ไม่ทิ้งไครไว้ข้างหลัง
หลังจากไปพูด"จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"ที่จีน
แล้วพล.อ.ประยุทธ์ก็กลับไทย สิ่งที่คนไทยได้รับรู้ผลจากการประชุมนานาชาติที่จีนจากปากพล.อ.ประยุทธ์ก็คือ "เรียบร้อยดี"
โดยที่คนไทยไม่มีโอกาสได้รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ไปเจรจาอะไรมาบ้าง ไทยได้ประโยชน์อะไรจากเวทีนานาชาติที่จีนในครั้งนี้
ต่างจากมาเลเซีย ที่ผู้นำวัย 94 อย่างมหาเธร์เขากลับประเทศและประกาศความสำเร็จในการเจรจา วางยุทธศาสตร์ให้มาเลเซียเป็นศูนย์กลางเส้นทางสายไหม ในการเชื่อมจีนกับอาเซียนตอนใต้ กลุ่มประเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย
มาเลเซียจะเชื่อมเส้นทางสายไหมใหม่กับจีน จากคุนหมิง ผ่านเวียดนาม มากัมพูชา และ ผ่านท่าเรือสีหนุวิลล์ ตรงไปยังมาเลเซีย
แม้จะเป็นเพียงยุทธศาสตร์และเป็นเรื่องในอนาคตว่า จะสร้างเส้นทางแบบไหน อาจเป็นอุโมงค์ใต้ทะเล หรือ สะพานที่ยาวที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
แต่ที่แน่ๆคือ ไม่มีประเทศไทยอยู่ในเส้นทางสายนี้ของจีนและมาเลเซีย
เรื่องอนาคตเรายังไม่รู้แน่ว่า จะเกิดได้หรือไม่ได้ และ จะประสบผลขนาดไหน
แต่ก็ทำให้เห็นถึงศักยภาพของผู้นำและความสามารถในการเจรจาที่แตกต่าง อำนาจการต่อรองที่ต่างกัน
ก่อนหน้านั้นมาเลเซียก็ต่อรองให้จีนลดราคาโครงการรถไฟจีนกับมาเลเซียลงได้ 1 ส่วน 3 ของราคาเดิม พร้อมพ่วงเงื่อนไขการให้จีนซื้อน้ำมันปาล์มของมาเลเซียเพิ่มขึ้นจำนวนมาก
นั่นก็เท่ากับแย่งส่วนแบ่งตลาดน้ำมันปาล์มไปได้ ในขณะที่ราคาปาล์มในไทยตกต่ำสุดในรอบ 20 ปี แต่รัฐบาลไทยได้แต่มองตาปริบๆทำอะไรไม่ได้
ไม่รู้ว่า เป็นเพราะไม่อยากทำ หรือ ไร้ความสามารถ
และที่ไปพูดแทบจะทุกเวทีว่า "จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"นั้น
เป็นเพราะว่า จะดูแลคนอื่น หรือตามใครไม่ทัน ไม่มีใครอยู่ข้างหลัง แต่เขานำหน้าเราไปหมด
ภาพนี้จากสำนักข่าวซินหัว ใครเห็นผู้นำที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังบ้างว่า อยู่ตรงไหนในกลุ่มผู้นำที่ไปประชุมคราวนี้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
