9 เม.ย. 2019 เวลา 15:19 • ประวัติศาสตร์
ย้อนรอยคดีสะเทือนขวัญในประวัติศาสตร์ไทย - ตำนานรักนวลฉวี #2 ตอนจบ
ท่านใดยังไม่ได้อ่าน #1 ตามไปที่ลิ้งนี้ได้เลยนะคะ https://www.blockdit.com/articles/5cacaeac8dbc0956edadb0f7
3
นวลฉวีเริ่มมีปัญหาปากเสียงกับหมออธิปบ่อยครั้ง เริ่มรุนแรงมากยิ่งขึ้น และในตอนนี้
นวลฉวีได้หายตัวไปแล้ว เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ใช่ หมออธิปหรือเปล่า ?? ที่เป็นฆาตกร ไปติดตามตอนจบของเรื่องราวทั้งหมดกันเลยค่าา
Cr.wikimapia
เช้าวันที่ 12 กันยายน ปี พ.ศ. 2502
เวลา 8.45น. นายจำลอง จิรัตฐิตกุล ช่างกลแถวปากเกร็ด กำลังนั่งเรือออกจากบ้าน เพื่อไปทำงานที่คลองอ้อม ระหว่างที่นั่งเรือนั้นเขาได้พบกับ ศพ !!!
ศพนี้ลอยแม่น้ำมาอย่างเวทนา ในแม่น้ำเจ้าพระยาห่างจากตัวนนทบุรีประมาณ 2 กิโลเมตร อยู่ระหว่างโรงงานกระดาษเก่ากับวัดเฉลิมพระเกียรติ นายท้ายเรือเข้าไปดูศพสวมเสื้อสีฟ้าอ่อน นุ่งกระโปรงดำเป็นลายปัก ศพอยู่ในลักษณะหงายมือพาดหน้าอก คาดเข็มขัดโตสีฟ้า ที่ข้อมือและแหวนทองลงยาจารึกนามสกุล "รามเดชะ"(นามสกุลเดิมของหมออธิป)
เมื่อเรือแล่นมาถึงจังหวัดนนทบุรี นายจำลอง รีบแจ้งความต่อตำรวจนนทบุรีในทันที
ศพถูกส่งไปวัดนครอินทร์ ก่อนส่งต่อด้วยโรงพยาบาลตำรวจนนทบุรี เพื่อชันสูตรศพ เป็นการด่วน
2
ผลจากการชันสูตร สาเหตุการตายเนื่องจากบาดแผลถูกแทงจนเลือดตกในมากและสิ้นใจก่อนถูกโยนลงน้ำ บาดแผลที่ถูกแทงนั้นมีสีข้าง-ข้างขวาและที่หลังด้านซ้ายรวม 3 แผล แต่เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายของศพไม่พบรอยฉีกขาด
Cr.liekr
"ท่ามกลางความมืดของคืนวันหนึ่งในเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2502 ชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งได้ลงมือสังหาร นวลฉวี นางพยาบาลสาวถึงแก่ชีวิตตามที่ได้รับว่าจ้าง"
วันที่ 13 กันยายน ปี พ.ศ. 2502 เวลา 22.00 น. ศพที่พบในลำน้ำเจ้าพระยาถูกประกาศอย่างเป็นทางการว่าเป็นผู้ตายชื่อนวลฉวี (สืบจากชื่อที่สลักของแหวน) หมออธิปทราบข่าวการตายของนวลฉวี และเผชิญหน้ากับกองทัพนักข่าว หมอตอบสั้นๆ ว่า "เธอเป็นภรรยาผมก็จริง
แต่เราไม่ได้อยู่ร่วมกันครับ แยกกันอยู่ พรุ่งนี้ค่อยไปรับศพครับ เพราะมันดึกแล้ว"
คดีนี้เดาผู้ต้องสงสัยไม่ยาก เพราะนวลฉวีไม่มีศัตรูภายนอกที่ไหน ยกเว้นคนภายใน และดูไม่ยาก เห็นทีจะไม่เกินสามีที่อยากกำจัดภรรยาจอมยุ่งให้ไปพ้น ๆ ทางอยู่แล้ว
วันที่ 14 กันยายน ปี พ.ศ. 2502
ตำรวจเชิญตัวหมออธิปไปสอบสวน และพบรอยข่วนที่ข้อมือหมอ ตำรวจไม่รอช้าถ่ายรูปบาดแผลนี้ เก็บเป็นหลักฐานพร้อมกับแจ้งข้อหา "ฆ่าคนตาย" ในทันที
ในกลางดึกของกลางเดือนกันยายน ภายหลังจากหมออธิปถูกจับกุม ขบวนรถตำรวจรับหมอและคุ้มกันอย่างแน่นหนา เพื่อพาหมออธิปไปสถานที่แห่งหนึ่ง
"จอมพลสฤษดิ์อยากพบหมอครับ มีอะไรก็รับ ๆ เสียนะครับ ถ้าไม่รับหมอโดนยิงเป้าแน่ คิดดูให้ดีนะครับหมอ"
