11 พ.ค. 2019 เวลา 06:27 • กีฬา
เป็นแฟนอาร์เซน่อล ผิดไหมถ้าจะเชียร์สเปอร์สมากกว่าลิเวอร์พูล ดราม่าสนุกๆของแฟนบอลปืนใหญ่ในประเทศไทย
ตอนนี้มีดราม่าสนุกๆ ของแฟนบอลอาร์เซน่อลในประเทศไทยครับ
เป็นปัญหาที่น่าสนใจดี ผมอ่านแล้วก็คิดตามนะ ว่าเออ ทำไมมันเป็นอย่างงั้นนะ
เรื่องก็คือ แฟนอาร์เซน่อลที่ไทยกำลังเถียงกันครับ ว่าควรจะเชียร์ใครดี ในรอบชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ระหว่างสเปอร์ส หรือ ลิเวอร์พูล
สำหรับตัวแอดมิน แว้บแรก สิ่งที่คิดในใจคือ ไม่เห็นมีอะไรน่าเถียงกัน แฟนอาร์เซน่อลมันก็ต้องเชียร์ลิเวอร์พูลสิ
เพราะอาร์เซน่อล กับสเปอร์ส คือคู่ปรับกันตลอดกาล เป็นคู่แค้นอันดับ 1 ชนิดที่เกลียดกันเข้าไส้
สมมุติว่า สเปอร์สได้แชมป์ UCL ไปก่อน แฟนอาร์เซน่อลจะเอาหน้าไปไว้ไหน อย่าลืมว่า ทีมปืนใหญ่ ยังไม่เคยได้แชมป์รายการนี้สักครั้งเลยนะ ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร
ถ้าสเปอร์สชนะหงส์ขึ้นมา ทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในลอนดอนเหนือ จะไม่ใช่อาร์เซน่อลแล้วล่ะ มันก็ควรต้องเป็นสเปอร์สแทน
ถ้าคิดตามคอมม่อนเซนส์ คือ ไม่มีเหตุผลอะไรที่แฟนอาร์เซน่อลจะต้องเชียร์สเปอร์สจริงไหม ในรอบชิงชปล.
แต่ทว่า ... ผมประเมินผิดครับ
พอไปดูคอมเมนต์เข้าจริงๆ ปรากฏว่า แฟนบอลปืนใหญ่ที่ไทย จำนวนมากเลยล่ะ กลับเชียร์ให้สเปอร์สเป็นแชมป์แทน เนื่องจากเหตุผลคือ ก็กูไม่ชอบลิเวอร์พูลอะ
คำถามก็คือ สมมติคุณเป็นแฟนปืน แต่ดันแช่งลิเวอร์พูล มากกว่าแช่งสเปอร์ส แบบนี้มันผิดไหม?
ก่อนจะไปตอบคำถามนั้น เราต้องเล่าถึงประวัติศาสตร์ของความแค้นระหว่างอาร์เซน่อลกับสเปอร์สกันก่อน
ในอดีต อาร์เซน่อล ตอนยุคก่อตั้งสโมสร พวกเขาไม่ได้อยู่ในลอนดอนเหนือนะครับ
อาร์เซน่อล ตั้งอยู่ในย่านวูลวิช ทางตะวันออกเฉียงใต้ เล่นในสนามฟุตบอลเล็กๆชื่อ พลัมสตีด แต่หลังจากเล่นมาหลายปี แฟนบอลเริ่มเยอะขึ้น และสนามเริ่มคับแคบ จึงย้ายมาตั้งถิ่นฐานใหม่ทางตอนเหนือของลอนดอน ในสนามชื่อไฮบิวรี่ โดยยังคงใช้ชื่อเดิมว่า วูลวิช อาร์เซน่อล ก่อนที่เวลาต่อมาจะตัดคำว่าวูลวิชออก เหลือแค่ อาร์เซน่อล เท่านั้น
ปัญหาคือที่ตั้งของไฮบิวรี่ ดันอยู่ห่างจากไวท์ฮาร์ทเลน ของสเปอร์ส แค่ 4 ไมล์เท่านั้น
สเปอร์สซึ่งเป็นเหมือนเจ้าถิ่น เป็นสโมสรใหญ่ที่สุดของลอนดอนเหนือมานาน อยู่ๆก็มีทีมไหนไม่รู้โผล่มาอยู่ใกล้ๆกัน มันก็เลยเกิดการเขม่นกันโดยธรรมชาติ
