10 พ.ค. 2019 เวลา 16:17 • ธุรกิจ
Ep 8 : อะไรคือสิ่งมีค่า?
ในปี 1974 แถบชนบทแห่งหนึ่งในบังคลาเทศ
ศาสตราจารย์วิชาเศรษฐศาสตร์ นามว่า
Muhammad Yunus (มูฮัมมัด ยูนุส)
เขาได้มีโอกาสพบกับ Sufiya Begum สาววัย 21 ปี ผู้ที่ไม่มีที่ดินเป็นของตน และผู้เป็นแม่เด็กสามคน
เธอทำงานเลี้ยงดูลูก อย่างหนัก ด้วยการทำงานสานไม้ไผ่ ทุกๆวัน เธอต้องเจ็บมือกับการสานไผ่อย่างหนัก มาตลอดชีวิตของเธอ
มูฮัมมัด ยูนุส เมื่อได้ยินชื่อเธอก็นึกถึงแม่ของตน Sofia
มูฮัมมัด จึงกล่าวถาม Sufiya ว่า เธอมีรายได้เท่าไหร่จากการสานไม้ไผ่เหล่านี้?
เธอตอบกล่าวว่า...แทบไม่มีรายได้เลยเพราะเธอต้องยืมเงินนายหน้า โดยที่เธอจะไปขอยืมเงิน โดยไม่มีอะไรไปจำนองกระทั่งที่ดินของตน จากนายหน้า หน้าเลือด ซึ่งเธอจะขอยืมเงินมา 22 cent เพื่อซื้อวัตถุดิบ...หลังจากนั้น
เธอจะนำวัตถุดิบมาสานจนเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้
และขายมัน...
...โดยสุดท้ายเธอจะมีรายรับเหลือเพียงแค่ 2 cent
จากการถูกขูดเลือดขูดเนื้อจากหน้านาย
จาก 10%ต่อสัปดาห์ ก็เริ่มเป็น 10%ต่อวัน
...เธอก็คงต้องทำใจยอมรับเพื่อให้มีเงิน เพื่อจะเลี้ยงดูลูก
มูฮัมมัด นึกในใจอย่างไม่น่าเชื่อว่า
เพื่อเงินแค่นี้! แต่เธอทำงานหนักมากขนาดนี้!
แน่นอนชีวิตของเขา ต่างกับเธออย่างลิบลับ
พ่อเขาทำธุรกิจประสบความสำเร็จ
เขาเรียนจบการศึกษาปริญญาเอกจากอเมริกา
ได้ทำงานในกระทรวง หลังจากนั้นตัดสินใจกลับมาบ้าน
จนกระทั่งได้พบ Sufiya
...และนี้คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่ นำพาให้เขา....
ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนในประเทศของเขา
เช้าวันรุ่งขึ้นเขาตาม Sufiya ไปยังหมู่บ้านของเธอ
และได้พบว่า มิใช่เพียงแค่เธอคนเดียวที่...
...ทำงานหนักราวกับทาส
แต่เขายังพบกับหญิง 42 คนที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกับเธอ
......ณ เวลานั้น มูฮัมมัด.....หยิบยื่นเงินในกระเป๋าที่มีเพียง $27 ให้ทั้ง 42 คน โดยไม่สนใจว่าจะคืนหรือไม่!
เขาไม่คิดถึงดอกเบี้ยไร้สาระพันธ์นั้น!
....แต่....สิ่งที่เขากล่าวกับหญิงสาวทั้ง 42 คน คือ
“ นำเงินเหล่านี้ ไปซื้อวัตถุดิบ ที่พวกท่านจำเป็นต้องใช้เถิด โดยที่ท่านจะได้ไม่ต้องยืมเงินผ่านหน้านายและ...
...นำกำไรเต็มๆ มาดูแลบุตรหลานของท่าน ”
จากผ่านไป ปีกว่าๆ เข้าสู่ปี 1976
มูฮัมมัด ถึงกับต้องตกใจและพบว่า...
...เงินทั้งหมดถูกคืนให้เต็มจำนวน!!!
