"เรามาเลิกใส่ซองงานเลี้ยงกันเถอะ"
ช่วงนี้มีแต่คนบ่นให้ผมได้ยินว่าภาษีปกติว่าเยอะแล้วนะ ภาษีสังคมนี่เยอะกว่าจริงๆ เดือนนึงหมดเงินไปครึ่งของรายได้เพราะงานบวช งานแต่ง อะไรพวกนี้...
คุณล่ะ รู้สึกอย่างแบบนั้นบ้างไหม
ความเป็นสังคมต่างตอบแทนแบบไทยๆเรา อันนี้ผมเข้าใจ เขามางานเรา เราก็ต้องไปงานเขา เขาช่วยเงินเรา เราก็ช่วยเงินเขา
ถ้าทุกคนมีฐานะใกล้เคียงกันคงไม่เท่าไหร่ แต่คนที่มีแต่สถานะทางสังคม แต่ไม่มีสถานะทางการเงินที่ดีนี่สิ ลำบาก
ผมเคยพูดขึ้นมากับเพื่อนๆในวงสังสรรค์ว่า"ถ้าเราเลิกค่านิยมใส่ซอง ผูกงาน จะได้ไหม" แล้วจะเกิดอะไรขึ้น
ผมมองว่า การที่มีการบอกงาน ใส่ซอง ต่างตอบแทน ในงานบวช งานแต่ง เหล่านี้
จริงๆแล้วมันเกิดผลกระทบหลายๆอย่าง
อย่างแรก เจ้าภาพจะต้องจัดงานให้พอมีระดับ ลงทุนกับอาหาร เครื่องดื่ม ดนตรี จนบางครั้ง เกินฐานะตัวเอง โดยหวังเงินในซองมาจ่ายตรงนี้
อย่างที่สอง เงินใส่ซองส่วนใหญ่ คนที่ได้ผลประโยชน์ไม่ใช่เจ้าภาพ เช่นเป็นทุนตั้งต้นชีวิตของบ่าว สาว แต่จะตกอยู่กับ โต๊ะจีน วงดนตรี เวดดิ้ง ...
อย่างที่สาม เงินใส่ซองจำนวนมาก แทนที่เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง คนรู้จักของเจ้าภาพจะนำไปใช้เพื่อทำให้ชีวิตครอบครัวเขาดีขึ้น เช่นใช้หนี้สิน ซื้อชุดนักเรียนให้ลูก พาพ่อแม่ไปหาหมอ กับต้องเอามาใส่ซองจ่ายค่าอาหารโต๊ะจีนแทน
แล้วคำถาม ถ้าเลิกใส่ซอง ผูกงาน จะจัดงานได้ไหม แล้วยังไงต่อ
ถ้าเราเริ่มเลิกค่านิยมนี้ เราก็ยังจัดงานบวช งานแต่ง ขึ้นบ้านใหม่ ได้เหมือนเดิม เพียงแต่....
เราจะจัดแค่พอสมควรแก่ฐานะ เรามีทุนเท่าไหร่ ก็จัดเท่านั้น เราพร้อมค่อยจัด เราเชิญเพื่อน ญาติพี่น้อง ได้เหมือนเดิม แต่เราจะไม่ต้องให้เขาเอาเงินใส่ซองช่วยเรา
พอเขามีงานเขาก็เชิญเรา เราก็ไปโดยไม่ต้องห่วงว่าจะเอาเงินที่ไหนใส่ซอง ใส่เท่าไหร่ดี เท่านี้เขาจะว่าเราไหม
เราไปร่วมงานไปแสดงความยินดี แสดงความเป็นมิตรกันอย่างสบายใจ
แล้วต่อไป เวลา มีใคร เอาซองเชิญร่วมงาน เราก็ไม่ต้อง แกล้งทำเป็นพูดว่า ยินดีด้วยนะแต่ในใจกลับไม่เป็นสุขเพราะรู้ว่า ต้องเสียเงินอีกแล้ว...
เพื่อนๆเห็นด้วยกับความคิดนี้ไหมครับ แสดงความคิดเห็นกันหน่อย
นี่เป็นเพียงแนวคิดเล็กๆในสังคมเล็กๆ ที่รู้สึกว่า บางอย่างมันเปลี่ยนได้ ถ้ามันจะทำให้อะไรๆมันดีขึ้น....
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
