท (ปรับแตกพาร์แล้ว) และกลายเป็นเศรษฐีหุ้นหมื่นล้านในปัจจุบันนี้
246-2
สรุป คุณมงคลสร้างความร่ำรวยจากหุ้น โดยหุ้นตัวแรกคือ PTL ซึ่งต้องยกเครดิตให้แนวคิดของคุณมงคล ที่ถือ PTL ตั้งแต่ 2007 มาขายตอนวงจรธุรกิจของบริษัทเข้าสู่จุดสูงสุดพอดี ในปี 2011 คุณมงคลทนถือลงทุนได้ถึง 4 ปี ถึงจะผ่านวิกฤต 2008 มาซึ่งตอนนั้นคุณมงคลคงเครียดมาก แต่ก็มีความอดทน อดกลั้น มีสติ ในการแก้ปัญหาได้ดี ถ้าเป็นคนส่วนใหญ่ พอถือหุ้นขาดทุนๆเยอะ แล้วราคาเด้งกลับมาเท่าทุน มักจะขายเอาทุนคืนไปแล้ว ต่อมาหุ้น KTC ก็สามารถซื้อและถือได้ทนเป็นเวลาถึง 6-7 ปีแล้ว (ระหว่างทางจะมีขายบ้างซื้อคืนบ้าง ถ้าดูตาม 246-2)
เคล็ดลับความสำเร็จของคุณมงคล น่าจะเป็น การโพกัส ไปที่หุ้นไม่กี่ตัว และความอดทนในการรอให้ราคาขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ถ้ายึดตามที่คุณมงคลเขียนในบอร์ดคือ ชายหนุ่ม วัย 40 ปีผู้นี้ เข้าตลาดมาลงทุนแบบ VI ปี 2007 และใช้เวลา 12 ปี เท่านั้นเอง สร้างความร่ำรวยระดับ 2 หมืนล้านบาทขึ้นมา น่าจะกล่าวได้ว่าเป็น 1 ในนักลงทุน ที่ประสบความสำเร็จคนนึงของโลกเกินกว่าระดับประเทศไทย ไปแล้วครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก thaivi, stockradars และ investorz ครับ
- 14
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