หลังจากนั้น มูฮัมมัด จึงพยายามที่จะสานต่อความคิด
เรื่องการยืมเงินโดยไม่ต้องมีหลักค้ำประกัน
...เขาเข้าไปในธนาคารที่ใหญ่แห่งหนึ่งในบังคลาเทศ เพื่อที่จะบอกกับนายธนาคาร เราสามารถที่จะให้ชาวบ้านเหล่านี้ ในหลายๆชนบท ได้กู้ยืมเงินโดยไม่จำเป็นต้องจำนองใดๆ
นายธนาคารทั้งหมด คัดค้านและหัวเราะ ราวกับนี่มันคือความคิดโง่ๆสิ้นดี !...
...ใครจะไปให้คนจน พวกนั้นยืมเงินกันเล่า !?
 
มูฮัมมัด จึงต่อปากต่อคำ และพูดขึ้นว่า
“ ถ้าอย่างนั้นผมขอยืมเงิน $300 เพื่อให้ชาวบ้านนั้นยืม โดยที่ใช้ชื่อของผมเป็นประกันเพียงผู้เดียว!!! ”
และโครงการนี้ก็ถูกนำไปใช้จน เขาก่อตั้ง Grameen Bank ธนาคารกรามีน กรามีนที่แปลว่า หมู่บ้าน
โดยใช้สิ่งที่ค้ำประกันคือ Microcredit
เป็นเพียงธนาคารแห่งเดียวที่ให้คนยากจน-ให้ชาวบ้าน
ยืมเงิน โดยไม่ต้องมีสิ่งของใดๆ เป็นประกัน ใช้เพียง...
...ความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบเท่านั้น...
1
ในสายตาคนทั่วไป สิ่งของต่างๆ อาจเป็นสิ่งที่มีค่า
แต่สำหรับ Grameen Bank เป็นเพียงสิ่งไร้ค่า!
ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ เท่านั้น...
...คือสิ่งที่ควรค่าแก่การยกย่อง...
ปัจจุบันมีธนาคารกรามีน มากกว่า 2000 สาขา
และมีลูกค้าจาก 70,000 หมู่บ้าน
มูฮัมมัด ยูนุส ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพปี 2006 และหลักการของเขาถูกนำไปใช้ทั่วโลก
โดยที่ เงินที่ถูกยืมไป มีอัตราการคืนมากถึง 98% ทีเดียว
มูฮัมมัด ยูนุส จินตนาการไปถึง ปี 2050 ว่า...
...โลกของเราจะเต็มไปด้วย ธนาคารที่ให้คนกู้ยืมโดยไม่ต้องใช้ทรัพย์สินจำนอง...
“ ความยากจน ไม่ควรจะอยู่ในโลกอนาคตอันก้าวหน้า
เรามาสร้างโลกที่ไม่มีทาส ไม่มีการโกง ไม่มีความยากจน กันเถอะครับ ”
นายธนาคารที่เคยดูถูกความคิดนี้ เคยถาม มูฮัมมัด ยูนุส ว่า
“ อะไร...อะไรที่จะเป็นหลักประกันว่า...คนเหล่านี้จะยืมเงิน และคืนเขา? ”
เขาตอบว่า...
“ สำหรับชาวบ้านเหล่านี้แล้ว สิ่งที่ค้ำประกันเขา มันก็คือ
สิ่งที่พวกเขาโหยหามาตลอดชีวิต มันก็คือ...
...โอกาสที่จะหลุดพ้นจากความยากจน ไงครับ ”
...คนบางคนไขว่ขว้าหาโอกาสมาค่อนชีวิต...
แต่คนบางคนกลับทิ้งโอกาสเหล่านั้นอย่างไม่เห็นคุณค่าใดๆ
" เมื่อมีคนหยิบยื่นโอกาสที่ดีให้กับท่าน แต่หากท่านไม่แน่ใจ
จงรับโอกาสนั้นมา และเรียนรู้ที่จะทำมัน "
" If somebody offers you an amazing opportunity but you are not sure you can do it, say yes then learn how to do it later " — Richard Branson
Reference :
Banker to the Poor Book
โฆษณา