หมออธิปหน้าซีด เพราะจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ในขณะนั้นเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ และเป็นนายกรัฐมนตรี พ่วงด้วยอธิบดีกรมตำรวจ มีนิสัยชอบสั่งยิงคนเป็นว่าเล่นเหมือนผักเหมือนปลา ตอนดำรงค์ตำแหน่งนายกก็สั่งยิงเป้า ถึง 6 คน
ภายในห้องทำงานบุรุษร่างใหญ่ผิวคล้ำ ท่าทางเด็ดขาด น่าเกรงขาม นั่งรออยู่ก่อนแล้ว หมออธิป เย็นวาบถึงไขสันหลัง สักครู่ท่านหัวหน้าคณะปฏิวัติไม่พูดพร่ำทำเพลง และถามเขาด้วยเสียงเด็ดขาด ว่า ...
1
"หมอฆ่าเมียตัวเองอย่างที่เป็นข่าวจริงไหม ถ้าจริงจงรับมาเสียอย่าปากแข็ง พูดตรง ๆ แบบลูกผู้ชายดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา"
"ผมไม่ได้ทำครับ ผมขอปฏิเสธ" หมออธิปรวบรวมกำลังใจตอบกลับไป
1
"มันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานจริงๆ มันเหมือนกับตัวเองไปหาพยายมเพื่อตัดสินความผิดอย่างงั้นแหละ" หมออธิปย้อนความหลัง
Cr.liekr
ทางด้านตำรวจยศสูงต่าง ๆ ในสถานีตำรวจนนทบุรีได้ร่วมทำการสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ และทราบว่าหมออธิปมีเพื่อนสนิทคือ นายชูยศและ นางสุขสม พ่อของเขาเคยเป็นคนไข้ของหมออธิปมาก่อน และรักษาพ่อจนหาย ทำให้ชูยศ ซึ้งในน้ำใจของหมออธิป ถึงขนาดยอมตายแทนหมอได้เลยแหละ
วันที่ 17 กันยายน ปี พ.ศ. 2502 หนังสือพิมพ์แต่ละสำนักต่างลงข่าวว่า นายชูยศ มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆ่านวลฉวี
ผลจากการชันสูตรศพนวลฉวี มีข้อเพิ่มเติม คือ ตอนที่เธอถูกแทงนั้น เธอไม่ได้สวมผ้านอกและจากการตรวจสอบบนสะพานพบรอยหยดเลือดเล็กบ้างใหญ่บ้าง แสดงถึงการเอาศพมาไว้ ณ จุดนั้น
หลักฐานการสืบสวนคดีฆ่านวลฉวี เพิ่มขึ้นอย่างไม่ขาดสาย ตำรวจพบกระดุมสีน้ำตาลแก่ตกอยู่ 1 เม็ดบนพื้นถนนริมทางหลวง รอยเลือดจากราวสะพานเหล็กที่เป็นคราบสีน้ำตาล ฯลฯ
วันที่ 20 กันยายน ปี พ.ศ. 2502 ตำรวจบุกไปที่บ้านของ นายชูยศ ในสวนบางบำหรุ ธนบุรี แต่ไม่มีคนอยู่ ประตูใส่กุญแจไว้ จากการตรวจสอบบ้านได้พบรอยเลือดที่พื้นบันได้หลังบ้าน ตำรวจจึงเก็บหลักฐานเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังพบเลือดที่พื้นห้องครัว บนเตียงและที่พื้นบันได ทั้งพบหลอดยาเอทิลคลอไรด์ พร้อมมีดปลายแหลมในห้องครัวด้วย
วันที่ 27 กันยายน ปี พ.ศ. 2502 นายชูยศพร้อมภรรยา เข้ามอบตัวกับตำรวจ มีการสอบสวนเพียงเล็กน้อย ก่อนปล่อยตัวกลับไป โดยไม่มีการตั้งข้อกล่าวหา
วันที่ 14 ตุลาคม ปี พ.ศ. 2502 เจ้าหน้าที่คุมนายชูเกียรและภรรยาไปหาจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เพราะคดีฆ่านวลฉวี ดังมากในยุคนั้น และตัวจอมพลก็สนใจในคดีนี้ แต่กระนั้นนายชูยศไม่ได้เข้าพบจอมพล มีเพียงแต่ภรรยาชูยศเท่านั้นที่เข้าพบท่าน
1
นายกรัฐมนตรีถามนางสุขสมภรรยาของนายชูยศ "มีความสัมพันธ์กับหมออธิปอย่างไร"
นางสุขสมคิดว่านายกถามเรื่องเงินทองๆ เลยตอบว่า "มี" และแล้วรุ่งเช้าหนังสือพิมพ์ก็พาดหัวข่าว "นางสุขสมยอมรับจอมพลว่าเสียตัวให้หมออธิป!!"
