Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เปาโล อินไซค์
•
ติดตาม
21 เม.ย. 2019 เวลา 06:38 • กีฬา
“ลีดส์ ยูไนเต็ด” จากรุ่งเรืองสู่ตกต่ำ
ลีดส์ ยูไนเต็ด 2000-01
เปาโล อินไซค์ ขอพาทุกท่านย้อนกลับไปในฤดูกาล 2000-01 กับทีมขวัญใจวัยรุ่นยุคนั้นอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด
จุดเริ่มต้นของยูงทองเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม ปี 1998 เมื่อ จอร์จ เกรแฮม กุนซือของทีมในเวลานั้นตัดสินใจย้ายไปกุมบังเหียนไก่เดือยทอง ท็อตแนม ฮ๊อตสเปอร์ส และเมื่อตำแหน่งว่างลงส่งผลให้ เดวิด โอเลียรี
ผู้ช่วยผู้จัดการทีมต้องขึ้นมารับตำแหน่งแทน
David Anthony O'Leary
เดวิด โอเลียรี ณ ขณะนั้นอายุพียง 30ต้นๆเท่านั้น จึงถือเป็นกุนซือหนุ่มไฟแรงคนหนึ่ง เมื่อโอเลียรีก้าวขึ้นมาคุมทีมสิ่งที่โอเลียรีทำคือการดันนักเตะดาวรุ่งจาก อคาเดมี่ขึ้นมาปั้นเฉกเช่นเดียวกับ Class of 92 ของ แมนยูไนเต็ด
โดยในฤกูกาลแรก โอเลียรี สามารถพาทีมจบอันดับ4ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ก่อนฤดูกาลถัดมาจะพาทีมทะยานขึ้นมาจบอันดับ3 นำทีมไปลุยศึกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกได้สำเร็จ
โดยผลงานของลีดส์ ในฤดูกาล 2000-01 บนแชมป์เปี้ยนลีก สามารถทะลุไปถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะแพ้ให้กับบาเลนเซียและตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
โดยในฤดูกาลนั้นเป็นปีเดียวกับการเสริมทีมครั้งใหญ่ของทีมโดยประธานสโมสรในตอนนั้นอย่าง ปีเตอร์ ริดสเดล มองว่า แม้โอเลียรีจะทำทีมได้ดีแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ คุณภาพทีมยังไม่ดีพอที่จะไปเบียดลุ้นแชมป์กับ ‘แมนยูไนเต็ด’ หรือสโมสรอื่นๆได้
ทำให้ปีเตอร์ ริดสเดล ตัดสินใจเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทีมโดยการไปกู้เงินกับธนาคาร และนำเงินส่วนนั้นมาเสริมทัพ
โดยนักเตะที่เสริมเข้ามาในปีนั้นและเป็นที่ฮือฮาที่สุดก็คงจะเป็น ริโอ เฟอร์ดินาน ย้ายจากเวสต์แฮม ยูไนเต็ด มาด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติพรีเมียร์ลีก ณ ขณะนั้นที่ 18ล้านปอนด์ และนักเตะคนอื่นๆอีกมากมายรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 56.45ล้านปอนด์
ซึ่งการเสริมทีมที่ใช้เม็ดเงินมหาศาลขนาดนี้กลับจบฤดูกาลมือเปล่า และได้เพียงแค่อันดับ4เท่านั้นในพรีเมียร์ลีก ซึ่งในยุคนั้นอันดับ4
“ไม่ได้สิทธิ์ไปเล่นแชมป์เปี้ยนลีก”
เมื่อไม่ได้ตั๋วไปลุยUCL ก็ส่งผลให้รายได้สโมสรน้อยลง เมื่อรายได้น้อยลงแต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น ทั้งจากค่าเหนื่อยและดอกเบี้ยที่ไปกู้มา ก็ส่งผลให้สโมสรเป็นหนี้
แต่ท่านประธานกลับไม่เข็ดหลาบ ยังคงมองโลกแง่ดี ฤดูกาลต่อมากลับไปกู้เงินเพิ่ม และทำอย่างที่เคยทำ นั้นคือการเซ็นนักเตะเข้าสู่ทีมเพิ่ม โดยหวังว่าผลงานทีมคงดีขึ้น
โดยเงินที่กู้มาเกินครึ่งใช้ไปกับการจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะ และที่เหลือนำมาซื้อนักเตะ โดยนักเตะที่ซื้อเพิ่มเข้ามานั่นก็คือ ร๊อบบี้ ฟาวเลอร์ ย้ายจากลิเวอร์พูลมาสวมเสื้อให้กับลีดส์ ด้วยค่าตัวประมาณ 11ล้านปอนด์ และคงนักเตะแกนหลักจากปีที่แล้วไว้
แต่ทว่าผลงานของลีดส์กลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้
เมื่อจบฤดูกาลที่อันดับ5 แย่กว่าปีที่แล้ว ส่วนผลงานในยูฟ่าคัพ หรือยูโรป้าในปัจจุบัน ก็ไปถึงแค่รอบ Fourth round เท่านั้น
เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ยูฟ่าไม่ได้ไป ผลงานยังแย่ลงอีก ถ้าเป็นภาษาบ้านๆก็คงเรียกว่า
“ความฉิบหายมาเยือน”
ค่าเหนื่อยพุ่งสูงขึ้น รายจ่ายมากขึ้น หนี้ก็ย่อมเพิ่มมากขึ้นตาม ส่งผลให้จำเป็นต้องขายนักเตะออกจากทีมเพื่อใช้หนี้ที่ก่อขึ้น รวมถึงสตาร์ตัวหลักอย่าง ริโอ เฟอร์ดินาน, ร๊อบบี้ คีน, ร๊อบบี้ ฟาวเลอร์ และตัวอื่นๆอีกหลายราย ก่อนที่ปีต่อมาจะต้องเสีย โอลิวิเยร์ ดากูร์ ตัวคุมจังหวะของทีมและ แฮร์รี คีเวลล์ไปอีก
ริโอ เฟอร์ดินาน ย้ายจากลีดส์มาสู่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ท้ายที่สุดแม้โอเลียรีจะไม่เคยพาทีมจบต่ำกว่า Top5 ในตลอดระยะเวลาที่คุม แต่ก็ดันเกิดปากเสียงและมีปัญหากับผู้บริหารจนถูกปลดออกจากตำแหน่ง
และนั่นนำไปสู่หายนะเมื่อฤดูกาล 2003/2004 ลีดส์ ยูไนเต็ดต้องตกชั้นจากลีกสูงสุดของอังกฤษไปในที่สุดพร้อมกับหนี้อีกกว่า 100ล้านปอนด์..
น้ำตาของ อลัน สมิธ
6 บันทึก
42
1
12
6
42
1
12
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย