19 เม.ย. 2019 เวลา 12:33 • ธุรกิจ
กลยุทธ์แม่เหล็กสูบสปอนเซอร์
ง่ายๆครับเอา10บาทไปแลกในเซเว่น แล้วคุณจะได้มา..... ถุยย🤣
การหาสปอนเซอร์มาช่วยลงทุนทำธุรกิจ คงเป็นหนึ่งในเป้าหมายของหลายคน ที่ครั้งนึงในชีวิตต้องทำให้ได้ก่อนตายเนอะ 🤙
ซึ่งการที่ธุรกิจของเรามีสปอนเซอร์ มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแหละ อย่างที่เรารู้กันครับ
ถ้าเราทำให้เค้าประทับใจได้ อนาคตทางธุรกิจระหว่างเรากับเค้าก็อาจรุ่ง
แต่ถ้าเราทำได้ไม่ดีพอ เราก็อาจโดนแบน ก็แค่นั้น
ไอ้ที่ผมเกริ่นไปเมื่อกี้มันไม่เกี่ยวกับเรื่องหลักหรอก แค่พูดลอยๆ😆
ประเด็นหลักคือหลังจากนี้ครับ
เมื่อพูดถึงคำว่าสปอนเซอร์ คนทำธุรกิจส่วนใหญ่ จะนึกแต่คำว่า "ต้องหา"
เราต้องจดชื่อหลายๆที่ เดินถือแฟ้มเข้าไปขอ มีกลยุทธ์โน่นนี่นั่น ซึ่งคนที่มีความรู้มากพอที่จะขอสปอนเซอร์สำเร็จนั้น
มักจะเป็นบุคลากรที่มี skill ขั้น advance และสิงสถิตอยู่ตามองค์กรใหญ่ๆ เช่น ไทยประกัน.....
"แล้วคนธรรมดามันจะหาสปอนเซอร์มาสนับสนุนได้จากที่ไหนวะ?"
นี่เป็นคำถามที่เรา จะได้ยินกันบ่อย
ผมเลยจะเอาวิธีของผมมาช่วยแก้ปัญหาให้คนธรรมดาตั้งแต่ระดับรากหญ้า สามารถมีสปอนเซอร์ได้ครับ
ด้วยการเปิดประเด็นเท่ๆในแบบ I'm sam ว่า
"จะดีกว่ามั้ยครับถ้าคุณไม่ต้องไปวิ่งหาสปอนเซอร์ แต่ใช้กลยุทธ์แม่เหล็กสูบสปอนเซอร์เข้ามาหาเราเอง"
กลยุทธ์ต่อไปนี้แหละที่จะทำให้สถานะของเรา " จากผู้ถูกเลือกกลายพันธุ์เป็นผู้เลือก"
ลุยครับ!!
🧲1.ใช้การออกแบบชื่อองค์กร
หมายความว่า เราจะดูดสปอนเซอร์เข้ามาหาด้วยการที่เค้ารู้สึกว่าเราเป็นพวกเดียวกัน
ยกกรณีตัวอย่างเป็นyoutuberละกันครับ
เราจะสังเกตนะว่าyoutuber ไทยดังๆใช้ชื่อ Channel ตามใจตัวเองมาก เช่น bayriffer Kaykai Salaider สอดอ Style
3 Channel ที่ผมยกมาเป็นตัวอย่างเมื่อกี้ ล้วนแต่เป็น Channel ที่สามารถสร้างรายได้หลักล้านมาแล้วทั้งนั้น
สาเหตุเพราะเขาเริ่มมาตั้งแต่ช่วงต้นๆของยูทูปไทยครับ
kaykaisalaider รุ่นน้องม.กรุงผมเอง😆
ทำให้ยอด follower ยอดผู้ติดตาม ยอดการมีส่วนร่วมมันมีเยอะกว่า Channel อื่นที่มาทีหลัง
แต่ช่องที่เพิ่งเปิดใหม่ในปีนี้หรือปีก่อน
ถ้าใช้ชื่อคล้ายๆกันกับแนวนี้รับรองเกิดยาก
เพราะว่าชื่อเรานั้นมันเป็นชื่อที่บอกถึง character ครับ
ถ้าเป็นแบรนด์เราจะเรียกว่า Personal branding แฟนคลับหรือคนหน้าใหม่ที่เล่นยูทูปจะรู้จักพวกเขาในฐานะ"ตัวบุคคล"
ถ้าบุคคลพวกนี้ไม่อยู่องค์กรก็ล่ม
(ผมว่าข้อนี้ผมร่ายยาวไปนะ จับประเด็นยาก)
เอาสั้นๆละกัน "ชื่อแบบนี้มันจะไม่สามารถทำให้สปอนเซอร์เข้าใจถึงสิ่งที่เราต้องการสื่อสารครับ"
คือชื่อมันบ่งบอกแค่ว่า ไอ้คนนี้ชื่ออะไรมีคาแรคเตอร์แบบไหน... แต่ไม่ได้บอกว่าไอ้นี่มันทำอะไรในchannel
งงมั้ย?