วันที่ 28 ตุลาคม ปี พ.ศ. 2502
นายมงคล เรื่อเรืองรัตน์ สัปเหร่อและช่างไม้ที่บ้านติดกับ
น ายชูยศ ถูกตำรวจควบคุมตัวได้ที่วัดน้อยนางหงส์ ฐานสงสัยว่าเป็นมือฆ่านวลฉวี
3
วันที่ 30 ตุลาคม ปี พ.ศ. 2502
คำให้การพยานมากน่าหลายตา ทั้งเพื่อนของนวลฉวี รปภ.โรงพยาบาลยาสูบ ให้การเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากคำให้การของหลาย ๆ คนตำรวจเชื่อว่าหมออธิปต้องเป็นคนฆ่านวลฉวีแน่นอน
1
และไม่นาน หลังจากนั้นตำรวจก็สามารถจับผู้ต้องสงสัยฆ่านวลฉวีได้ยกแก๊งประกอบด้วย
1
Cr.oknation
นายชูยศและนางสุขสม ตัวกลางประสานแผนการ
นายมงคล เรื่อเรืองรัตน์ สัปเหล่อมือสังหาร เคยมีประวัติหนีคดีที่อื่นมาก่อน มีอาชีพเป็นสัปเหร่อและช่างไม้อาศัยอยู่บ้านแม่ยายติดกับบ้านนายชูยศ
นายชูเกียรติ ผู้ช่วยฆ่า นอกจากนี้มีผู้ต้องสงสัยอีกคือ นายยง ยิ้มกมล และนายเยี่ยม แต่ตำรวจกันไว้เป็นพยาน ซึ่งพวกเขาทั้งหมดให้การรับสารภาพในเวลาต่อมา
น่าแปลกที่ผู้ต้องสงสัยทั้งหมดก่อนถูกจับไม่มีท่าทีคิดจะหนีสักนิด ส่วนผู้ว่าจ้างหมออธิปก็ไม่ได้มีส่วนร่วมในการวางแผน แค่ว่าจ้างเพียงเท่านั้น
แต่กระนั้นช่วงเวลาการสังหารโหดนวลฉวี ตำรวจไม่เห็นภาพมากนัก ฆาตกรไม่ได้มีคนเดียว มันทำเป็นหมู่คณะ ภายใต้การนำของหมออธิป ตำรวจเชื่ออย่างนั้น แต่ก็ไม่เห็นภาพวินาทีสังหารชัดเจนมากนัก แต่จากประมวลคำของพยานและหลักฐานวัตถุการสังหารนวลฉวีมีการวางแผนเป็นขั้นๆ เป็นตอนๆ เรียบเรียงได้ดังนี้
Cr.liekr
เริ่มจากหมออธิปคิดจะฆ่านวลฉวีภรรยาของตนเอง หมออธิปคิดว่าจะทำไงดี พอดีคิดได้ว่าตนมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง แม้มันจะเลวสักหน่อยแต่ใช้ได้ หมออธิปเลยบึ่งรถไปที่บ้านของนายชูยศเพื่อนสนิทเพื่อต่อรองราคา
"อั๊วจะฆ่าเมียอั๊วว่ะ เงินค่าจ้างมีเยอะ รวยซะอย่าง" นายชูยศตกลงทันที เงินจำนวนมากสมน้ำสมเนื้อกับความเสี่ยง เขาชั่งใจดูแล้ว ว่ามันคุ้ม
ปีศาจในตัวหมออธิปเริ่มแสดงบทบาทแล้ว!!
