1 พ.ค. 2019 เวลา 12:58 • การเมือง
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 5/7/2557
เป็นช่วงเวลาที่ผมได้มีโอกาส ชม Transformer 4 : Age of Extinction (มหาวิบัติยุคสูญพันธ์)
เป็นที่น่าชื่นชมทุกภาค ที่สะท้อน มุมมองในเชิง สิทธิ เสรีภาพ ตามแบบ บรรพชนชาวอเมริกัน ที่ก่อร่างสร้างประเทศขึ้น
เป็นช่วงเวลาเดียวกัน ที่คสช ทำรัฐประหารยึดอำนาจมาจากรัฐบาลพลเรือน เป็นกระแสที่สอดรับกันดีมากๆ ระหว่าง หนังTFM4 กับเหตุการณ์ยึดอำนาจที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ... ดังที่ผมจะหยิบยกจากบทความที่ในครั้งนั้นเคยเขียนไว้ในเวปไซต์ แนวร่วม ปชต เว็ปหนึ่ง (ในลักษณะบทความทางการเมือง)
ความมีอยู่ว่า..
....ไพร์มเกือบจะสูญสิ้นศรัทธาต่อมวลมนุษย์ หลังจากที่ถูกหักหลังและย่ำยีซะเละเทะ โดยน้ำมือของมนุษย์ที่เขาช่วยเหลือมา ทุกข์ระทมกระหน่ำซ้ำฮีโร่ผู้เคยกอบกู้โลก "นักรบดำ" ผู้มาจากนอกโลก เขาต้องการตัว ไพร์ม กลับไปคุมขัง ... ในฐานะที่เขาเป็น "เจ้าชีวิต" และนำตัวไพร์มไปกักขังบนยาน
....คำพูดของไพร์ม ที่บอกว่า"ไม่มีใครเป็นเจ้าของชีวิตใคร" ชัดเจนในความหมายที่ทำให้ใครต่อใคร ได้ฉุกคิดขึ้นมาบ้าง
....เนื้อหาของเรื่องและการจัดวาง "กรอบวิธีคิด" ของตัวละคร (ฝ่ายคลั่งชาติ กับ ฝ่ายเสรีชนที่ยึดมั่นในหลักการ)
ดูสอดรับกับสภาวการณ์ของบ้านเมืองไทย ได้อย่างน่าประหลาด
เข้าใจว่าโลกนี้ไม่มีความบังเอิญ มันเป็นเรื่องของกรอบความคิด คำว่าเสรีภาพ ตามหลักสากลที่ทั่วโลกเข้าใจตรงกัน เรียนรู้ได้ง่ายๆ ผ่านการชม TF4 แบบไม่ต้องปีบันไดรับชม
ดูหนังดูละครและให้ย้อนดูตัว
ยังคงใช้ได้ดีกับหนังที่มีเนื้อหาสาระแบบ TF4
ก็เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า
แล้วเราได้เรียนรู้อะไรจากการต่อสู้ ของ ไพร์มบ้าง ?
สำหรับการต่อสู้ของ พี่น้อง ปชช ในเวลานี้
1. สู้เพื่อคนอื่น (ปกป้องมนุษย์โลกจากการถูกล้างเผ่าพันธุ์ โดยระเบิดเมล็ดพันธุ์)
2.สู้เพื่อตนเอง (ยืนหยัดสู้ เพื่อไม่ให้สูญสิ้นเสรีภาพ)
เหตุผลของออพติมัสไพร์ม เพียงแค่นี้ก็พอจะเป็นกำลังใจให้พี่น้อง ฝ่าย ปชต ทุกคน รักษาตัว และร่วมสู้ไปด้วยกัน
จนกว่าจะถึงฝั่งฝัน .."ประชาธิปไตย เต็มใบ"
โฆษณา