เพราะพวกเค้าดัง เค้าถึงมีสปอนเซอร์เข้า มันไม่ได้มีกลยุทธ์อะไร.....
สวัสดีครับ ผมคือbayriffer🤯🤯 เย้เฮ่!!
แต่แต่มันจะมีการออกแบบชื่อแบรนด์ ที่น่าสนใจมากครับหากคุณเคยได้ยินชื่อ อย่างเช่น Channel start Your Way
Channel Fit Junctions ไอ้สองตัวนี้แค่เราได้ยินชื่อเนี่ยเราก็รู้แล้วนะว่าเขาต้องการสื่อสารอะไรในแบรนด์ของเขา
start Your Way ถ้าแปลเป็นไทยก็สร้างเส้นทางนายตัวเองเต็มๆเลยครับ
ดังนั้นพวกสปอนเซอร์ที่สนับสนุนให้คนสร้างเส้นทางนายตัวเองจะมาเข้าหาแนวนี้ครับ
คุณวิทนี่เป็นแรงบันดาลใจผมมาก
Fit Junctions ตัวนี้แค่ชื่อก็บ่งบอกถึงคนที่ออกกำลังกายแน่ๆครับ
ดังนั้นสปอนเซอร์ที่จะเข้าหา Channel นี้จะชัดเจนกับเค้ามาก
อาจจะเป็นพวกเวย์โปรตีนหรือเครื่องดื่มเกลือแร่หรืออาหารคลีนจะกดเข้าหา Channel นี้ Channel แรกๆเลยถ้าเค้าเห็นชื่อช่อง
เพราะว่าชื่อมันชัดเจน ว่าแบรนด์นี้ทำเกี่ยวกับอะไร
อยากผอมต้องchannelนี้💪
เราถึงได้เห็นบ่อยๆไงครับ ว่าในfacebookจะมีเพจที่เป็นชื่อแล้วก็บอกถึงสิ่งที่เค้าทำด้วย เช่น ITmild เป็นการต่อคำและเล่นคำระหว่าง
IT + mild กับ อีกคำที่แปลว่า "นี่มายด์เอง"ไรงี้
เนื้อหาก็จะเกี่ยวกับเรื่องไอที มีน้องมายด์ แฟนในมโนผมเอง เป็นคนดำเนินรายการ
น่าลากมากครับ☻
เอางี้ ไม่ต้องไปถึงfacebookหรอก ดูแค่ใน blockditก็รู้แล้วครับ
เช่น วิเคราะห์บอลจริงจัง (แม้content จะออกทะเลจากชื่อบ้าง แต่เพจนี้บทความฟุตบอลดีนะเออ)
ประวัติศาสตร์ไทยและเทศ...... (อันนี้แค่อ่านก็รู้แล้วว่าทำอะไร แต่ผมไม่รู้ว่าสปอนเซอร์แบบไหนถึงจะเข้าหา)
ข้อนี้เอาแค่นี้แหละ
ผมว่าภาพเยอะไปนะ🙄 จากนี้งดภาพละกัน
🧲🤫
2. ออกแบบโลโก้แบรนด์
ข้อนี้สอดคล้องกับข้อหนึ่งครับคุณดูโลโก้ที่ผมยกมาให้ดูนะครับ
รูปแบบของภาพโลโก้และสีของโลโก้ มันมีส่วนที่จะดึงดูดสปอนเซอร์เข้ามาหาเรา
อย่างเช่นคุณเห็น Workpoint Entertainment มั้ย