ในตอนแรก ความขัดแย้งก็ไม่ค่อยหนักเท่าไหร่ เพราะอาร์เซน่อลยังอยู่ดิวิชั่น 2 ส่วน สเปอร์สอยู่ดิวิชั่น 1 ทางสเปอร์ส ก็ยังคิดว่าตัวเองข่มอยู่ จึงยังไม่ได้มีประเด็นอะไร
แต่ประเด็นเกิดขึ้นในปี 1919 หลังจบสงครามโลกครั้งที่ 1 ฟุตบอลลีก กลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง
ตอนแรกบอลอังกฤษมี 20 ทีมในลีก แต่เอฟเอ ต้องการเพิ่มเป็น 22 ทีม ก็มีการจัดสรรว่าสโมสรไหนจะได้เล่นในลีกสูงสุดบ้าง
โดย 19 ทีมแรก คือทีมจากลีกสูงสุดเดิม (อันดับ 1-19) และอีก 2 ทีม คืออันดับ 1-2 ของดิวิชั่น 2
รวมได้ 21 ทีมแล้วใช่ไหมครับ ยังขาดอยู่อีกสโมสร ซึ่งทางเอฟเอก็ต้องตัดสินใจว่า อีก 1 สโมสรนั้น
ควรจะเอาเป็นอันดับ 20 จากลีกสูงสุดในซีซั่นก่อน สเปอร์ส หรือทีมอันดับดีที่สุดในดิวิชั่น 2 อาร์เซน่อล
อันดับในตารางคะแนนดิวิชั่น 2 เป็นแบบนี้ครับ
- อันดับ 1 ดาร์บี้ (เลื่อนชั้น)
- อันดับ 2 เปรสตัน นอร์ธเอนด์ (เลื่อนชั้น)
- อันดับ 3 บาร์นสลีย์ (เพิ่งจบสงคราม ยังไม่พร้อมกับการเลื่อนชั้น)
- อันดับ 4 วูล์ฟแฮมป์ตัน (เพิ่งจบสงคราม ยังไม่พร้อมกับการเลื่อนชั้น)
- อันดับ 5 อาร์เซน่อล
อาร์เซน่อล พยายามเรียกร้องสิทธิว่า ที่นั่งสุดท้ายของลีกสูงสุดก็ควรหล่นมาถึงทีมอันดับ ดีที่สุดของดิวิชั่น 2 แต่สเปอร์สก็ไม่ยอม ทั้งคู่อยากเล่นลีกสูงสุดด้วยกันทั้งนั้น นั่นทำให้ต้องมีการโหวต จากคณะกรรมการ ปรากฏว่า 18 เสียงโหวตให้อาร์เซน่อล และ 9 เสียงโหวตให้สเปอร์ส
กลายเป็นว่าสเปอร์สต้องตกชั้น ส่วนอาร์เซน่อลได้เลื่อนชั้นขึ้นมาแทน
ประเด็นนี้สร้างความขุ่นเคืองใจให้แฟนสเปอร์สมาก โดยมีการกล่าวหาว่าอาร์เซน่อล เฮนรี่ นอร์ริส ประธานสโมสรอาร์เซน่อลขณะนั้นไปทำการซื้อเสียงคณะกรรมการคนอื่นๆ จนได้รับการโหวตด้วย แต่ก็ไม่มีหลักฐานอะไรเอาผิดได้
ทั้งสองทีม มีความขัดแย้งกันมาตลอด เกือบร้อยปี เพราะถือว่าตัวเองเป็นทีมใหญ่เหมือนกัน มีศักดิ์ศรีไม่แพ้กัน
ความเกลียดชังสั่งสมมารุ่นต่อรุ่น ผ่านหลายเจเนเรชั่น ปลูกฝังกันมาทอดๆ ดังนั้น สองทีมนี้ไม่มีทางญาติดีกันได้อยู่แล้ว
ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลย ที่ในปี 2001 เมื่อโซล แคมป์เบลล์ ตัดสินใจย้ายออกจากสเปอร์ส มาเล่นให้อาร์เซน่อล แบบไม่มีค่าตัว ตามกฎบอสแมน เขาถึงโดนประณามอย่างรุนแรงขนาดนั้น