เดือน สิงหาคม เวลา 11.00 น. นายชูยศและนางสุขสม ไปที่สวนบ้าน นายยง ยิ้มกมล ถามว่าแถวนี้มีใครมือดีบ้างที่สามารถฆ่าผู้หญิงโดยไม่มีหลักฐานได้ นายยงบอกว่ามีสัปเหล่อคนหนึ่งเห็นแกบอกว่าอดีตเคยฆ่าคนตายมาก่อน
ว่าแล้ว นายชูยศสนใจ จึงให้ภรรยาทำการว่าจ้าง นายยง ยิ้มกมล โดยจ้างนายยง เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท ให้พานายคนนั้นมาหา โดยได้รับเงินค่าจ้าง 5,000 บาท ครึ่งหนึ่งไปก่อน
วันรุ่งขึ้น นายยง พาตัว นายมงคลมาหานายชูยศ นายชูยศบอกว่าจะจ้างวานให้ฆ่าผู้หญิงคนหนึ่ง โดยต้องไม่ทิ้งหลักฐานและร่องรอยไว้ และจะได้เงินว่าจ้างหมื่นกว่าบาท โดยให้เงินล่วงหน้าห้าพันบาท มัดจำไว้ก่อน
นายมงคล รีบตอบตกลงทันที โดยไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย
1
ทั้งหมด ไปพบหมออธิปผู้ว่าจ้างตัวจริง
นายชูยศ แนะนำหมออธิป ให้ผู้รับจ้างทราบโดยทั่วกัน จากนั้นหมออธิปก็ให้เงินนายยง ล่วงหน้า จำนวน 5000 บาท เป็นเงินมัดจำฆ่าคน
จากนั้นหมออธิปก็วางแผนตกลงกันว่าจะพานวลฉวีภรรยาของหมอมาสังหารที่โรงครัวของบ้านหลังนี้ ส่วนเครื่องไม้เครื่องมือหมออธิปจะเตรียมไว้ให้ ขอให้มาตามเวลาที่กำหนด
วันที่ 10 กันยายน ปี พ.ศ. 2502 ถึงเวลาลงมือสังหารนวลฉวี ตอนเช้าหมออธิป โทรศัพท์นัดนางนวลฉวีและรับนางนวลฉวีออกจากโรงพยาบาลยาสูบ โดยพาไปที่บ้านสร้างใหม่ของนายชูยศ ที่สวนบางบำหรุ
1
เวลาบ่ายโมงเศษ นายยง ไปที่บ้านนายชูยศ สมทบกับนายชูเกียรติ เพื่อดูสถานที่ทำการสังหาร เตรียมมีดปลายแหลม ผ้าพลาสติก และสายไฟคู่สีเหลือง 1 ขด และไม้ไผ่เพื่อหามศพ เตรียมเสร็จแล้วนายยงก็กลับบ้านนอนเอาแรงเพื่อเตรียมลงมือในช่วงเย็นนี้
เมื่อถึงเวลา 17.00 น. (โดยประมาณ) นายยง นายชูเกียรติ และ นายชูยศ พากันซุ่มมองที่ห้องน้ำเพื่อรอดูหมออธิปพาเป้าหมายที่พวกเขาต้องการสังหาร
1
เวลา 18.00 น. เศษ หมออธิปนำนวลฉวีมาทางหน้าบ้านของนายชูยศ แล้วพาเข้าห้องครัว ปิดประตูลงกลอน หมออธิปรอจังหวะที่นวลฉวีเผลอโปะยาสลบจนเธอค่อย ๆ หลับไป
เมื่อหมออธิปตรวจเช็คว่า ยาสลบของฤทธิ์แล้ว จึงชะโงกหน้าต่างเรียกลูกสมุนที่แอบซุ่มอยู่ออกมา ก่อนออกจากห้องไป พร้อมปล่อยลูกสมุนมาจัดการกับนวลฉวี
1
นายยง ข่มขื่นนวลฉวี 1 ครั้ง นวลฉวีไม่รู้สึกตัวเพราะโดนยาสลบอยู่
นายมงคลจับแขนซ้ายของนวลฉวีพร้อมพลิกตะแคงร่างเธอไปทางขวา
จากนั้นนายมงคล ได้หยิบมีดปลายแหลมทำการแทงนวลฉวีไป 3 ครั้ง นวลฉวีร้อง อึก ๆ ๆ นายมงคลแทงจนรู้ว่าเธอไม่น่ารอดแล้ว จึงบอกนายเยี่ยมน้องชายให้มาช่วยกันหามศพนวลฉวี