Workpoint เป็นแบรนด์โลโก้เน้นสีเขียวตรงกลางที่มีความสนุกครับ เค้าก็ดึงเอาสปอนเซอร์ที่เป็นแบรนด์สีเขียวที่ต้องการสื่อสารเหมือนกัน เข้าหาเค้า
สปอนเซอร์ที่เราเห็นชัดก็อย่างเช่น AIS next G อยู่ในรายการปริศนาฟ้าแลบ หรือ App Kbank ก็เข้าหาเวิร์คพอยท์นะครับ
เอาง่ายๆข้อนี้
โลโก้คุณต้องบ่งบอกถึงcharacterของคุณ และต้องวางแผนใส่สี ให้ดึงดูดสปอนเซอร์ในแบบที่คุณต้องการครับ
ตอนนี้คุณเป็นผู้เลือกตั้งแต่เริ่มลงสนามแล้วนะ.....
.
🧲🤓3. CSR + call to actions
“Corporate Social Responsibility (CSR) หมายถึง ความรับผิดชอบต่อสังคม
เอาศัพท์แบบบ้านๆก็คือช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อมนั่นแหละครับ ยกตัวอย่างเช่นคุณมีเพจ ผู้ติดตามเยอะรายได้เยอะ
คุณก็แบ่งรายได้จากการที่คุณทำเพจ ไปช่วยเหลือสังคมแต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องเด่น เอา Story เกี่ยวกับการช่วยเหลือสังคมของคุณมาป่าวประกาศให้โลกรู้
จำไว้นะครับยุคนี้จะได้ดีทำดีต้องเด่น เมื่อคุณมีสตอรี่มากพอคุณอาจไปเตะตาแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งได้ครับ
ซึ่งแค่ทำให้ความดีของเราไปเตะตาใครมันยังไม่พอครับ
ผมถึงได้บอกว่ามันต้องมีเครื่องหมาย + call to actionsหมายถึงป่าวประกาศให้คนที่มีแนวคิดคล้ายๆกับเรา
สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเราได้ อย่างเช่นโตโยต้าทำ CSR บ่อยๆ บางทีเค้าอาจจะสนใจแบรนด์หรือเพจเล็กๆที่ทำ CSR บ่อยเหมือนเค้าก็ได้
"CSR ช่วยให้คนรู้จักเราเยอะขึ้น เพราะสังคมชอบเห็นคนทำความดี แล้วมันแชร์ส่งต่อกันง่าย"
ส่วน call to actions ก็เป็นประโยคแบบว่า
ตอนนี้ผมทำเพจนะครับ ผมปล่อยโพสต์ 1 โพสต์มีคนเห็นได้เป็นหมื่น ในเวลาแค่ไม่ถึง 1 วัน
ใครสนใจทำโฆษณาไวรัลก็ติดต่อเรามาได้นะครับ
"มันเป็นการดูดสปอนเซอร์เข้าหาเรา"
เก็ทนะ
.