แคมป์เบลล์ เป็นเด็กฝึกหัดของสเปอร์ส อยู่กับทีมมา 9 ปี จนได้เป็นกัปตัน เขาย่อมรู้ดีว่า แฟนๆสเปอร์ส เกลียดอาร์เซน่อลแค่ไหน แต่สุดท้ายกลับยังคงเลือกไปเล่นให้อาร์เซน่อล ทั้งๆที่มีข้อเสนอจากสโมสรมากมายทั่วยุุโรป
พอแคมป์เบลล์ย้ายมาอาร์เซน่อล ทีมปืนใหญ่ก็ได้แชมป์ลีกทันที ตามด้วยแชมป์อินวินซิเบิ้ลในซีซั่น 2003-04
เรื่องนี้ยิ่งเป็นการสร้างความเจ็บแค้นให้แฟนสเปอร์สเข้าไปใหญ่ นักเตะทีมชาติ ผู้เล่นที่สโมสรฟูมฟักกลับเลือกที่จะหักหลังทีมแบบนี้
สำหรับกลุ่มแฟนๆของสเปอร์สจะมีเพลงเชียร์ หรือ Chant ว่า
Fuck off back to Woolwich
North London is ours
ไสหัวกลับไปวูลวิชซะ ลอนดอนเหนือเป็นของพวกกูโว้ย!
ซึ่งก็เป็นเพลงที่เอาไว้โจมตีอาร์เซน่อลนั่นแหละ ว่าแกมันไม่ใช่สโมสรที่ก่อตั้งในลอนดอนเหนือด้วยซ้ำ
แต่อาร์เซน่อลก็มี Chant เป็นสิบเอาไว้ด่าสเปอร์สคืนเช่นกัน ตัวอย่างเช่น
To dare is to do
To dare is to do
13 League Titles
You only won 2
ทู แดร์ อีส ทู ดู (กล้าที่จะทำ) คือม็อตโต้ประจำสโมสรสเปอร์ส ซึ่งแฟนอาร์เซน่อลก็เอามาล้อเลียนว่า เออกล้าก็กล้าไปเรื่องของมึง แต่แชมป์ลีกกูได้ 13 สมัยว่ะ มึงได้แค่ 2 สมัยเองนะ เทียบกันได้หรอ
ความขัดแย้งมากขนาดนี้ ทำให้ ถ้าไปถามแฟนอาร์เซน่อลที่อังกฤษว่าเชียร์ใครในแชมเปี้ยนส์ลีกรอบชิง คำตอบเดียวที่จะได้รับ คือเชียร์ลิเวอร์พูล
ยอมใครยอมได้ แต่ยอมสเปอร์ส อาร์เซน่อลยอมไม่ได้
เมื่อรู้แบ็กกราวน์ของ แฟนบอลที่อังกฤษแล้ว คราวนี้ กลับมาที่ประเทศไทยบ้าง กับปรากฏการณ์ที่น่าเซอร์ไพรส์ คือ แฟนบอลอาร์เซน่อลไทย เชียร์ไก่ มากกว่าเชียร์หงส์
ถามว่าน่าแปลกไหม ใช่ มันแปลกอยู่
แต่ถามว่าผิดไหม คำตอบของผมคือ ไม่ผิดหรอกครับ
เราต้องเข้าใจก่อนว่า ในยุคนี้ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกไม่ใช่เรื่องของ Local (ท้องถิ่น) อีกต่อไปแล้ว แต่มันเป็น Global (ทั้งโลก)
เมื่อสโมสรคุณอยู่ในระดับ Global มันแปลว่า แฟนบอลในแต่ละประเทศย่อมมีแนวทางของตัวเอง ซึ่งอยู่ในคนละบริบทกับแฟนบอลที่ลอนดอนเหนือ
ที่อังกฤษ แฟนอาร์เซน่อล เกลียดสเปอร์ส เพราะพวกเขาอยู่ใกล้กัน แย่งชิงความเป็นหนึ่งกัน มีเรื่องกระทบกระทั่งกันตลอด
ขณะที่ลิเวอร์พูลนั้น เป็นทีมใหญ่ด้วยกันก็จริง แต่ก็ไม่ได้มีประเด็นขัดแย้งอะไรกันขนาดนั้น เป็นการสู้กันในสนามมากกว่า
