19 เม.ย. 2019 เวลา 15:21 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
การเลือกซื้อสมาร์ตโฟนในยุค 2019 ตอนที่ 1
การเลือกโดยดูจากผลงานที่ผ่านมาของแต่ละแบรนด์
www.techradar.com
ปัจจุบันเทคโนโลยีสมาร์ตโฟนแต่ละยี่ห้อ ไม่ได้ทิ้งห่างกันเหมือนยุคก่อนๆแล้ว การเลือกซื้อ โดยดูจาก spec และราคา เป็นหลัก อาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดอีกต่อไป
ซึ่งหากเราดูตาม influencers ทั้งหลาย จะพบว่าการรีวิวมือถือแต่ละรุ่นก็จะดูจาก techical spec เป็นหลัก ซึ่งนักรีวิวหลายๆ คน แทบไม่ได้ใช้มือถือรุ่นไหนเกิน 6 เดือนด้วยซ้ำ เพราะต้องคอยตามเทคโนโลยีตลอดเวลา หากผู้ใช้งานอย่างเราๆ เอาไปใช้งาน 1-2 ปีขึ้นไป ประสบการณ์ใช้งานอาจจะต่างกับการรีวิว แบบฟ้ากับเหวเลยก็ได้ วันนี้เราจะมาวิเคราะห์แต่ละแบรนด์กันกันค่ะ
1. SAMSUNG
ขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดได้เพราะ Galaxy S และ Note เป็นสมาร์ตโฟนฝั่งแอนดรอยตัวแรกๆ ที่สามารถเทียบกับ iphone ได้อย่างสูสี
- จุดเด่น
1. เจ้าพ่อกิมมิค มักมีลูกเล่นแปลกๆ มาให้ข่มยี่ห้ออื่นเสมอ
2. หน้าจอสีสวยกว่าเจ้าอื่น
3. เรือธง วัสดุดีและทนมาก
4. มีทุก segment ให้เลือกสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม
5. Galaxy gift ส่วนลดร้านค้าต่างๆ
- จุดด้อย
1. มักมีปัญหาจากการ design เหมือนออกแบบไม่เสร็จหรือคิดยังไม่รอบด้าน รีบเอามาขายก่อนเพราะกลัวไม่ทันเจ้าอื่น
2. Segment ล่างๆ ถ้าใช้เกิน 1ปีครึ่ง มักเจอปัญหาเยอะมาก
3. ราคามักแพงกว่าคู่แข่งใน segment เดียวกัน พอสมควร
- เหมาะสมกับใคร
1. Samsung นั้น เหมาะกับทุกคน ที่ไม่ได้ต้องการฟังก์ชันอะไรหรือต้องการใช้งานด้านไหนเป็นพิเศษ แค่อยากได้มือถือดีๆซักเครื่อง การกำเงินเข้าร้านไปแล้วหยิบ ss รุ่นที่เหมาะสมกับงบตัวเอง ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีแล้ว
2. หากคุณต้องการมือถือระดับ hi-end ฝั่งแอนดรอย ตระกูล S และ Note มักเป็นมือถือที่คะแนน overall อยู่ระดับต้นๆ เสมอ
2. Apple
ผู้ให้กำเนิดสมาร์ตโฟนในยุคปัจจุบัน
- จุดเด่น
1. ฝั่ง ios apps มักจะเสถียรกว่า เล่นเกมลื่นมากๆ ความเป็นส่วนตัวสูงกว่า บริการหลังการขายดีกว่า
2. ถ้าเป็นผู้ใช้งานสายขาว(ซื้อของลิขสิทธิ์เสมอ) และมีอุปกรณ์ของ apple หลายๆอย่าง ชีวิตจะสะดวกสบายมากๆ
