อุบายเมืองร้าง
เดิมพันของขงเบ้งและความคิดของสุมาอี้
เมื่อม้าเจ๊กเสียเกเต๋ง แผนที่วางไว้เสียหาย ขงเบ้งตกสู่สถานการณ์คับขัน
จึงต้องวางเดิมพันใช้แผนที่เสี่ยงที่สุด "อุบายเมืองร้าง" เพื่อเอาตัวรอด
ขงเบ้ง สามก๊ก 2010
สมัยที่ขงเบ้งลงจากเขาโงลังกั๋งมาช่วยเล่าปี่ใหม่ๆ เล่าปี่ยังมีกำลังอ่อนด้อยนัก
ขงเบ้งจึงใช้ทุกยุทธวิธี กล้าได้กล้าเสีย ใช้แผนการเสี่ยงๆ เพื่อสร้างรากฐานให้เล่าปี่
แต่เมื่อพระเจ้าเล่าปี่ตายไป ขงเบ้งต้องคอยค้ำจุนจ๊กก๊กไว้ ทุกการกระทำ จึงต้องวางแผนอย่างรัดกุม
การยกทัพขึ้นเหนือเพื่อตีวุยก๊กก็เช่นกัน แผนการทุกอย่างจะรัดกุมที่สุด ค่อยๆเดินทีละก้าวอย่างมั่นคง ไม่มีการเสี่ยง เดินก้าวกระโดดแม้แต่นิดเดียว
ทว่าแม้จะวางแผนอย่างรัดกุมแล้ว ก็ยังพลาดในการใช้คน
ขงเบ้งใช้ม้าเจ๊กไปรักษาเกเต๋ง ม้าเจ๊กกลับรักษาไว้ไม่ได้
เกเต๋งเป็นจุดลำเลียงเสบียงที่สำคัญที่สุดของจ๊กก๊ก ทำให้เมืองที่ยึดมาได้ขาดเสบียงบำรุง
ขงเบ้งจึงสั่งทหารทุกหน่วยให้ถอยทัพกลับไปตั้งหลักที่เมืองฮันต๋ง
ฝ่ายสุมาอี้ ยกทัพใหญ่ห้าสิบหมื่นไปที่เมืองเสเสีย หวังถล่มทหารจ๊กก๊กให้ราบคาบ
ตอนนั้นขงเบ้งอยู่ที่เมืองเสเสียพอดี มีทหารในเมืองแค่ไม่กี่พัน
ขงเบ้งเมื่อทราบข่าว ก็รู้ตัวว่าถ้าตนสั่งทัพในเมืองเสเสียให้ถอย จะต้องถูกกองทัพสุมาอี้ไล่ตีแน่นอน
เหล่าที่ปรึกษาต่างแตกตื่น ขอให้ขงเบ้งรีบขึ้นม้าหนีเอาตัวรอดก่อน
ขงเบ้งเดิมต้องวางแผนก้าวทีละก้าว มาคราวนี้ไม่มีทางเลือก จึงขอเดิมพันกับความคิดสุมาอี้สักครั้ง
ขงเบ้งสั่งให้คนเก็บธงที่ปักบนกำแพงเมืองลงมาให้หมด พร้อมทั้งเปิดประตูเมืองทั้งสี่ทิศ
ให้ชาวบ้านไปกวาดประตูเมืองตามปกติ ประตูละ 20 คน แล้วให้เหล่าทหารไปแอบซุ่มให้เงียบที่สุด
ตัวขงเบ้งนำเด็กสองคนไปนั่งที่เชิงเทิน บนกำแพงประตูเมือง เด็กคนหนึ่งถือกระบี่ อีกคนถือแส้ปัด
ส่วนขงเบ้ง นั่งดีดพิณ ทำสีหน้าสงบเป็นสุข เข้าสู่อารมณ์สุนทรี
อุบายเมืองร้าง สามก๊ก 2010
เมื่อสุมาอี้ยกทัพมาถึง เห็นประตูเมืองเปิดกว้าง
ขงเบ้งนั่งดีดพิณสบายอารมณ์อยู่ ก็สั่งหยุดทัพ
