15 พ.ค. 2019 เวลา 03:14
"5 ปัจจัยสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล"
(Five Domain of Digital Transformation)
ในยุคที่ภาคธุรกิจทุกอุตสาหกรรมต้องเผชิญกับความท้าทายที่เหมือนกัน คือ #การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy)
หลายองค์กรมีความเข้าใจว่า Digital Transformation คือการปรับปรุงเทคโนโลยีขององค์กรให้ดีมากยิ่งขึ้น แต่ David Rogers อาจารย์ประจำภาควิชาธุรกิจ Business School มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ได้ระบุในหนังสือ “The Digital Transformation Playbook” ที่ท่านแต่งว่า การเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีเสมอไป แต่มันเป็นการยกระดับกลยุทธ์เกี่ยวกับยุคดิจิทัลมากกว่า
การเติบโตในยุคดิจิทัลจำเป็นต้องทบทวนการตั้งกลยุทธ์ขององค์กรที่เกี่ยวกับ 5 ปัจจัยนี้ ได้แก่ ลูกค้า, การแข่งขัน, การจัดการข้อมูล, กระบวนสร้างนวัตกรรม และคุณค่า
ลูกค้า (Customer)
ปัจจัยแรกที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า องค์กรต้องทบทวนช่องทางการทำการตลาดให้เหมาะสมกับลูกค้าในยุค Network
การส่งสารถึงลูกค้า ต้องเป็นการส่งสารแบบที่ลูกค้าสามารถโต้ตอบกับการสื่อสารนั้นได้ ให้ความสำคัญกับลูกค้าในฐานะ “Key Influencer” ต่อสินค้าของคุณ และต้องสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายมากขึ้นให้กับลูกค้าไม่ใช่เพียงช่องทางออฟไลน์ หรือออนไลน์ เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
1
ประสบการณ์แบบ Omni-Channel จึงเป็นทางเลือกที่ดีของลูกค้าในยุคนี้
การแข่งขัน (Competition)
ปัจจัยนี้กล่าวถึง การคำนึงถึงคู่แข่งที่ไม่ได้มาจากอุตสาหกรรมเดียวกัน ในอดีตคู่แข่งขององค์กรก็มักจะมาจากอุตสาหกรรมเดียวกัน มีวิธีการดำเนินธุรกิจคล้าย ๆ กัน แต่คู่แข่งในยุคดิจิทัลจะแตกต่างไปจากเดิม เริ่มจะมีผู้เล่นใหม่ ๆ เข้ามาในธุรกิจของเราทั้งที่ไม่ได้ดำเนินธุรกิจหลักเหมือนเราก็ได้
นอกจากนั้น คู่แข่งในบางครั้งอาจจะกลายเป็นพันธมิตรในบางคราก็ได้
#ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ระหว่าง Apple กับ Google และ Rogers ยังอธิบายถึงการเพิ่มขึ้นของธุรกิจแพลตฟอร์มที่ทำให้บริษัทต่าง ๆ เช่น Airbnb และ Uber สามารถแข่งขันกับบริษัทในอุตสาหกรรมดั้งเดิมได้
การจัดการข้อมูล (Data)
ปัจจัยที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดการข้อมูล จากเดิม องค์กรใช้ข้อมูลในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระบวนการ แต่ในยุคดิจิทัล ข้อมูลกลายเป็น Asset ในการวางกลยุทธ์ที่สำคัญขององค์กร
ข้อมูลเป็นปัจจัยที่สามารถบูรณาการให้ทุกส่วนขององค์กร สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ อีกทั้งยังช่วยสร้างคุณค่าใหม่ ๆ ที่องค์กรอาจจะคาดไม่ถึงก็ได้
กระบวนการสร้างนวัตกรรม (Innovation)
ปัจจัยนี้มีการเปลี่ยนไปจากเดิมค่อนข้างมาก ต้องขอบคุณการพัฒนาของเทคโนโลยี ที่ทำให้กระบวนการสร้างนวัตกรรมเปลี่ยนแปลงไปด้วย ธุรกิจสามารถเรียนรู้ผลจากการสร้างนวัตกรรมได้ Real Time มากยิ่งขึ้น
กระบวนการสร้างนวัตกรรมในยุคดิจิทัล คือกระบวนการที่เน้นไปที่การทดลอง เรียนรู้จากการทดลอง และนำมาพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ยิ่งทดลองได้เร็ว ก็ยิ่งเรียนรู้ได้เร็ว และจะปรับตัวได้เร็ว
การสร้างต้นแบบจะเข้ามามีส่วนสำคัญในการทดสอบความต้องการของลูกค้า และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ #ผู้นำองค์กร ที่จะคอยผลักดันให้เกิด Innovation Culture ขึ้นภายในองค์กร ต้องรู้จักตั้งคำถามท้าทายพนักงาน และต้องคอยสนับสนุน ให้องค์กรเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
คุณค่า (Value)
ปัจจัยสุดท้ายที่ให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าทางธุรกิจสำหรับลูกค้า องค์กรต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คิดหาคุณค่าใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะพร้อมนำเสนอคุณค่าเหล่านี้ ตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าในยุคดิจิทัล #พยายามมองหาว่าทำไมลูกค้าถึงยังต้องการเราในวันพรุ่งนี้
#ตัวอย่างเช่น Facebook ที่ยังคงออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการเชื่อมต่อถึงกัน (Connected) ของผู้คนทั่วโลก
1
ทั้งนี้ หากองค์กรต้องการหลักสูตรที่ช่วยให้พนักงานของท่านพัฒนาใน 5 ปัจจัยสำคัญนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หลักสูตร “Digital Transformation” ของ Mind Dojo (Thailand) ได้เลย ซึ่งเป็นหลักสูตรที่จะนำผู้เข้าอบรมไปเรียนรู้ เข้าใจ และนำเครื่องมือในยุคการเปลี่ยนแปลงดิจิทัล ไปใช้ในการพัฒนาองค์กรและสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ ในยุคดิจิทัลนี้ ด้วยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ที่ผ่านการ Certificate จาก David Rogers แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย โดยตรง
เรียบเรียงโดย : คุณจีรวัฒน์ เยาวนิช (อ.ต้น)
Facilitator
ที่มา : “The Digital Transformation Playbook” แต่งโดย David Rogers
โฆษณา