24 เม.ย. 2019 เวลา 15:24 • ท่องเที่ยว
Marco Polo
    ผมขอเริ่มที่ตำนานด้วยนักเดินเรือชาวตะวันตกคนแรก ที่ได้เดินทางไปตามเส้นทางสายไหม ร่วมกับบิดาและลุงของเขาไปยังประเทศจีน ซึ่งเขาเรียกว่าคาเธ่ย์ เมื่อปีคศ.1271-1295 และได้เข้าเฝ้าจักรพรรดิกุบไล ข่าน ผู้เป็นหลานปู่ของ เจงกิส ข่าน และได้ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองจีนถึง 17 ปี ก่อนกลับบ้านเกิดชายผู้นี้คือ มาร์โค โปโล
   มาร์โค โปโล เกิดในปีคศ.1254 ที่เวนิส ในครอบครัวพ่อค้าที่ร่ำรวย พ่อและลุงเป็นพ่อค้าเพชรพลอย เป็นนักเจรจาต่อรองที่เก่งกาจ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย ทั้งคู่ได้มีโอกาสพูดคุย เจรจาการค้ากับองค์กุบไล ข่าน จนจักพรรดิเกิดความสนใจในวัฒนธรรมตะวันตก จึงขอให้พี่น้องตระกูลโปโล เดินทางกลับมาที่จีนอีกครั้งพร้อมกับนักบวชชาวคริสต์ 100 คน
    ต่อมาในปีคศ.1272 พี่น้องโปโลได้กลับไปเมืองจีนอีกครั้ง แต่พวกเค้าไม่สามารถนำบาทหลวงจำนวน 100 คนไปด้วยได้ตามบัญชาของจักรพรรดิพาไปรอดได้เพียงไม่กี่คนและได้พาลูกชายของเค้า มาร์โค โปโล ไปด้วย ระหว่างทางได้พบกับอุปสรรคนานับประการ แต่หนุ่มน้อยมาร์โคก็สามารถอดทนเดินทางต่อกับพ่อและลุง ในการเดินทางอันแสนลำบากกว่าจะถึงเอเชีย ต้องผ่านทางตะวันออกกลาง อัฟกานิสถาน และทะเลทรายโกบี ซึ่งต้องใช้เวลาเกือบปีกว่าจะเดินทางข้ามทะเลทรายแห่งนี้ได้ แต่ในที่สุดครอบครัวโปโลก็ได้เดินทางถึงประเทศจีนสำเร็จอีกครั้ง และ หนุ่มมาร์โค ก็ได้พบกับจักรพรรดิกุบไล ข่าน เป็นครั้งแรก
    ชีวิตของพวกเค้าในประเทศจีนจะเป็นอย่างไรนั้น โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ 😚😚😚
    หลังจากที่ครอบครัวโปโลตั้งใจว่าจะเดินทางมาค้าขายที่ประเทศจีนเพียงไม่กี่ปี ไปๆมาๆ นับรวมแล้วพวกเค้าเดินทางมาถึง 23 ปีเลยทีเดียว พวกเค้าเป็นที่รักของจักรพรรดิเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหนุ่มมาร์โค ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นราชฑูตพิเศษของจักรพรรดิข่าน ด้วยความสามารถมากมาย พูดได้ถึง 4 ภาษา จึงได้รับโอกาสเดินทางไปทั่วเอเชีย จนเรียกได้ว่าเป็นขุนนางคนสำคัญของจักรพรรดิเลยก็ว่าได้ หลังจากทำงานรับใช้องค์จักรพรรดิมานานถึง 17 ปี พวกเค้าจึงตัดสินใจเดินทางกลับเวนิส แน่นอนจักรพรรดิไม่พอใจหรอกครับแต่ก็ห้ามไม่ได้ แต่ไหนๆก็จะไปแล้วจึงฝากภารกิจสุดท้ายให้มาร์โค โปโลทำ นั่นคือการฝากองค์หญิงมองโกล ไปแต่งงานกับเจ้าชายชาวเปอร์เซียด้วย ภารกิจนี้มาร์โค โปโล ทำสำเร็จ เค้าจึงได้รับความไว้วางใจจากจักรพรรดิข่านและพวกเปอร์เชีย ในเขตลิแวนต์มากขึ้นไปอีก
   หลังจากที่มาร์โค โปโลเดินทางกลับมาถึงเวนิส ก็ได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการเรือรบของสาธารณรัฐเวนิส ไปทำสงครามกับเจนัว แต่สู้ไม่ได้พ่ายแพ้เสียที ถูกจับเป็นนักโทษ และในคุกนั้นเองเค้าได้พบกับนักเขียนนิยายโรแมนติก มาร์โค จึงได้เล่าประสบการณ์ต่างๆที่เขาได้พบเจอในทวีปเอเชียให้นักเขียนฟัง ทั้งคู่จึงตัดสินใจเขียนหนังสือร่วมกันโดยใช้ชื่อว่า THE DESCRIPTION OF THE WORLD บันทึกการเดินทางของมาร์โค โปโล ด้วยหนังสือของเขาทำให้ มาร์โค โปโล เป็นคนดังทันทีหลังจากที่เค้าได้ออกจากคุกในปี ค.ศ.1299 หนังสือถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ ทั้งฝรั่งเศส อิตาลี ละติน จนกลายเป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมสูงสุดในยุโรป แต่ในช่วงนั้นผู้อ่านส่วนใหญ่ไม่เชื่อเรื่องที่มาร์โคเล่า จึงเรียกหนังสือเล่มนี้ว่า IL MILIONE (เรื่องฝอยล้านเรื่อง) แต่มาร์โคก็ไม่สนใจอะไรกล่าวเพียงว่า "ผมยังเล่าไม่ถึงครึ่งของสิ่งที่ผมเห็นมาเลย"
   เวลาผ่านไปนับร้อยปี หลังจากที่มาร์โค โปโล เสียชีวิต ในที่สุดเรื่องราวทั้งหมดก็กระจ่างเพราะข้อมูลจากนักสำรวจ นักเดินทาง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ล้วนตรงกับที่มาร์โค เคยเล่า เขาได้รับการยกย่องไปทั่วโลก และไม่ว่าเรื่องราวในหนังสือของเขาจะเป็นเรื่องราวที่พบมาด้วยตัวเอง หรือคำบอกเล่าต่างๆมารวมกันก็ตาม บันทึกนี้ก็ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเดินทางรุ่นหลังอย่างมากมาย 😊😊😊
โฆษณา