3. อายุการใช้งานค่อนข้างนาน update softwareให้อย่างน้อยๆ ก็ 3 ปี
- จุดด้อย
1. ราคาแพงกว่าคนอื่นมากๆๆ ทั้งๆ ที่ spec ธรรมดา
2. ผู้ที่ชอบใช้งานสายมืด(เพลงเถื่อน หนังเถื่อน apps เถื่อน) จะบอกว่า ใช้งานยากกว่าฝั่งแอนดรอย
3. อุปกรณ์เสริมราคาแพง และใช้ร่วมกับยี่ห้ออื่นไม่ได้
- เหมาะสมกับใคร
1. ผู้ใช้งานสายขาว ที่พร้อมจะจ่ายให้กับทุกบริการ ชีวิตจะสะดวกกว่าฝั่งแอนดรอยมากๆ
2. Gamer เพราะ เครื่องฝั่ง ios นั้นเล่นเกมส์ได้ลื่นกว่าแอนดรอยที่ spec สูงกว่าซะอีก
3. คนที่ชอบใช้ของนานๆ ไม่ชอบเปลี่ยนมือถือบ่อยๆ (ปัจจุบันคนใช้ ip4 ip4s ที่อายุ 7-8 ปี ยังมีอยู่เลยนะ)
4. คนที่ชอบเปลี่ยนมือถือบ่อยๆ (ip ราคาขายต่อสูงที่สุด ขาดทุนน้อยสุด)
3. Huawei
มือถือจีน ที่กำลังเป็นเบอร์หนึ่ง ในปัจจุบัน
- จุดเด่น
1. ราคาถูก เมื่อเทียบกับคู่แข่งใน segment เดียวกัน
2. กล้องหลังดีงามมากที่สุด เป็นเจ้าแรกที่ทำ after focus ได้
3. ตัวล่างๆ spec แรงกว่าคู่แข่งพอสมควรเลย
4. เรือธง มักมีเทคโนโลยีใหม่ มาก่อนเจ้าอื่น
- จุดด้อย
1. ชอบยัดใส้ แอบใช้ของไม่ตรงกับ spec ที่ระบุตอนเปิดตัว
2. วัสดุและงานประกอบ ค่อนข้างด้อยกว่าคู่แข่งใน segment เดียวกัน
3. ความเสถียรและอายุการใช้งาน ที่ไม่ค่อยแน่นอน
4. หน่วยประมวลผลแรงกว่าคนอื่นจริง แต่เกมส์ในตลาดปัจจุบันยังไม่ได้ออกแบบเพื่อชิปของ huawei ทำให้เล่นเกมส์ไม่ได้ลื่นกว่าเจ้าอื่น
5. มีชิปแปลกๆในเครื่องที่ทางอเมริกา ใส่ความว่ามันจะแอบส่งข้อมูลบางอย่างให้รัฐบาลจีน
- เหมาะสมกับใคร
1. คนที่มองความคุ้มค่าโดยใช้ spec เทียบกับราคา เป็นหลัก
2. คนที่ชอบถ่ายรูป โดยใช้กล้องมือถือ (ขี้เกียจพกกล้อง)
3. คนที่ชอบตามเทคโนโลยี (ตอนนี้ huawei เป็นผู้นำ)
4. Asus
มือถือที่พยายามเจาะตลาด mobile gamer
- จุดเด่น
1. หน่วยประมวลผลและ ram ที่เด่นกว่าคู่แข่งใน ราคาใกล้กัน
2. มีตัว rog ที่เป็นมือถือที่เล่นเกมส์ดีที่สุดของฝั่งแอนดรอย
- จุดด้อย
1. เล่นเกมส์หนัก เครื่องร้อน แบตหมดไว
2. อายุการใช้งานน้อย เกิน 1-2 ปี มีปัญหาตลอด
- เหมาะสมกับใคร
1. คนที่งบจำกัด เน้น cpu/ram เป็นหลักจัดไป
2. ผู้ปกครอง ซื้อมือถือ ให้ลูกชาย ถือเป็นตัวเลือกที่ดี spec แรงถูกใจลูก ราคาน่าคบ หล่น พัง ทำหาย ไม่เสียดายมาก
5. OPPO
มือถือจีน ยอดขายอยู่ต้นๆ เน้นกล้องหน้าเป็นหลัก
- จุดเด่น
1. เซลฟี่ สวยสุดในตลาด
2. ดีไซน์ตัวเครื่องสวย
3. ราคาน่าคบหา
- จุดด้อย
