When the giant awakes - เมื่อยักษ์ Microsoft ฟื้นคืนชีพภายใต้การนำของ Satya Nadella
พวกเขาเกือบเป็นอดีตไปแล้วไมโครซอร์ฟ
เกือบหนึ่งทศวรรษที่พวกเขาอยู่เงียบๆและเก็บกินบุญเก่าที่สะสมมา ทำอะไรก็ไม่ดูเหมือนเป็นเรื่องตลกและตามคนอื่นๆก้าวหนึ่งอยู่เสมอ ตั้งแต่ Zune, Bing ไปจนกระทั่ง ระบบ OS บนมือถือสมาร์ทโฟน ทุกอย่างล้วนไม่ได้รับเสียงตอบรับตามที่คาดหวังเอาไว้ทั้งสิ้น (ยังโชคดีที่ Gaming ยังพอเป็นแสงสว่างได้อยู่บ้างเล็กน้อย)
แม้จะไม่อยากชี้นิ้วว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน, แต่มันเป็นช่วงเวลาแห่งความมืดหม่นระหว่างที่ Steve Ballmer ขึ้นครอง iron throne เป็น CEO ของไมโครซอร์ฟที่เรารู้สึกว่าพวกเขากำลังก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆและถึงแม้จะไม่มีมังกรให้ขี่ Steve Ballmer ก็เหมือนจะพ่นไฟใส่ทุกอย่างแล้วก็ทำให้มันวอดวายไปต่อหน้าต่อตา (คือเขามี passion แน่นอนอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ามันเหมือนผิดที่ผิดทางไปซะหมด)
ยุคต่อมาของ Satya Nadella, อันนี้น่าสนใจเลยทีเดียว
Microsoft ได้กลายมาเป็นบริษัทลำดับที่สามท่ีก้าวผ่านจุดที่บริษัทมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามหลัง Amazon และ Apple เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีกับผลประกอบการของไตรมาสที่ผ่านมา หุ้นก็เด้งรับความดีใจจากนักลงทุนน้อยใหญ่ในตลาด เหมือนว่าในที่สุดยักษ์ตัวนี้ที่นอนนิ่งมานานก็ตื่นขึ้นแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องของปาฎิหารย์ เพราะมันไม่มีอยู่จริงในโลกของธุรกิจ พวกเขากำลังมีช่วงเวลาที่ดีภายใต้การคุมบังเหียนโดย Satya Nadella และทุกอย่างเกิดขึ้นจากการย้าย Microsoft ไปอยู่บน Cloud
Microsoft ตอนนี้มีจำนวนสมาชิกมากกว่า Netflix, สร้างรายได้จาก Cloud Computing มากกว่า Google พวกเขาเป็นเหมือนบริษัทใหม่ ไม่ใช่ยักษ์ตัวเดิมจากในอดีต
เดือนต่อมา พฤษภาคม 2019, Microsoft แซงนำ Apple ขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก (แม้จะไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหน) มันเหมือนเป็นจุดไคลแมกซ์ของปีแห่งฟื้นคืนชีพอย่างแท้จริง ปีที่พวกเขาก้าวผ่านทั้ง Amazon และ Alphabet Inc. (บริษัทแม่ Google) ด้วยโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีการกระจายตัวของกำไรทั่วทั้งบริษัท ไม่ต้องมากินกำไรน้อยๆและเอาชนะตลาดด้วยปริมาณเหมือน Amazon ไม่ต้องหันตัวไปเน้นบริการเหมือนกับ Apple ไม่ต้องขายข้อมูลลูกค้าเหมือนกับ Facebook หรือ Google ตอนนี้ Microsoft กำลังสร้างทางเดินใหม่ของตัวเองที่น่าจับตามองมากทีเดียว
สมัยก่อนจำได้ดีที่ทุกคนมองว่า Microsoft นั้นเป็นเหมือนบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เอาเปรียบคู่แข่งในตลาดทุกอย่าง เป็น software monopoly ที่ใครก็ตามต่างเกรงกลัว ถูกเรียกว่า “Evil Empire” (ภายใต้การนำของ Bill Gates นู้นแล้วนะ) จนติดปาก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว และจากที่ดูโมเดลการทำธุรกิจก็ไม่ได้เอาเปรียบผู้บริโภคเหมือนเจ้าอื่นๆซะด้วยซ้ำ ไม่มีข่าวฉาวเรื่องพนักงานออกมาประท้วงไม่พอใจหลายๆครั้งในแต่ละปี ไม่มีข่าวว่าหัวหน้าตำแหน่งใหญ่ๆลาออกกลางอากาศเพราะแนวทางไม่ตรงกัน หรือมีปัญหากับรัฐบาลเสียค่าปรับจนเป็นเรื่องเป็นราวฉาวโฉ่ Microsoft ช่วงที่ผ่านมาเก็บตัวเงียบๆเมื่อสปอตไลท์ถูกฉายไปที่อื่น
Satya Nadella วิศวกรวัย 51 ขวบปีพร้อมดีกรีมากมายเติบโตในเมือง Hyderabad ประเทศ India หลายต่อหลายคนแสดงความเห็นเกี่ยวกับชายผู้นี้ว่าเป็นคนที่อารมณ์นิ่งสงบ มีความสุขุม (ซึ่งต่างจาก Ballmer โดยสิ้นเชิง) เขาตัดสินได้ดีหลายต่อหลายครั้งและสร้างความมั่นคงทางจิตใจให้กับพนักงานของ Microsoft โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจด้าน Cloud มันทำให้ Microsoft เติบโตแบบนิ่งๆและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
