1 พ.ค. 2019 เวลา 04:11 • ปรัชญา
塞翁失马 ผู้เฒ่าชายแดนเสียม้า
นานมาแล้ว ที่ด่านชายแดนทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีนมีครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่
.
ครอบครัวนี้มีพ่อลูกสองคนเท่านั้นและดำรงชีวิตด้วยการเลี้ยงม้าเป็นอาชีพ
มีอยู่วันหนึ่ง พ่อลูกคู่นี้พบว่าม้าที่ตนเลี้ยงนั้นมีอยู่ตัวหนึ่งหนีจากฝูงไปยังประเทศใกล้เคียง
ในยามนั้นเพื่อนบ้านที่ทราบเรื่องนี้
ต่างรู้สึกเสียดายแทน จึงพากันมาพูดปลอบใจที่บ้านของพ่อลูกคู่นี้ แต่ใครก็นึกไม่ถึงว่า ชายชรา
ผู้เป็นพ่อกลับมิได้วิตกกังวลแต่อย่างใด กลับพูดต่อทุกคนว่า
.
“ก็เพียงม้าหายไปตัวเดียวมิใช่หรือ
ใครจะรู้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้นะ”
.
ทุกคนฟังคำพูดของชายชราแล้วต่างรู้สึกไม่เข้าใจ
แต่ก็ไม่กล้ากล่าวว่ากระไรอีก จึงพากันจากไป
หลายเดือนผ่านไป ได้เกิดเรื่องประหลาดขึ้นเรื่องหนึ่งจริง ๆ ม้าของชายชราตัวที่หายไป ได้วิ่งกลับมาบ้านเอง และยังนำม้าฝีเท้าดีอีกตัวหนึ่งกลับมาด้วย
.
ครั้นเพื่อนบ้านรู้เรื่องนี้เข้าต่างดีใจยิ่ง และก็พากันมาแสดงความยินดีที่บ้านของชายชราผู้นี้อีก
แต่ใครก็นึกไม่ถึงอีกว่า ชายชรามิเพียงไม่ตื่นเต้นดีใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ประการใด กลับพูดอย่างเย็นชาต่อทุกคนว่า
.
“ก็เพียงม้าที่หายไปกลับมาและยังนำม้าฝีเท้าดีกลับมาอีกตัวเท่านั้นมิใช่หรือ ใครจะรู้ว่ามันอาจเป็น
เรื่องร้ายก็ได้นะ”
.
ทุกคนฟังคำพูดของชายชราแล้วต่างรู้สึกงงงวย
รู้สึกว่าชายชรานี้ช่างมีนิสัยแปลกมาก
แต่ก็ไม่รู้จะกล่าวว่ากระไรดี จึงได้แต่แยกย้ายจากไป
นับแต่ม้าของชายชราที่หายไปได้นำม้าฝีเท้าดีกลับมาลูกชายของชายชราให้รู้สึกดีใจยิ่ง เขาจะขี่
ม้าเที่ยววิ่งห้อตะบึงโลดแล่นไปตามที่ต่าง ๆ แทบทุกวัน
.
และแล้วมีอยู่วันหนึ่งเขาต้องเคราะห์ร้ายตกลง
มาจากหลังม้า ขาหักไปข้างหนึ่ง
.
เพื่อนบ้านทราบเรื่อง ก็พากันมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ แต่กลับนึกไม่ถึงอีกว่าชายชรากลับไม่รู้สึกร้อนอกร้อนใจและไม่รู้สึกเศร้าโศกเสียใจแต่อย่างไร และกล่าวกับทุกคนว่า
.
“ก็เพียงขาหักไปข้างเดียวมิใช่หรือ ใครจะรู้ว่ามันอาจเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งก็ได้นะ”
.
ทุกคนได้ฟังคำพูดของชายชราแล้วต่าง
เห็นว่า ชายชราสูงอายุแล้ว อาจจะเลอะเลือนไปแล้ว จึงพูดอะไรฟังชอบกล ทุกคนจึงได้แต่จากไปอย่างเงียบๆ
หนึ่งปีผ่านไป ชนเผ่าฮวนที่อยู่ทางชายแดน ได้ยกทัพมารุกราน ทางเขตแดนที่ชายชราสองพ่อลูกอาศัยอยู่
.
เมื่อเกิดสงคราม ชายฉกรรจ์ที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนต่างถูกทางการเกณฑ์ไปเป็นทหาร และมี
ผู้คนไม่น้อยได้เสียชีวิตในสมรภูมิ
.
ส่วนลูกชายของผู้เฒ่าเลี้ยงม้า เนื่องจากขี้ม้าตกลงมาขาหัก กลายเป็นคนขาพิการ จึงไม่ได้ถูกเกณฑ์เป็นทหารไปร่วมรบทัพจับศึกกับคนอื่นด้วย
.
สองพ่อลูกจึงรอดชีวิตอยู่ด้วยกันมาอย่างปลอดภัย
ความหมายของสำนวน“ผู้เฒ่าชายแดนเสียม้า”
.
เป็นการอุปมาอุปไมย (อุปมาอุปไมย = แปลว่าเปรียบเทียบ , นะเผื่อเด็กๆ Gen Z งง) ว่า
.
“เหตุการณ์ของโลกปรวนแปรยิ่ง ภายใต้เงื่อนไขที่แน่นอน เรื่องดีอาจกลายเป็นเรื่องร้าย และเรื่องร้ายอาจกลายเป็นเรื่องดี”
ผู้เฒ่าไซ่ เป็นคนที่เข้าใจโลกและชีวิตดีมากคนหนึ่ง
เขามีความเห็นว่า
.
เรื่องราวบนโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นโชคดีโดยเด็ดขาด และก็ไม่มีอะไรที่เป็นโชคร้ายโดยสิ้นเชิง
.
ทุกอย่างจะต้องมองทั้งสองทางเสมอ
.
เมื่อพบกับเคราะห์ร้ายก็ไม่โศกเศร้าเกินไป
เมื่อพบกับโชคดี ก็ไม่ดีอกดีใจจนเกินไป 
มีท่าทีต่อเรื่องต่างๆ ที่ตนประสบพบด้วยความสงบนิ่ง
สำนวน“ผู้เฒ่าชายแดนเสียม้า”
ภาษาจีนอ่านว่า“ sai weng shi ma” (ไซ่ เวิง ซือ หม่า)
.
คำว่า “ไซ่”
แปลว่า “ชายแดนหรือทางผ่านที่สำคัญ”
.
ส่วนคำว่า“เวิง” แปลว่า “ผู้เฒ่า”
ปล. วิกฤติ และโอกาส มาด้วยกันเสมอ ดังภาพ
กัปตัน PAO

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา