26 เม.ย. 2019 เวลา 09:56 • ธุรกิจ
กรณีศึกษา | ชื่อผลไม้กีวีทำไมชื่อเหมือนนกกีวีของนิวซีแลนด์
https://unanything.fandom.com/wiki/Kiwi
ผลไม้ชื่อ "หยางเถา"หรือเดิมคือ
"ไซนีสกูสเบอร์รี" นั้นมีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน
ปี 1904 ครูชื่อ แมรี่ อิซาเบล เฟรเซอร์ ได้ไปเยี่ยมน้องสาวของตนเอง ซึ่งเป็นมิชชันนารีอยู่ในประเทศจีน น้องสาวของเธอได้ลองให้แมรี่ ชิมผล “หยางเถา" เป็นครั้งแรก แมรี่รู้สึกว่ารสชาติดีมากและอยากให้ลูกศิษย์ของเธอในนิวซีแลนด์ได้ลองชิมด้วยและจะนำไปปลูกในประเทศนิวซีแลนด์
แมรี่ อิซาเบล เฟรเซอร์
ปี 1910 เมื่อมาถึงนิวซีแลนด์ แมรี่ ได้ให้เมล็ดพันธุ์แก่โทมัส แอลลิสัน ซึ่งในเวลาต่อมา โทมัสและพี่ชาย ก็ได้ปลูกต้นหยางเถาได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
ปี 1924 นักเพาะชำพันธุ์พืชชื่อ เฮย์เวิร์ด ไรท์ ชาวเมืองโอ๊คแลนด์ ได้พัฒนาสายพันธุ์ผลกีวีที่มีเนื้อสีเขียวสด และกลายเป็นสายพันธุ์ที่มีการนำไปเพาะปลูกอย่างแพร่หลายมากที่สุดทั่วโลก
ปี 1959 ในเวลาต่อมาเกษตรกรส่วนใหญ่ ต้องการเปลี่ยนชื่อจาก “หยางเถา” เป็น “กีวี” ตามนกกีวีที่มีขนสีน้ำตาลอ่อนนุ่ม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของประเทศนิวซีแลนด์
เกษตรกรจำนวนมากเริ่มหันมาปลูกกีวีกันมากขึ้นเนื่องจากได้ราคาดีและชาวต่างชาติก็นิยมชมชอบ จนเป็นผลไม้อันดับหนึ่งของนิวซีแลนด์
ต่อมาประเทศต่างๆก็ได้หันมาปลูกกีวีกันมากขึ้นเช่นกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศอิตาลี สามารถปลูกกีวีแซงหน้านิวซีแลนด์กลายมาเป็นผู้ปลูกกีวีรายใหญ่ (เหมือนกรณีข้าวไทยกับเวียดนามเลยนะ 55555)
เมื่อกีวีมีมากขึ้นทำให้มีการแข่งขันกันในด้านราคา ทำให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกกีวีในนิวซีแลนด์มีผลประกอบการที่ลดลงเป็นจำนวนมากบางรายต้องหันไปปลูกอย่างอื่นแทน
ปี 1997 เซลปรี กีวี (Zespri Kiwifruit)ได้ถือกำเนิดขึ้น
รัฐบาลนิวซีแลนด์เห็นท่าไม่ดีจึงได้ออกกฎหมายปรับเปลี่ยนโครงสร้างอุตสาหกรรมผลกีวี ให้ผู้ผลิตทั้งหมดในประเทศร่วมกันใช้ตราสินค้า Zespri เพียงอย่างเดียวนับเป็นตลาดผูกขาดของกีวีในประเทศนิวซีแลนด์อย่างแท้จริงและเกษตรกรทุกรายจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานของ Zespri ที่กำหนดไว้ทั้งคุณภาพรสชาติรวมถึงสุขอนามัยต่างๆ
Lian Jager
ต่อมา Lian Jager ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็น CEO ของ Zespri เขากล่าวว่า "ตลาดของสดเต็มไปด้วยสินค้าของกินของใช้ ซึ่งการตั้งราคาที่สูงและรักษาความภักดีของลูกค้าไว้เป็นความท้าทายที่สำคัญ"
เขาเริ่มพัฒนากีวีอย่างจริงจัง ด้วยการคัดเลือกและทดลองสายพันธุ์มานาน ทำให้นิวซีแลนด์ ถือเป็นประเทศที่มีความรู้ในเรื่องกีวีมากที่สุดในโลก