บริษัทซอฟท์แวร์แห่งนี้ได้พยายามผลักดันผลิตภัณฑ์ cloud ของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงปีที่ผ่าน ตั้งเป้าวิ่งไล่จับบริการประมวลผลบนระบบคลาวด์ของ Amazon ให้ได้ในอนาคตด้วย Azure ของตัวเอง ซึ่งในตลาดตอนนี้พวกเขาคืออันดับสอง นำหน้า Google ไปเรียบร้อยแล้ว ข้อได้เปรียบของพวกเขาคือมีประสบการณ์ที่ยาวนาน พาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง เงินทุนที่มากมาย พนักงานหัวกะทิมากมาย และที่สำคัญหัวเรือใหญ่อย่าง Nadella เพราะห้าปีหลังจากที่เขารับตำแหน่ง CEO นั้นการทำให้บริษัทที่กำลังพร้อมจะล้มหน้าคะมำกลับมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าผ่านล้านล้านเหรียญได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นสิ่งที่ต้องเขียนไว้ในประวัติศาสตร์ของบริษัทเลยก็ว่าได้
ถ้าไปดูรายงานผลประกอบการล่าสุดของบริษัทจะเห็นว่าตอนนี้พวกเขาโฟกัสพลังงานไปอยู่ในสามส่วนที่สร้างรายได้เท่าเทียมกันในแต่ละส่วน
Office, LinkedIn และ Dynamics = 10,000 ล้านเหรียญ
Azure cloud, server products และ enterprise services = 9,700 ล้านเหรียญ
Windows, Xbox และ Surface = 10,700 ล้านเหรียญ
จากที่เละเทะไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จนตอนนี้พวกเขากลายเป็นบริษัทที่แข็งแกร่ง มีผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้หลายทาง อยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบคู่แข่งในตลาด
จากสิ่งที่เกิดขึ้นดูเหมือนว่าวิถีทางของ Nadella คือการสร้างเชื่อมั่นให้กับพนักงาน ให้พวกเขาเชื่อมั่นว่าการเติบโตกำลังเกิดขึ้น ไม่ใช่บริษัทที่กำลังใกล้ตาย เพราะอย่างที่บอกว่าก่อนหน้านั้นพวกเขาต้องทิ้งโปรเจคมากมายที่ทำออกมาไม่ได้ผลตามที่ควร เขาเหมือนนกฮูก “อาวล์” ในการ์ตูน วินนี่ เดอะ พู ที่นำทางบริษัทด้วยความสติปัญญามากกว่าความบ้าบิ่นลุยทำทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่ให้ยึดติดกับความสำเร็จที่ผ่านมา มองไปหาโอกาสข้างหน้ามากกว่าพยายามหาเงินจากผลิตภัณฑ์เดิมๆ
ยกตัวอย่างง่ายๆตอนที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการตัดสินใจของเขาคือตอนที่ตัดงบประมาณพัฒนา Windows เพื่อไปสร้างธุรกิจบริการประมวลผลบนระบบคลาวด์ขนาดใหญ่ (ที่สร้างรายได้กว่า 34,000 ล้านเหรียญในช่วงปีที่ผ่านมา) จนสามารถแซงนำ Google และไล่ตาม Amazon Web Services ไม่ไกลแล้ว เพราะตอนนี้ Azure มีลูกค้าหลักๆรายใหญ่อย่าง Exxon Mobil, Starbucks และ Walmart
ตามหลักทฤษฎีความเป็นไปได้แล้ว Azure ท้าทายกับ AWS ของ Amazon ได้ไม่ยากในอนาคตอันใกล้
Nadella เป็นผู้ชายที่นุ่มนวลและมีความสุภาพสูง ภาพของ ดาร์ท เวเดอร์ แห่ง “Evil Empire” ที่กลับมาครองโลกอีกครั้งหนึ่งจึงไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนคิดเมื่อพูดถึงชายคนนี้ พูดได้อย่างเต็มปากว่าตอนนี้เขาได้กู้สถานการณ์ของ Microsoft ที่ใกล้ตายให้ฟื้นกลับคืนมาให้มีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง ตอนที่บอร์ดบริหารเลือกให้เขารับตำแหน่งต่อจาก Ballmer บริษัทกำลังติดกับดักความสำเร็จของอดีตและจำนวนผู้ใช้ Windows จากสูงสุด 90% ทั่วโลกกำลังลดลงอย่างน่าใจหาย (ตอนนี้ Windows ก็ยังสร้างรายได้ให้บริษัทประมาณ 20,000 ล้านเหรียญ/ปี)
จากชายที่ขาย PCs ให้กับลูกค้าบริษัท หลังจากนั้นก็มาเป็นวิศวกรใน Bing จนได้ดูแล Azure อย่างเต็มตัว ก่อนจะขึ้นเป็น CEO ผู้พลิกโฉมหน้าของบริษัท
เขากำลังเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของบริษัทแห่งนี้, แต่ครังนี้...คนทั้งโลกกำลังจับตามมองอย่างใกล้ชิด
- 38
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