3
"เมื่อข้าข่มขื่นเธอเสร็จแล้ว ข้าย้ายผู้หญิงลงและคว่ำตะแคงตัวด้านขวาของผู้หญิงคนนั้น จากนั้นข้าก็เอามีดสีขาวปลายแหลมที่พื้นกระดานปลายเตียงแล้วแทงผู้หญิงคนนั้นทางด้านหลังไป 3 ที ไม่รู้ที่จุดตรงไหน ผู้หญิงคนนั้นร้อง ฮึก ๆ ๆ สองสามครั้ง จากนั้นข้าก็ตามนายเยี่ยมมาช่วยหามศพ"นายมงคลบอกต่อศาล
2
จากนั้น ทั้งสองคนช่วยกันเอาเสื้อชั้นนอกที่หัวเตียงมาสวมให้กับศพ แล้วยกศพวางบนผ้าพลาสติกที่ซึ่งปูรอไว้แล้ว นายมงคลเอาสายไฟมัดที่ข้อเท้าศพ มัดบั้นเอว และมัดที่หัวไหล่ จากนั้นก็ใช้ไม้ไผ่สอดใต้สายไฟที่มัดไว้แล้วหามศพออกจากบันไดหลังบ้าน
โดยมีเลือดหยดตามพื้นเป็นรายทาง นายยงและนายเยี่ยมหามศพ ส่วนนายมงคลทำความสะอาดจุดสังหาร
ศพของนวลฉวี ถูกขนย้ายผ่านสวนพจน์ที่อยู่ใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ นายมงคลตามมา ทั้งสามข้ามคูถนนจรัญสนิทวงศ์ ลุยคูน้ำที่มีน้ำลึก 50 ซม. ไปหานายมงคลตรงหลักกิโลเมตรที่เดิม จากนั้นก็วางศพไว้ข้างถนน
1
หมออธิปเปิดประตูรถ จ่ายเงินค่าจ้างที่เหลือให้กับผู้รับจ้างทุกคน จากนั้นก็ช่วยกันเอาศพขึ้นรถ บรรทุกโฟล์คสวาเก้น ทะเบียน กข.ข.0253 มุ่งหน้าไปทางสะพานพระราม 6 สำหรับไม้ไผ่หามศพ นายเยี่ยมเป็นคนนำไปทิ้ง แต่ทิ้งที่ไหนไม่มีใครทราบ
แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่แก๊งจะทิ้งศพนวลฉวี มีรถคนหนึ่งผ่านมา และเกิดสงสัยว่าทำไมรถถึงจอด รถเสียหรือเปล่า เลยหยุดจอดถาม แต่ได้เสียงกระชาก ๆ ตอบกลับว่า "เปล่า" แทน
เวลา 20.00 น. ศพของนวลฉวีถูกนำมาทิ้งจากสะพาน นนท์บุรีลงแม่น้ำเจ้าพระยา ชาวบ้านแถวๆ นั้นได้ยินเสียงตูม !! กันไปทั่ว ลาก่อน....นวลฉวี
1
Cr.liekr
อุตสาห์วางแผนอย่างดิบดี คิดว่าไตร่ตรองดีแล้ว แต่ที่ไหนได้ พลาดเพราะแหวนวงเดียว และแหวนนั้น ได้สลักคำว่า "รามเดชะ" (นามสกุลเดิมของหมออธิป)
ขุนสุญาณเศรษฐกร บิดาหมออธิป เห็นท่าทางคดีนี้เริ่มจะไม่ดี หมออธิปอาจจะแพ้ได้ จึงจ้างนายชมพู อรรถจินดา ทนายความที่มีชื่อเสียงด้วยตัวเงินที่สูงลิบลิ่ว หมออธิปเริ่มมั่นใจว่ามีทนายฝีมือดีขนาดนี้ ตนต้องชนะคดีอย่างแน่นอน
2
การพิจารณาของศาล เป็นไปด้วยความดุเดือดเลือดพล่าน เพราะมันเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่ไทยต้องจารึก ใครแพ้มีหวังล่มจม ส่วนประชาชนทั้งประเทศต่างก็จับตามองคดีนี้แบบไม่กระพริบตา พวกเขาอยากรู้ว่าผลความยุติธรรมจะทำให้นักโทษทั้งหมดโดนประหารหรือไม่ ?