Lain Jager ได้ให้เกษตรกรทั่วประเทศช่วยกันพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ที่ดีกว่าเดิมขึ้นมา หากใครทำได้ก็จะมีรางวัลให้ และสุดท้ายก็ได้สายพันธุ์ที่ประสบความสำเร็จ
ในปี 2000 บริษัทได้เปิดตัว Zespri Gold ที่มีเนื้อกีวีสีเหลืองทอง ซึ่งได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง
และได้พัฒนากวีพันธุ์ที่ให้รสชาติที่หวานขึ้นสำหรับตลาดในภูมิภาคเอเชียและยุโรป การเพาะพันธุ์และคัดเลือกสายพันธุ์ใหม่ต้องใช้เวลายาวนานและ Zespri ได้ทำโปรแกรมการเพาะเลี้ยงผลกีวีด้วยวิธีธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
มีกีวีหลากหลายสายพันธุ์เกิดขึ้นทำให้ได้ผลกีวีที่มีรสชาติสีและขนาดที่แตกต่างกันไปเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะเจาะจงของผู้บริโภคได้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นกีวีที่มีวิตามิน C เป็นสองเท่ารวมไปถึงกีวีสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานเป็นต้น
ปัจจัยที่ทำให้ Zespri สามารถครองตลาดได้น่าจะมาจาก การหาตลาดใหม่และการพัฒนาสายพันธุ์ที่ดีที่สุด การปรับปรุงรสชาติ เพื่อสร้างจุดขายของ Zespri และยังได้สร้างแบรนด์ ผ่าน Social Media
- สร้าง Game Application
- ทำ Campaign “14 Days Zespri Challenge to feel healthier” ปฏิบัติการ 14 วันท้าให้ลอง"
- การร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งรัฐบาล เกษตรกร
ในประเทศไทยมีผลไม้มากมายตามฤดูกาลสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนทั้งปี เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด มะม่วง ลำไย ฯลฯ ถ้าหากประเทศของเรามีรัฐบาลที่มีแนวคิดจะช่วยเกษตรกรจริงๆ น่าจะศึกษากรณีของ Zespri
อาจจะช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกผัก ผลไม้ของไทยหรือสินค้าเกษตรอื่นๆเช่น ข้าว ยางพารา น้ำมันปาล์ม สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้โดยที่ไม่ต้องมาแข่งขันและตัดราคากันเองภายในประเทศ หรือเห็นอะไรดีก็แห่กันปลูกทำให้สินค้าล้นตลาด ขายไม่ได้ ราคาตกต่ำ สุดท้ายก็ทยอยเจ๊งกันไป
ไม่ว่าจะเป็นสินค้าใดๆหากเราไม่มีการพัฒนาในทุกๆมิติอย่างสม่ำเสมอ ในโลกที่หมุนเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว มีการเชื่อมต่อกันแค่ปลายนิ้ว เราต้องไม่เพียงแค่คิดแต่ต้องรู้วิธีที่จะคิด ด้วยการหาโอกาสใหม่ๆ ทดลองไอเดียใหม่ๆ นำนวัตกรรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
รู้หรือไม่ผลิตภัณฑ์ขัดรองเท้าภายใต้ชื่อ KIWI ก่อตั้งโดย Ramsey เขาใช้ชื่อ KIWI เพื่อเป็นเกียรติให้กับภรรยาของเขาซึ่งเป็นชาวเมือง oMara ประเทศนิวซีแลนด์ KIWI ไม่ใช่เป็นเพียงสัญลักษณ์นกประจำชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นชื่อเรียกเล่นๆ ที่นิยมของชาวนิวซีแลนด์ อีกด้วย
#ลุงแมน
โฆษณา