แต่สำหรับที่ไทย แฟนบอลอาร์เซน่อล ไม่ได้ไปมีเรื่องกระทบกระทั่งอะไรกับแฟนสเปอร์ส
คนไทยไม่เข้าใจความเกลียดชังของบ้านใกล้เรือนเคียง ว่ามันเกลียดกันแบบไหน อย่างไร คืออาจพอรู้ แต่นึกภาพไม่เคลียร์ เพราะเราไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ตรงนั้น
แต่แฟนบอลอาร์เซน่อลที่ไทย หลายคน กลับไปกระทบกระทั่งกับกลุ่มแฟนผี กลุ่มแฟนหงส์ (ซึ่งเป็นแฟนบอลส่วนใหญ่ในประเทศ) เสียมากกว่า
มันเลยกลายเป็นความขัดแย้งรูปแบบใหม่ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย คือแฟนปืน หมั่นไส้เด็กหงส์ว่ะ
แล้วกูหมั่นไส้มันแบบนี้ จะไปเชียร์มันทำไม สู้เชียร์สเปอร์สยังจะดีกว่าอีก
เมื่อสโมสรตัดสินใจกระโดดมาจาก ระดับ Local แล้ว ก็ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า แต่ละท้องถิ่นมันก็มีความคิดไม่เหมือนกัน เราจะไปคาดหวังให้ทุกคนคิดเหมือนกัน มันเป็นไปไม่ได้หรอก
เคยเล่นเกม RPG ไหมครับ ก่อนจะเริ่มเล่น เกมมันจะให้เราสร้างตัวละครขึ้นมา
ซึ่งตัวละครนั้นเราจะสามารถ Customize ปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการของเราที่สุด
สูงเท่าไหร่ อ้วนผอมอย่างไร มีความชอบอะไร อยากเป็นอาชีพไหน ทรงผมแบบใด คือสามารถปรับแต่ง Avatar แบบที่เราชอบได้เลย
สำหรับผม เชื่อว่า ฟุตบอลมันเป็นเรื่องส่วนบุคคลจริงๆ เราสามารถ Customize ให้มันตรงกับความต้องการในใจเรามากที่สุด
อย่างผม ในอังกฤษชอบลิเวอร์พูล , ในไทยชอบราชบุรี มิตรผล , ทีมชาติชอบอาร์เจนติน่า , นักเตะที่ชอบคือธีรศิลป์ แดงดา เห็นไหมครับ ว่าผมก็ Customize ให้มันตรงกับที่ใจตัวเองต้องการ
แต่บางคน อาจจะชอบแมนฯยูไนเต็ด ,ชอบบุรีรัมย์ ,เกลียดเมืองทอง , เกลียดทีมชาติบราซิล คือ เขาก็สามารถปรับแต่งความคิดได้อย่างอิสระตามใจที่เขาชอบ
คืออยากให้เข้าใจว่า แต่ละคนย่อมรัก และเกลียด ทีมฟุตบอลไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
เป็นแฟนอาร์เซน่อลอยากเกลียดสเปอร์ส ก็ทำได้ แต่แฟนอาร์เซน่อลอีกคนอยากเกลียดลิเวอร์พูลมากกว่าก็ทำได้เหมือนกัน ทุกคนย่อมมีเหตุผลของตัวเอง
บทสรุปของเรื่องนี้คือ แน่นอน มันเป็นเรื่องดีกว่า ที่เราจะรู้แบ็กกราวน์ของฟุตบอล ว่าจริงๆแล้ว ทีมที่เป็น Rivalry ของอีกทีม คือทีมอะไรกันแน่
แต่ถ้าเห็นอีกฝ่ายคิดไม่เหมือนเรา ก็ไม่ต้องไปคิดมากอะไร
เพราะทุกคนย่อมมีเหตุผลของตัวเองเสมอ จริงไหม
#ARSENAL #TOTTENHAM
โฆษณา