ที่ปรึกษาที่มาด้วยก็แปลกใจ ถามสุมาอี้ว่าทำไมไม่ยกทัพบุกเข้าเมือง ไปจับขงเบ้งมาฆ่าเสียให้รู้แล้วรู้รอด
สุมาอี้ก็กล่าวออกมาว่า ขงเบ้งช่างมีอารมณ์สุนทรีนัก เมื่อเล่าปี่สิ้นไป ขงเบ้งต้องคอยดูแลสมบัติที่เล่าปี่ทิ้งไว้ ทำอะไรก็ระมัดระวัง ตอนนี้คงมีกองทัพดักซุ่มอยู่แน่ ถ้าเราเข้าเมืองจะต้องหลงกลแน่นอน
ที่ปรึกษาคนนั้นมองไม่เห็นกองทัพอะไร จึงบอกให้สุมาอี้ลองส่งคนเข้าไปสืบดูสักหน่อย
สุมาอี้จึงจะยกทหารห้าพัน ให้ที่ปรึกษาคนนั้นสั่งการได้ตามใจชอบ
ที่ปรึกษาคนนั้นกลับขลาดเขลา ไม่กล้าสั่งการ จึงตอบปฏิเสธไป
สุมาอี้ ยืนมองเมืองร้างอยู่สักพัก ก็สั่งทหารถอยทัพ
ฝ่ายขงเบ้ง แม้จะไม่แสดงอาการ แต่ภายในตึงเครียดถึงขีดสุด เมื่อเห็นทัพสุมาอี้ถอยกลับ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจออกมา
ขงเบ้งเดิมพันว่าสุมาอี้จะไม่เข้าตีแน่ๆ ไม่ใช่เพราะสุมาอี้เกรงกลัวทัพซุ่ม แต่เพราะสุมาอี้มีเป้าหมายของตัวเองอยู่
ฝ่ายสุมาอี้เมื่อกลับถึงค่ายใหญ่ ลูกชายของสุมาอี้ก็ถามสุมาอี้ว่า เชื่อว่าขงเบ้งมีทัพซุ่มจริงหรือ
สุมาอี้ก็หัวเราะแล้วตอบกลับมาว่า ขงเบ้งกล้าเดิมพันขนาดนี้ กองทัพซุ่มอาจมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะกำจัดขงเบ้ง
สาเหตุที่สุมาอี้ไม่กำจัดขงเบ้งเป็นเพราะว่า ตอนนี้สุมาอี้ถูกคนสกุลโจระแวง เพราะแผนยุยงของม้าเจ๊ก
ถ้าหากกองทัพจ๊กก๊กขาดขงเบ้งไป สุมาอี้ก็หมดประโยชน์ต่อสกุลโจแล้ว
แต่ถ้าขงเบ้งยังอยู่ สุมาอี้ก็จะมีอำนาจทางทหารต่อไป เพราะคนที่พอจะต้านขงเบ้งได้ก็มีแค่สุมาอี้คนเดียว
สุมาอี้ สามก๊ก 2010
ที่ขงเบ้งกล้าที่จะเสี่ยงขนาดนี้ เพราะขงเบ้งเข้าใจในความคิดสุมาอี้
สุมาอี้เองก็เข้าใจในความคิดของขงเบ้ง
ทั้งสองคนจึงเป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อกันที่สุด
ทั้งนี้เวลาเราจะทำอะไรสักอย่าง การกล้าที่จะเดิมพันคือข้อดี
แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเสี่ยง ถ้าเราลองศึกษาหาความรู้ในเรื่องนั้นๆให้ดี
โอกาสที่จะสำเร็จมันย่อมมากขึ้น ผลของการเดิมพันก็จะออกมาดี
- 16
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