🧲😄
4.Content คุณโดนใจ
มีแต่คนบอกว่า Content is King
จริงครับข้อนี้คุณไปเปิดดูในเน็ตก็ได้นะผมไม่รู้จะอธิบายให้มันเยอะกว่าเดิมยังไง บอกสั้นๆแบบนี้ไปโลด
แต่อย่าลืมว่านอกจากContent มันจะมีking อีกตัวนึงที่เราเรียกว่า connection
🧲⏱
5.ใช้การยิงโฆษณาให้เข้ากับกฎ 7 ชั่วโมงครับ
ข้อนี้สามารถเอาไปใช้ในการขายของได้ด้วย
มันมีทฤษฎีจิตวิทยาข้อหนึ่งที่บอกว่าถ้าเราไปปรากฏให้ใครเห็นรวมกันแล้วครบ 7 ชั่วโมงเราจะกลายเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อชีวิตเค้า
อารมณ์มันก็คล้ายๆกับเราดู YouTube Channel เดิมๆแหละครับ เก๋ไก๋สไลเดอร์อาจจะไม่ดังกับพ่อแม่เราแต่เค้าจะเป็นคนดังสำหรับเรา
ส่วนการยิงโฆษณาผมแนะนำให้ยิง ADS ใน Facebook เพราะเราสามารถเลือกได้เลยว่าเราอยากให้โฆษณาที่เราส่งไป
มันโดนคนแบบไหน คุณก็แค่ยิงไปซ้ำแล้วซ้ำอีกแล้วก็ดูผลครับว่า feedback มันเป็นยังไง
.
🧲😎
6.เปิดโอกาสโปรโมทให้ฟรี
ผมใช้คำว่า"เปิดโอกาส"นะครับ สมมติคุณมีผู้ติดตาม 10,000
ไปป่าวประกาศบอกโลกว่าตอนนี้คุณมีแฟนเพจสุดที่รัก 1 หมื่นคน
คุณพร้อมที่จะโฆษณาให้แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง ไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย
(ถ้าใครเป็นแบรนด์ใหม่เพิ่งเริ่มตั้งเอาวิธีนี้ไปใช้นะครับ)
เราโฆษณาให้เค้าไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่เราได้ Story นี้ไปสร้างให้กับแบรนด์ของเรา
โดยต้องตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรกันชัดเจนด้วยนะ
อย่างเช่น ฟาร์มเฮ้าส์ติดต่อมาให้ลุงแมนลงโฆษณาให้ฟรีๆในพื้นที่ของเพจลุง
ลุงก็ยิงแอดให้ฟรีครับ แต่ระหว่างนั้นลุงแมนก็ต้องสร้าง storyเอาไว้
เช่นลุงแมนสามารถทำให้คนเห็นโฆษณาของฟาร์มเฮ้าส์ได้ถึงสองหมื่นคนใน 1 วัน
และมีลูกเพจ inbox เข้ามาขอซื้อสินค้ากับลุงแมน
ลูกแมนก็จะแคปจอเอาไว้หรืออัดวีดีโอไว้
จากนั้นเมื่อหมดเวลาโปรโมทตามสัญษ
ลุงแมนก็เอาไอ้เรื่องพวกนี้มาโปรโมทให้กับตัวเอง
กลยุทธ์นี้มันก็คล้ายๆกับพวกยาลดความอ้วนใน Facebook อ่ะครับ แบรนด์ดังๆจะประกาศหาคนที่ต้องการลดน้ำหนัก 10 กิโล 20 กิโล
เข้ามาใช้สินค้าของเค้า
เมื่อเห็นผล เค้าก็เอาเรื่องราวของคนที่สามารถลดน้ำหนักได้มาโปรโมท
คนที่น้ำหนักลงก็ได้ผลประโยชน์ไม่เสียเงิน
เจ้าของแบรนด์ก็ได้ Case Study มาเป็นเรื่องราวในการขายของ
win win ครับ
กรณีของข้อนี้มีข้อแม้อยู่ว่าอย่าทำให้แบรนด์ไหนฟรีเกิน 2 ครั้ง
และภายใน 2 ครั้งที่ว่าคุณต้องทำให้สุดกำลังที่คุณทำได้เพื่อที่จะได้story ดีที่สุด
.