1. ความเสถียรในการใช้งาน ใช้งานหนักบางทีค่างไปดื้อๆ
2. อายุการใช้งาน ไม่เกิน 2 ปี หลังจากนั้นจะค้างบ่อย กล้องมัวๆ ไม่สวยเหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆ
3. Spec การใช้งาน อย่าหวังมาก ถ้าเทียบกับคู่แข่งใน segment เดียวกัน เพราะไม่ได้เน้นทางนี้ แต่ก็ไม่ได้แย่กว่าคนอื่นเท่าไหร่
- เหมาะกับใคร
1. สาวๆ สายเซลฟี่ เน้นถ่ายรูป โซเชียล ดูคลิป แต่งรูป ขายของออนไลน์ ความเร็วเหลือเฟือแล้ว
6. Lenovo
ผู้ผลิต คอมพิวเตอร์ ลงมาเล่นตลาดมือถือ
- จุดเด่น
1. จอ กับ กล้อง ที่เด่นกว่าคู่แข่งใน segment เดียวกัน
2. Cpu ที่เพียงพอต่อการใช้งาน
3. แบตเตอรี่ ที่เน้นการใช้งานต่อเนื่อง
4. ดีไซน์ภายนอก ที่ดูเกินราคา
- จุดด้อย
1. ความเสถียร และอายุการใช้งาน ที่มักอยู่ไม่ถึง 2 ปี
2. บริการหลังการขาย และการ update software
3. เครื่องมีปัญหาหลุด qc บ่อย
- เหมาะกับใคร
1. ผู้ที่มองหา budget phone ที่คุ้มราคา โดยไม่ได้เน้น cpu มากนัก เน้นการใช้งานโดยรวม แบต และหน้าตา มากกว่า
7. Xiaomi
มือถือจีน ราคาถูก เน้น spec
- จุดเด่น
1. ราคาต่อ spec (cpu/ram) ถือว่าคุ้มมากๆ
2. รอมเสถียร เร็ว อัพเดทเรื่อยๆ
3. ราคาถูกเว่อ
- จุดด้อย
1. กล้อง เหมือนใส่มาแค่ให้มี
2. ราคาถูกเพราะลดเกรด วัสดุอื่นๆ เช่น ทัชสกรีน
- เหมาะสมกับใคร
1. คนงบน้อยๆ อยากได้ spec สูงๆ
2. พวกใช้งานมือถือหนักๆ ไม่ค่อยรักษา เปลี่ยนบ่อยๆ
8. VIVO
มือถือจีนอีกค่าย เน้นความโฉบเฉี่ยว
- จุดเด่น
1. Overall spec จัดว่าคุ้มค่าตัว กว่ามือถือจีนอื่นๆ
2. มีการยัดกิมมิค ฟังก์ชัน ลูกเล่นต่างๆ แบบ samsung
- จุดด้อย
1. รอม ไม่เสถียร ผู้ใช้งานมีปัญหาอัพเดทแล้วค้างเยอะ
2. อายุการใช้งาน ตามราคา
3. ไม่ได้มีด้านไหนที่เด่นกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน
- เหมาะสมกับใคร
1. คนชอบ budget phone สวยๆ spec ดูดี มีกิมมิคให้โชว์
2. สายเกาหลี ซื้อเอาของแถม
9. อื่นๆ LG htc sony google oneplus nokia ดูไม่ค่อยทำตลาดในไทย ไม่ขอพูดถึง
10. ยี่ห้ออื่นๆ และ house brand ที่เน้นราคาต่ำกว่า 5,000
คิดว่า คุณภาพ ไม่ต่างกัน จิ้มๆเอาได้เลย
สรุปสุดท้ายหวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์ ในการเลือกแบรนด์มือถือให้ตรงใจกับผู้ใช้นะคะ
ใน ตอนที่ 2 จะมาพูดถึงการเลือกซื้อโดยคำนึงถึงความคุ้มค่าเป็นหลัก นะคะ ว่าควรเลือกยังไงดี
โฆษณา