14 เม.ย. 2019 เวลา 07:31 • ธุรกิจ
ตำนาน BANDAI
เรื่องนี้เป็นเรื่องสนุก คนที่คุ้นเคยกับกันดั้มน่าจะชอบ
BANDAI เป็นบริษัทผลิตของเด็กเล่นชื่อดังจากญี่ปุ่น
รู้ไหมว่า บริษัทนี้มีรายได้เป็นแสนล้าน
อะไรทำให้ของเด็กเล่นจากบริษัทนี้ขายดี?
ลงทุนแมนจะมาเล่าให้ฟัง
bandai-hobby.net
bandai-hobby.net
บริษัท BANDAI (บันได) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1950 โดยคุณ Naoharu Yamashina
ในปี 1963 บันไดเริ่มผลิตของเล่นที่มาจาก การ์ตูน อนิเมชันซีรี่ส์เรื่องแรกของญี่ปุ่นอย่าง ”เจ้าหนูปรมาณู”
ในปี 1974 บันไดสร้างสินค้าฮิตระดับตำนานอย่าง “หุ่นเหล็ก (Chogokin)” เป็นสินค้าที่พลิกความเชื่อในวงการของเล่นว่าโลหะเอามาทำตัวละครไม่ได้
และจุดเปลี่ยนที่สำคัญของบริษัทบันไดก็มาถึง
ปี 1979 อนิเมะกันดั้มได้ออกฉายเป็นครั้งแรก
ปี 1980 บันไดออกสินค้าที่เป็นตัวทำเงินอย่างต่อเนื่องยาวนานและมากที่สุดให้บริษัทจนถึงปัจจุบัน นั่นคือ “กันพลา”
กันพลา ย่อมาจาก GUNdam PLAstic Model หรือแปลว่า แบบจำลองพลาสติกของกันดั้ม
จุดเด่นของสินค้าจากเรื่องนี้จะเป็นพลาสติก โมเดลที่มีรายละเอียด จุดขยับและให้ทุกตัวอยู่ใน สเกลเดียวกัน ซึ่งทำให้เมื่อมาวางรวมกัน ขนาดของแต่ละตัวก็จะมีสัดส่วนถูกต้อง ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน
กันพลา สร้างรายได้มหาศาลจนขนาดที่ว่าบันไดออกหุ่นครบทุกตัวที่ออกในเรื่องแล้ว ยังไม่พอต่อความต้องการของลูกค้า
ยุค 80 บันไดมีสินค้าจากอนิเมะที่สร้างจากนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ “โชเน็น จัมป์” ไม่ว่าจะเป็น ดราก้อนบอล, คินนิคุแมน, เซนต์เซย์ย่า ที่ทุกวันนี้หลายๆ คนก็ยังคุ้นเคย
ต้นยุค 90 บันไดเปิดโรงงานเพิ่มในเวียดนามเพื่อผลิตสินค้า Power Rangers รองรับความต้องการของเล่นจากหนังขบวนการ 5 สี ที่ถูกอิมพอร์ทไปฉายที่อเมริกาซึ่งเป็นที่นิยมมาก
1
ส่วนในเอเซียเราก็มีสินค้าฮิตของบันไดไม่แพ้กันซึ่งก็คือเหล่าสาวน้อย “เซเลอร์ มูน” นั่นเอง
ในปี 1997 บันได เทคโอเวอร์ ซันไรส์ บริษัทผู้ผลิตอนิเมะกันดั้ม เพื่อความชัวร์ว่าแหล่งทำเงินตัวนี้จะไม่มีวันหลุดไปจากมือ
1
ในปี 2005 ก็ควบรวมกิจการกับ Namco (นัมโค) อีกยักษ์ใหญ่ในวงการเกมและอาร์เคด กลายเป็นโฮลดิ้งคอมปะนี
Bandai Namco (บันไดนัมโค)
หลังการควบรวมกิจการ บันไดได้หันมาให้ความสนใจในการสร้างแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโรงงานในจังหวัดชิซูโอกะให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชมการผลิตกันพลา, การเปิดบันไดมิวเซียมในบริเวณสำนักงานใหญ่, การสร้างกันดั้มตัวแรกขนาดเท่าตัวจริง (1:1) รวมถึงการเปิดร้าน Gundam Front ที่เขตโอไดบะ
บันไดยังไม่หยุดแต่เพียงเท่านี้แม้แต่คาแร็คเตอร์จากหนังซูเปอร์ฮีโร่ของฮอลลีวูดก็ไม่สามารถรอดสายตาไปได้
บันไดได้เริ่มเปิดไลน์ผลิตสินค้าจากคาแร็คเตอร์เหล่านี้ทันที และสามารถเปิดตลาดได้อย่างดงามเหนือคู่แข่งคนอื่นๆ
ในช่วงหลังๆ นี้เองต้องยอมรับว่าภาวะตลาดดูจะไม่ค่อยเป็นใจกับบันไดเท่าไหร่นัก เนื่องจากอัตราการเกิดที่ลดลง ทำให้จำนวนเด็กลดน้อยลง ทำให้ต้องเน้นไปที่ตลาดของนักสะสมและของเล่นสำหรับผู้ใหญ่แทน
BANDAI
รายได้ของบันได (ดูแลธุรกิจของเล่นภายใต้บันไดนัมโค)
ปี 2017 มีรายได้ 62,293 ล้านบาท กำไร 3,808 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 63,527 ล้านบาท กำไร 4,135 ล้านบาท
ใครจะไปเชื่อว่าบริษัทผลิตตุ๊กตาเด็กเล่น มีรายได้เป็นหมื่นล้านบาท
มาลองดูรายได้ของกลุ่มบันไดนัมโคกันบ้าง
ปี 2017 รายได้ 179,818 บ้านบาท กำไร 12,806 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 196,710 ล้านบาท กำไร 15,692 ล้านบาท
สัดส่วนกำไรจากของเล่น 18% วีดีโอเกม 62.3% หนังและเพลง 8.2%
สัดส่วนกำไรของเกมค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนมากกว่าของเล่นเกือบ 3 เท่า
นัมโคช่วยให้บันไดสามารถพัฒนาจากธุรกิจของเล่นออกไปได้กว้างขึ้น รวมถึงการพัฒนาสินค้าเดิมๆ ให้ดีขึ้น
แทนการที่จะมาค้นหาสินค้าใหม่ๆ ซึ่งอาจจะไม่ทันการ หรือแม้กระทั่งการสร้างคาแร็คเตอร์ใหม่ให้ติดตลาดก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยาก
ถ้าวันนั้นบันไดหยุดพัฒนาตัวเองแล้วหยุดแค่ธุรกิจของเล่น เราอาจจะไม่ได้เห็นบันได ใหญ่โตถึงทุกวันนี้ก็เป็นได้
ทิ้งท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้ไหมว่า กันดั้มที่แพงที่สุดในโลกราคาเท่าไหร่ ?
Gundam Fix Platinum Toy Robot มีมูลค่าสูงถึง 7,500,000 บาท สร้างจาก Platinum เกือบทั้งหมดและยังมีเพชร 1.5 กะรัตติดตรงลูกตาอีกด้วย
เรียกได้ว่าต้องขายบ้านเพื่อมาซื้อกันดั้มกันเลยทีเดียว..
โฆษณา