16 พ.ค. 2019 เวลา 12:33
บทความก่อนหน้าเราได้รู้เกี่ยวกับประวัติของคำว่า โหดสัสรัสเซีย กันไปแล้ว
อันนี้ก็จะขอนำเสนอเรื่องราวที่ส่งเสริมให้รัสเซียเป็นดินแดนที่โหดสัสขึ้นไปอีก
1.สถาปนิกผู้สร้าง St.Basil ถูกควักลูกตา เหตุเพราะสร้างวิหารสวยเกิน!
ย้อนกลับไปช่วง ค.ศ.1555 สมัยพระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 แห่งรัสเซีย กับฉายา “ซาร์อีวานจอมโหด” ต้องบอกเลยว่าฉายานี้ไม่ได้มาเล่น ๆ แน่นอน เพราะยุคนั้นพระองค์ขึ้นชื่อลือชาด้านการปกครองอาณาจักรด้วยความโหดเหี้ยม ปราศจากความเมตตาใด ๆ และหนึ่งในวีรกรรมความ “โหดสัสรัสเซีย” ของพระองค์ก็คือ การสั่งควักลูกตาทั้งสองข้างของสถาปนิกชื่อดังนามว่า ปอสต์นิค ยาคอฟเลฟ (Postnik Yakovlev) ผู้ที่เป็นคนออกแบบ มหาวิหารเซนต์ บาซิล (Saint Basil’s Cathedral) ด้วยเหตุผลเพราะ ซาร์อีวานไม่อยากให้สถาปนิกผู้นี้ไปสร้างสิ่งที่สวยงามที่ไหนได้อีก (สร้างสวยกูก็ผิด TT
มหาวิหารเซนต์ บาซิล (Saint Basil’s Cathedral) ตั้งอยู่ที่จัตุรัสแดง กรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย
มาต่อกันเลย
2.ยอมเผาบ้านเมืองตัวเอง ดีกว่าถูกยึด ถ้าจะเอาก็เอาไปแค่ขี้เถ้าแล้วกัน!!
เข้าสู่ความโหดสัสยุคสงครามนโปเลียนช่วง ค.ศ. 1812 ที่ครั้งหนึ่งทัพนโปเลียนได้หวังจะยึดมอสโคว์ เมืองหลวงของรัสเซีย แต่แล้วก็ต้องอึ้งกิมกี๋ เพราะพอพี่แกบุกเข้าไปถึง ดันกลายเป็นเมืองร้าง เหลือแต่ซากที่ถูกเผาเรียบ แล้วฝีมือไม่ใช่ใครที่ไหนก็ทีมงานรัสเซียประเทศตัวเองเนี่ยละฮะท่านผู้ชม โดยก่อนหน้านี้รัสเซียได้อพยพคนออกไปเกือบหมดแล้ว จากนั้นก็จัดการชิงเผามอสโคว์เองสะเลย อารมณ์คงจะประมาณว่า ” มึงอยากมายึดมากใช้ไหม งั้นกูเผาเอง นักเลงพอ มึงอยู่กับซากเน่า ๆ ไปละกัน บ๊าย ”
หลังจากทัพนโปเลียนปักหลักอยู่กับซากเน่า ๆ ในมอสโคว์อยู่ประมาณหนึ่งเดือนเศษ ก็ว่าจะยกทัพไปยังอีกเมืองทางตอนใต้ เพราะรัสเซียดื้อ..ยังไม่ยอมจำนนสะที ท้ายที่สุดนโปเลียนก็ไปไม่ถึง เพราะทนความหนาวอันแสนโหดสัสของประเทศรัสเซียไม่ไหว ทหารเริ่มล้มตาย อ่อนแอ เพราะ ไร้เสบียง ที่พัก จึงตัดสินใจถอนทัพกลับ… และแล้วนาทีทองของรัสเซียก็มาถึงอาศัยจังหวะทหาร นโปเลียนอ่อนแอไล่ตอดไล่ตีทหารนโปเลียนระหว่างทางกลับอยู่ตลอดเวลา แต่ท้ายที่สุดกองทัพนโปเลียนก็ถอยทัพได้สำเร็จ แต่ประเด็นคือพอถอยทัพสำเร็จ กลับเหลือทหารไว้ใช้งานจริงแค่ 27,000 นาย เท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ก่อนมาทัพนโปเลียนมีทหารอยู่เกือบ 700,000 นาย เลยนะจ๊ะ ( บอกแล้วอย่ามาแหย่รัสเซีย! )
และสุดท้ายกับ
3.ถ้าทหารรัสเซียไปรบต้องเดินหน้าอย่างเดียว ถอยถูกยิง!
ในช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ราว ค.ศ. 1942 ระหว่างรัสเซีย รบกับเยอรมัน เป็นช่วงที่รัสเซียมีอาวุธปืนไม่พอกับจำนวนทหาร เพราะมีการเกรณ์ทหารเข้ามาเร่งด่วนจำนวนมาก ว่ากันว่า ทหาร 2 คน จะให้ถือปืนแค่ 1 กระบอก คนที่ไม่ได้ถือปืน ให้ตามคนที่มีปืนไป แล้วถ้าคนที่มีปืนตาย ให้หยิบปืนขึ้นมายิงต่อ และความ ” โหดสัสรัสเซีย ” ก็คือ ทหารรัสเซียจะถูกสั่งห้ามไม่ให้ถอยโดยเด็ดขาดทุกคนที่หันหลังให้ศัตรูจะถูกทหารฝ่ายเดียวกันยิงทิ้ง ประมาณว่า “ถ้าพวกมึงขี้ขลาด ถือเป็นคนทรยศต่อชาติ…จะต้องถูกฝ่ายเดียวกันยิงตาย! “
1
อือหือ... เป็นไงกันบ้างครับเพื่อนๆ หลังจากได้อ่านเรื่องราวของรัสเซียกันไปแล้ว ต้องยอมรับเขาเรื่องนี้จริงๆว่าพี่แกจะ โหดสัส ไปไหนพี่ค้าบ
โฆษณา