21 เม.ย. 2019 เวลา 04:24 • ประวัติศาสตร์
สุมาอี้...
กองกำลังของสุมาอี้บุกไปตีค่ายจ๊กก๊กที่เขากิสาน ประจันหน้ากองกำลังของเกียงอุยโดยบังเอิญ
พวกเกียงอุยมีน้อยกว่า จึงหนีเข้าไปในหุบเขา สุมาอี้และบุตรทั้ง 2 ไล่ล่าไปติดๆ เมื่อพ้นหัวมุม ก็พบธนูเพลิงเป็นจำนวนมากยิงจากข้างบน ข้าศึกทิ้งคบเพลิงลงมา พริบตาเดียวพื้นที่รอบตัวเขาเป็นกองไฟ กลิ่นควันไฟแรงขึ้นจนเขาสำลัก เขาหลับตารู้ทันทีว่านี่คือจุดจบของเขาและบุตรชายทั้งสอง...
ทันใดนั้นเสียงฟ้าคำรามครืนๆ ลมพัดแรง ครู่เดียวฝนห่าใหญ่ก็เทลงมา ฝนเทลงมาอย่างหนักจนไฟที่พุ่งรอบตัวมอดดับสิ้น
เขาคุกเข่าขอบคุณฟ้า ที่ทำให้เขารอดชีวิตมาได้
สุมาเจียวประกาศให้เหล่าทหารได้ยิน “ท่านแม่ทัพสุมาอี้มิเคยทำการใดโดยเสี่ยง กล้าบุกเข้าไปในเพลิงศัตรูเพราะรู้แต่แรกว่าจะเกิดฝน” ทหารโห่ร้อง ชมว่าเป็นแม่ทัพผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน
ในเมื่อไม่ตายในเหตุการณ์ ไยมิใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์?? 😏😏😏
ณ เมืองซินเสีย
สุมาอี้วางแผนลวง กองทัพสุมาอี้เดินทางมาถึงซินเสียเร็วกว่าที่ขงเบ้งคาดการณ์ไว้ ขงเบ้งคาดการณ์พลาด!!
ขงเบ้งไม่มีทางหนี หลับตาและลืมตาขึ้น สีหน้าไม่มีแววตื่นตระหนก และเอ่ยกับทหารว่า “จงรื้อธงบนกำแพงเมืองทั้งหมดออก เปิดประตูเมืองไว้ทั้งสี่ จัดหาชาวบ้านไปกวาดพื้นทุกประตู ประตูละยี่สิบคน ห้ามพูดจาใดๆ”
ขงเบ้งกล่าวต่อ “จัดหาเด็ก 2 คน แต่งกายด้วยชุดสะอาด คนนึงถือกระบี่ คนนึงถือแส้ ตั้งพิณและกระถางธูปขนาดใหญ่บนเชิงเทินหน้าประตูกำแพงเมือง จุดธูปให้เรียบร้อย”
ว่าแล้วก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า สวมชุดใหม่เสื้อคลุมสีน้ำเงินงามสง่า ขึ้นไปนั่งดีดพิณโบราณ เด็กทั้ง 2 ยืนคนละข้างของขงเบ้ง
กระถางธูปส่งควันลอยอ้อยอิ่ง เสียงพิณบรรเลงเพลงไพเราะ เยือกเย็น มิสนใจสิ่งรอบตัว
กองทัพสุมาอี้เคลื่อนมาหยุดหน้าประตูเมืองที่เปิดกว้าง ทั้งกองทัพเงียบสนิท ได้ยินเสียงดนตรีแผ่วพลิ้ว
สุมาอี้หลับตาฟังเสียงพิณอย่างเคลิบเคลิ้ม ลืมตาขึ้นกระซิบกับบุตรชาย “หากคนดีดพิณใจไม่นิ่งสงบ มิอาจบรรเลงได้เย็นนิ่งขนาดนี้”
สุมาเจียว : ขงเบ้งมั่นใจว่าจะชนะ?
สุมาอี้ : ขงเบ้งมิใช่คนพึ่งพาโชคชะตา หากไม่มั่นใจว่าจะชนะสักแปดส่วน เขาจะไม่เสี่ยง!!
สุมาอี้หรี่ตามองขงเบ้งเล่นพิณอีกสักครู่ แล้วสั่ง “ถอยทัพ”
จูล่งบอกขงเบ้งว่า “ท่านทำเรื่องเสี่ยงอย่างยิ่ง หากมิใช่ใจเย็นอย่างที่สุด ยากจะหลอกสุมาอี้ได้สำเร็จ อุบายเมืองร้างนี้สำเร็จได้เพราะเป็นสุมาอี้ สุมาอี้กลัวท่านและเป็นคนขี้ระแวง แผนการนี้จึงสำเร็จ หากเป็นซุนกวนหรือโจโฉ อุบายนี้จะไม่สำเร็จ”
ขงเบ้งส่งพิณมาให้สุมาอี้ที่ค่าย สุมาเจียวคิดว่าขงเบ้งส่งพิณมาให้เพราะต้องการยั่วที่หลงกลเขา
สุมาอี้ : ไยเจ้าคิดว่าพ่อหลงกลเขา?
สุมาเจียว : ขงเบ้งจวนตัว จึงใช้อุบายเมืองร้างหลอกพ่อ เห็นชัดว่าไร้ทหารปกป้องเมือง!!
สุมาอี้ : พ่อย่อมรู้ว่าฝ่ายนั้น ไม่มีกำลังทหาร เสียงพิณของขงเบ้งอ่อนนอกแต่แข็งใน แสดงให้เห็นว่าจิตของขงเบ้งเข้มแข็งยิ่ง สมเป็นจอมทัพ ทว่าเด็กน้อยคนนึงที่ยืนข้างเขาขาสั่นเทาเพราะความกลัว นี่บอกว่าขงเบ้งมีทหารที่เมืองซินเสียแค่หยิบมือเดียว ไม่คณนามือเรา 😎😎
เรื่องที่เจ้าต้องเรียนรู้จากเหตุการณ์นี้
1.ผู้เป็นแม่ทัพต้องใจเย็นและนิ่ง แม้เผชิญหน้ากับความตาย มิเช่นนั้นทหารจะแตกตื่น และนำไปสู่ความพ่ายแพ้ได้
2. ผู้นำต้องมองการณ์ไกลหลายช่วงตัว ขงเบ้งทำให้พ่อถูกปลด และตระกูลของเราเกือบถูกประหารทั้งหมด แต่ขงเบ้งก็ทำให้พ่อได้กลับมาเป็นใหญ่อีกครั้งเช่นกัน
ดังนั้นขงเบ้งคือ “อาวุธ” ชิ้นหนึ่งของเรา เรายังต้องการขงเบ้ง มิเช่นนั้นตระกูลสุมาจะหมดความหมายและถูกกำจัด ขงเบ้งจึงยังตายไม่ได้!!!
#คมเฉือนคม
Cr. หนังสือสามก๊ก ของคุณวินทร์ เลียววาริณ
โฆษณา