2
"ถ้าผมจะฆ่าภรรยาผม ทำไมผมต้องจ้างคนอื่นให้เสียเวลาทำมาหากินด้วยละ สู้เอามือบีบคอภรรยาให้ตายคามือดีกว่ามั้ง" หมออธิปแก้ตัวต่อศาล
วันที่ 12 ธันวาคม ปี พ.ษ. 2503 ณ ศาลอาญา บังลังก์ที่สอง คือวันพิพากษาหมออธิปและพรรคพวก...
1
ผู้พิพากษาทั้งสี่ประกอบด้วย นายเฉลิม กรพุกกะณะ นายพินิจ เพชรชาติ นายสว่าง เวทย์ และนายวุฒิกรรม วงษ์ศิริ ออกมานั่งบัลลังก์ตัดสินคดีประวัติศาสตร์อาชญากรรมท่ามกลางประชาชนนับหมื่นที่แห่มาฟังคำพิพากษาอย่างมืดฟ้ามัวดิน
จนถึงขนาดต่อลำโพงโดยรอบสนามหญ้าบริเวณศาลทหารอาญา เก้าอี้หลายตัวในศาลหักเพราะทานแรงคลื่นของมวลชนไม่ไหว
จนกระทั่ง นาทีระทึกขวัญมาถึง ทุกคนพากันสงบนิ่ง รอฟังผู้พิพากษาอ่านคำตัดสิ้นช่วงสุดท้าย
"นายอธิปจำเลยที่ 1 มีความผิดตามที่กล่าวหา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 อนุมาตรา 4) 83 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และฐานก่อให้คนอื่นกระทำความผิดให้ต้องโทษประหารชีวิตนายอธิปจำเลยที่ 1
1
ส่วนนายมงคล จำเลยที่ 5 มีความผิดฆ่าคนโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 และ 83 ให้ระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต และยึดมีดสั้นปลายแหลมที่ใช้ฆ่านวลฉวีไป
ส่วนนายชูยศ และนางสุขสม จำเลยที่ 2 และ 3 และนายชูเกียรติ จำเลยที่ 4 ศาลไม่มีหลักฐานเอาผิดเลยให้ปล่อยตัวพ้นผิดไป"
สิ้นคำพิพากษา หมออธิปตกตะลึง เพราะตัวเองมั่นใจเต็มร้อย ว่าตัวเองน่าจะรอด เพราะมีทนายมือหนึ่งของไทยว่าความให้เขา
แต่ถึงอย่างนั้น
Cr.lifestyle
ภายหลังต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชการปัจจุบัน และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสร็จกลับจากประเทศนิวัตพระนคร ถือว่าเป็นวันมงคล หมออธิปได้รับอนิสงค์ได้รับการอภัยโทษ ประกอบกับพ่อแม่วิ่งเต้นเรื่องเขามาตลอด ทำให้หมออธิปถูกจำคุกเพียง 1 ปีเศษเท่านั้น
เหลือเชื่อ !!??
แต่อย่างไรก็ตาม หลังหมออธิปพ้นโทษ ชีวิตที่เหลือของเขา ก็เข้า ๆ ออก ๆโรงพยาบาลบ่อยครั้ง เพราะเขาได้รับโรคติดต่อตอนอยู่ในคุก และจนถึงวาระสุดท้าย....
หมออธิปนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล ท่ามกลางญาติสนิท หมออธิปเอยปากก่อนตายเรื่องนวลฉวี "นวลฉวี พี่ขอโทษ พี่เป็นคนฆ่าเธอเองแหละ........" พูดจบหมออธิปก็สิ้นลมลงในทันที
และหลังจากนั้น บ้านที่นวลฉวีถูกฆ่าในสวนบางบำหรุ ก็ถูกเล่าลือว่าเห็นผีผู้หญิงอยู่บ้านหลังนั้น ทุกคนต่างเรียกหลังนั้นว่า "บ้านผีสิง" ซึ่งเรื่องราวของนวลฉวีนั้น ถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์ด้วย นะคะ
Cr.wikipedia
หากท่านใดสนใจภาพยนตร์นวลฉวี Red Diary ลงคลิปไว้ให้ลิ้งด้านล่างนี้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามกันมาเสมอค่ะ 😊❤
หากท่านใดชื่นชอบ กดไลค์ กดแชร์ และกด Follow ให้กับเราด้วยนะคะ เรายินดีจะนำบทความดี ๆ ที่น่าสนใจมานำเสนอแก่ทุกๆท่านค่า ขอบคุณค่ะ ❤ 😁
Cr.khlonglan , postjung , thairath
เรียบเรียง : Red Diary ❤
โฆษณา