ว่ากันด้วยเรื่องของ Rod Ratio
วันนี้มีพี่คนนึงที่ติดตามผลงานเค้ามาเยอะมาก โทรมาถามเกี่ยวกับ rod ratio (ก็แอบภูมิใจนะเนี๊ยะ 55) ก็คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ คนอื่นด้วย ว่าแล้วก็เล่าต่อเลยละกัน rod ratio ก็คืออัตราส่วนของความยาวก้านสูบ กับระยะชัก ถ้าก้านสูบยาว ค่า rod ratio ก็เยอะ ก้านสั้น rod ratio ก็ต่ำ ส่วนมากเราก็จะเข้าใจง่ายๆ ว่า rod ratio เยอะ ก็จะมีพละกำลังดีที่รอบสูง rod ratio ต่ำ ก็จะมีพละกำลังดีที่รอบต่ำ
มันก็มีส่วนถูกนะ แต่มันถูกไม่หมด ก่อนอื่นต้องเข้าคำว่า ทำให้มีกำลังสูง กับ อนุญาตให้มีกำลังสูงกันก่อน
ยกตัวอย่างรถแข่ง gt300 ละกันง่ายดีรุ่นรถแข่ง gt300 จะกำหนดเส้นผ่านศูนย์กลางของส่วนที่ดูดอากาศเข้าเครื่องไว้ว่าห้ามโตกว่าที่กำหนด (ผมไม่ชัวร์ตัวเลขนะ แต่มันไม่ใช่สาระของหัวข้อนี้) ซึ่งเรียกกันว่า restrictor คือการอนุญาติให้เครื่องยนต์ หายใจได้มากที่สุดเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า รถในรุ่น gt300 จะแรงเท่ากัน มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคันไหนใช้อากาศได้มีประสิทธิภาพสูงสุด บางคันอาจจะมีแรงม้าน้อยกว่าอากาศที่ดูดได้ก็ได้
ตัว restrictor คือตัวอนุญาตให้เครื่องยนต์แรง ไม่ใช่ตัวทำให้เครืองยนต์แรง งงอยู่ป่าว..
ทีนี้ไอ้เจ้า rod ratio เนี๊ยะ มันมีผลกับความเร็วของลูกสูบ ความเร็วลูกสูบจะมี 2 ค่า ตัวนึงคือความเร็วเฉลี่ยของลูกสูบ คำนวนได้จากรอบเครื่องกับระยะชัก กับค่าความเร็วสูงสุดของลูกสูบต้องคำนวนระยะชัก รอบเครื่องและ rod ratio ค่า rod ratio สูงความเร็วสูงสุดของลูกสูบก็จะต่ำลง นั่นคือภาระทางกลของชิ้นส่วนต่างๆ ก็จะลดลง ก็คือการอนุญาติให้เครื่องยนต์ หมุนที่รอบเครื่องสูงขึ้นได้ ไม่ได้แปลว่าจะทำให้เครื่องยนต์มีรอบสูงขึ้น หรือมีพละกำลังที่รอบเครื่องสูงขึ้น
พอ rod ratio มันอนุญาตให้รอบเครื่องสูงขึ้นได้ ก็ต้องไปดูที่ส่วนอื่นๆ ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติของแคมชาปท์ วาล์ว สปริง กำลังอัดเครื่องยนต์ ลักษณะห้องเผาไหม้ ความสามารถในการจุดระเบิด ความเร็วในการลุกลามเปลวไฟ ชนิดเชื้อเพลิง ความสามารถในการจ่ายเขื้อเพลิง ฯลฯ
สรุปง่ายๆ ก็คือ การปรับปรุงให้ rod ratio มีค่าสูงขึ้น ไม่ได้แปลว่าเครื่องจะปั่นรอบได้สูงขึ่น แต่มันอนุญาตให้รอบสูงขึ้นได้ แต่มันขึ้นอยู่กับสาวนประกอบอื่นๆด้วย เข้าใจตรงกันนะ
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
