📚แพลตฟอร์มออนไลน์คนไทย ที่ช่วยให้คนไทยมีรายได้หลักแสนได้ โดยคุณหมู
#หากอยากรู้หนทางสร้างรายได้หลักแสน
#ดูจาก youtube 7 นาทีได้เลยครับ
จากธุรกิจที่เริ่มเพียงคนไม่กี่คน กลับสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจหลายร้อยล้าน หลายพันล้านบาท เจ้าของไอเดียที่เปลี่ยน วิธีการอ่านหนังสือหรือแมกกาซีนแบบเดิม ๆ ให้มาอยู่ในรูปของดิจิทัล และเป็นเจ้าของอาณาจักรอุ๊คบี บริษัทสตาร์ทอัพอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ที่สร้างมูลค่ามากกว่าพันล้านบาท ในเวลาเพียงไม่กี่ปี
อุ๊คบี เป็นแพลตฟอร์ม ที่ให้คุณมาปล่อยของได้ครับ ทุกวันนี้เราก็ไม่ได้ปล่อย แค่เฉพาะ e-book แล้วนะ ก็มีทั้งการ์ตูน นิยาย บล็อก จนถึงดนตรี หรือรูปแบบวิดีโอก็มีครับ
#ookbee มี Tencent หุ้นส่วนเป็นด้วย
ตอนที่เราโหลด App ขึ้นไปบน iPad วันแรก ผมยังจำได้เลย มีคนโหลดแค่ไม่กี่ร้อยคนครับ วันแรกเลยครับ แล้วก็ขายได้เงินประมาณ แค่ 2,000 บาท ตอนแรกยังรู้สึกว่า มันทำมาตั้งนาน มันได้ 2,000 บาท เองหรือ
แต่มันก็ค่อย ๆ ดีขึ้น ต้องมองว่าตอนนั้น iPad เพิ่งออกครับ แล้วคนยังมีไม่เยอะ แต่ตัวเลขก็ค่อย ๆ ดีขึ้น สมัยที่เราทำ E-Book เราก็เริ่มรู้สึกว่าทำมาตั้ง 3-4 ปีแล้ว เรามีสำนักพิมพ์อยู่กับเรา มีนิตยสารอยู่ประมาณ 2-3 พันหัวเลยนะครับ ก็รู้สึกว่ามันเยอะแล้ว มีสำนักพิมพ์ตั้งหลายพันเจ้า นิตยสารหลายพันหัว
แต่ว่าทุกวันนี้พอเราเป็น UGC ครับ เรารวม ๆ กัน นักเขียน นักวาดการ์ตูน นักดนตรี อะไรต่าง ๆ นี่ เรามีคนที่สร้าง content อยู่กับเรานี่ ประมาณ 300,000 คน
📚อ่านหลาย 10 ล้านครั้ง ??
เรื่องนึงมีคนอ่านเป็นหลายสิบล้านครั้ง คือเป็นนิยายที่มีคนอัพโหลดขึ้นมา หรือว่าการ์ตูนขึ้นมา มีคนอ่านหลายสิบล้านครั้ง โดยที่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ มันเป็นการสื่อสารสองทาง ระหว่างคนเขียนกับคนอ่าน 1เราไปเขียนไปตอนนึงปุ๊บ โพสต์ขึ้นไป คนอ่านก็จะมาคอมเมนต์ เหมือน Facebook อย่างนี้ comment, like, share ได้ เพราะฉะนั้น คนอ่านก็จะมาคอมเมนต์ อย่างนี้นะ ชอบอันนี้อันนั้น คนเขียนก็อาจจะได้รับแรงบันดาลใจ จากคนอ่านนี่แหละ ตอนต่อไปก็อาจจะมีการปรับเนื้อเรื่อง หรือว่ามีการโต้ตอบกัน ก็เหมือนกับการสร้างฐานแฟน
เราอยากจะมีบริษัทที่ช่วยศิลปิน ประมาณ 1 ล้านคนให้มีรายได้ขึ้นมา แล้วเขาสามารถทำอะไรขึ้นมาก็ได้ แต่งเพลง เขียนนิยาย อะไรต่าง ๆ ขึ้นมา ใน Southeast Asia เราก็จะเป็นแพลตฟอร์มที่สนับสนุนคนเหล่านี้
🥇ทำยังไงให้มันได้ไปถึงพันล้าน ??
คือเมื่อก่อนเวลาทำธุรกิจแล้วกัน คนอาจจะมองว่าต้องมีการวางแผนระยะยาว ต้องมีการเตรียมแผนอะไรกัน แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงนี่ เวลาเราทำสตาร์ทอัพมา 4-5 ปี สิ่งที่เราพบจริงว่า มันไม่มีอะไรอย่างนั้นหรอก คือมองกลับไป 4-5 ปีที่แล้ว พี่ก็ไม่รู้หรอกครับ ว่าตอนนี้จะเป็นลักษณะแบบนี้ หรือให้มองไปอีก 5 ปีข้างหน้า เราก็ไม่รู้หรอกว่าเราจะเป็นยังไง
มันคือการก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว 1 เราพอจะรู้ว่าอีก 3 เดือนข้างหน้า เราอยากจะทำอะไร แล้วถ้าทำ มันดีหรือเปล่า
ถ้าดีเราก็ทำเพิ่ม
ถ้าไม่ดี เราก็ถอยกลับมา แล้วก็ทำอย่างอื่น
ถ้ามันไม่ใช่ ก็เปลี่ยนวิธีการขาย
ก็ยิงรัว ๆ ครับ ไม่โดน ก็ยิงไปเรื่อย ๆ ทำต่อ
สตาร์ทอัพน่าจะเหมาะกับ การทำงานลักษณะแบบนี้มากกว่า เหมือนเป็นการทดลอง เป็นการลองผิดลองถูก ซึ่งมันเป็นจุดแข็ง
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆและคนที่คุณรักนะครับ 🤝
ขอบคุณข้อมูลจาก #cr. startup thailand
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