🤪🧲
7.ไปเอาสินค้าเค้ามาใช้
มีข้อแม้ว่าร้านค้าหรือบริการที่คุณใช้ต้องมียอดของโซเชียลสูง
แม้ว่าสินค้าหรือบริการเค้าจะมีราคาแพงกว่าร้านโชว์ห่วยก็ตาม "เน้นที่มีโซเชียลสูงไว้ก่อน"
เช่น ซื้อตุ๊กตาในshop Sanrio (พวกตัวคิตตี้ของแท้)
คุณไปซื้อมาให้ลูกคุณ คุณตั้งใจซื้อสินค้ามาแต่คุณต้องไม่บอกเค้าว่าลึกๆคุณต้องการสปอนเซอร์
แต่เมื่อคุณกลับถึงบ้าน
คุณรีบเอาสินค้านั้นมารีวิวในแบบที่ Professional ที่สุดเลย
แล้วอัพโหลด โปรโมทในเพจของคุณ
ให้มันเป็นไวรัล หรือให้คนมามีส่วนร่วมในโพสต์มากที่สุด อาจมียอดเข้าชมโพสต์ พัน สองพันหรือแสนคน (ถ้าไลค์ไม่เยอะนะ) และมีคนไปคอมเม้นต์
(ซึ่งคนที่มีส่วนร่วม เราอาจให้ญาติๆนั่งสุมหัวพิมพ์ชมเชยสินค้า ข้อนี้อย่าเอาไปบอกใครนะ...)
จากนั้นคุณก็แอ๊บแบ๊วส่งไปให้ในเพจเค้าว่าคุณซื้อของจากshopเค้า
คุณโปรโมทแล้ว feedback มันดีมากเลย
1
ถ้าเกิดบังเอิญสิ่งที่คุณส่งไปให้เค้ามันโดนใจ
เค้าก็อาจเอาโพสต์ของคุณไปโปรโมทในเพจของเค้าที่มีผู้ติดตามหลักแสนหลักล้าน
อันนี้ผลประโยชน์ข้อที่ 1 คนเริ่มรู้จักคุณ
ถ้าเกิดเค้ามี product ใหม่ออกมาแล้วเค้ากำลังมองหาคนโปรโมท
คุณนั่นแหละจะอยู่ในลิสลำดับต้นๆ อันนี้ผลประโยชน์ข้อที่ 2 คุณเป็นที่สนใจของเค้า
วิธีการนี้เรียกว่า การเลือกแบรนด์แล้วเราวางเหยื่อล่อ
เอาแค่ 7 ข้อแล้วกันเนาะ ขี้เกียจพิมพ์เยอะ🙃 จะเห็นได้ว่าทุกเคสที่ผมยกมามันมีกรณีศึกษานะครับ
มันมีที่มาที่ไปแล้วมันมีคนทำได้จริง
ดังนั้นสำหรับคนที่ขี้เกียจเดินไปหาสปอนเซอร์คุณก็แค่ใช้กลยุทธ์แม่เหล็กพวกนี้แหละสูบสปอนเซอร์เข้ามาหาคุณ
ผมไม่มั่นใจว่าผมอยากจะให้โพสต์นี้มันอยู่นานหรือเปล่าเพราะมันไม่ใช่ความรู้ที่คนทั่วไปจะได้กันฟรีๆ
เดี๋ยวขอดู feedback อีกสักวันละกัน
สรุปง่ายๆสำหรับคนที่อยากมีสปอนเซอร์ให้กับ Channelหรือ เพจ ของตัวเองนะครับ
อย่าไปคิดแค่ว่าสปอนเซอร์มันหายาก คุณแค่เริ่มลงมือทำก็แค่นั้นเอง
Now กับ Won ตัวอักษรมันเหมือนกันแค่สลับนิดหน่อยก็ได้สองความหมายแล้ว
ดังนั้น ใครมีเป้าหมายอยากได้สปอนเซอร์ให้กับธุรกิจตัวเอง ก็จง Take Action "Now" แล้วคุณจะ "won"
อยากชนะในเกมนี้ต้องกล้าเริ่มครับ
I'm sam 😉
โฆษณา