19 พ.ค. 2019 เวลา 09:37 • ไลฟ์สไตล์
5 วิธีทำบุญเสริมดวงการเงินในวันพระ
วันพระ หรือ วันธรรมสวนะเป็นวันที่มีความสำคัญต่อพุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า ไม่ว่าจะร่ำรวยหรือยากดีมีจน วันพระเป็นวันที่เราจะได้ชำละล้างจิตใจให้ผ่องใส ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรและบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ทำให้เราเข้าใจสัจธรรมของชีวิต สรรพสิ่งล้วนเกิดมา ตั้งอยู่ และดับไป เป็นเรื่องธรรมดา นอกจากนั้น การทำบุญในวันพระยังเป็นการเสริมดวงชะตาของเราให้เจริญรุ่งเรือง ใครมีปัญหาดวงตก คนรักทิ้ง เจ้านายด่า การใช้วันพระเป็นโอกาสในการทำบุญก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการแก้เคล็ดเสริมดวงการเงิน การงาน และความรักให้ดีขึ้นมาได้พร้อม ๆ กับจิตใจที่มีความสุขสงบมากยิ่งขึ้น
หลังจากที่ Bkklovehoro.com ได้นำเสนอบทความ 6 วิธีแก้เคล็ดเสริมดวงการเงิน เพิ่มโชคลาภ สร้างความร่ำรวย ไปแล้ว วันนี้เนื่องในโอกาสวันพระใหญ่ซึ่งเป็นโอกาสดีในการทำบุญเสริมดวงชะตา จึงขอแนะนำท่านผู้อ่านเกี่ยวกับ 5 วิธีทำบุญเสริมดวงการเงินในวันพระแบบง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ ไม่ต้องใช้เงินเยอะ ขอเพียงแค่มีใจศรัทธาและดวงจิตที่ตั้งมั่นก็สามารถเสริมดวงการเงิน แก้เคล็ดปรับดวงการเงินให้กลายเป็นดวงเศรษฐีได้ในพริบตา ประกอบด้วย 5 วิธีง่ายๆ ดังนี้
1.ทำบุญเสริมมงคลด้วยการถวายสังฆทาน
การถวายสังฆทานเป็นการส่งเสริมพุทธศาสนา โดยการถวายข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับพระภิกษุสงฆ์ซึ่งเป็นผู้สืบสานและเผยแพร่พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า อย่างไรก็ตามในฐานะพุทธศาสนิกชน เป็นความรับผิดชอบของเราที่จะต้องเลือกถวายเครื่องสังฆทานที่มีคุณภาพ ไม่จำเป็นต้องเป็นของราคาแพงหรือซื้อจากร้านสังฆภัณฑ์ชั้นนำ แต่ควรเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ไม่หมดอายุ และทำขึ้นด้วยความตั้งใจจริง อาทิ อาหารคาวหวานก็ควรปรุงขึ้นด้วยวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง แต่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน เครื่องนุ่งห่ม (เครื่องบวช) และยาสามัญประจำบ้านที่จำเป็น ยิ่งเป็นของที่เราสามารถทำเองได้โดยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ยิ่งดี
การทำบุญนั้นจะไม่มีทางได้บุญเลยหากผู้ทำบุญต้องเดือดร้อนเป็นหนี้เป็นสิน ให้ทำตามกำลังศรัทธา ด้วยใจที่ตั้งมั่นก็จะมั่นใจได้ว่าการทำบุญในวันพระนั้นจะช่วยเสริมดวงการเงิน ลดเคราะห์กรรม และได้อานิสงฆ์ให้ชีวิตเป็นไปอย่างที่เราต้องการ โดยเฉพาะคนที่หวังว่าในชีวิตนี้จะต้องร่ำรวยให้ได้ การหมั่นทำบุญเสริมมงคลให้ชีวิตนอกจากจะเป็นชำระล้างจิตใจให้พ้นมลทินแล้ว ยังช่วยให้เรามีทัศนคติในการทำงานที่เบิกบาน แจ่มใสเจ้านายเอ็นดูและเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนพ้องบริวาร คนที่ขยันขันแข็งและเป็นมิตรกับสังคมรอบข้างอย่างสม่ำเสมอ ถ้าชีวิตนี้ไม่ร่ำรวยก็ให้มันรู้ไป ที่สำคัญคือความร่ำรวยที่จะเกิดขั้นกับเรานั้นจะมาจากเงินทองที่ทำมาหากินโดยสุจริต ไม่ใช่เงินทองที่ได้มาเพราะการโกงกินหรือการเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ต้องเป็นเศรษฐีที่ระแวดระวังตลอดเวลา ถ้าอย่างนั้นถึงร่ำรวยไปก็ไม่มีความสุข เพราะเงินซื้อการล้มตัวนอนหลับอย่างไม่ต้องกังวลสิ่งใดไม่ได้
2.บริจาคสิ่งของที่เป็นการเผยแพร่ปัญญาความรู้
การทำบุญเสริมดวงชะตาที่สามารถสร้างมงคลแก่ชีวิตผู้ทำบุญได้อย่างยั่งยืนที่สุด คือ การให้ความรู้เป็นวิทยาทานแก่ผู้ที่ขาดแคลนโอกาส เช่น การบริจาคหนังสือ วิดีทัศน์ หรือสื่อการสอนที่เป็นประโยชน์แก่เด็กด้อยโอกาสหรือผู้ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งการทำบุญด้วยการเผยแพร่ความรู้นั้นนับว่าเป็นการทำบุญเพื่อสร้างคนอย่างแท้จริง ใครจะรู้ว่าคนที่ได้รับหนังสือที่เราบริจาคหรือนักเรียนที่เราอาสาไปสอนภาษาอังกฤษให้วันหนึ่งเขาอาจจะโตขึ้นมาเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ เป็นคนดีของสังคมที่ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์และให้โอกาสคนรุ่นใหม่ต่อๆ ไป การให้เป็นพลังงานหมุนเวียนไม่สิ้นสุด โดยเฉพาะการทำบุญด้วยการให้ปัญญาซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและยั่งยืน
นอกจากการบริจาคหนังสือและสื่อการเรียนแล้ว เราอาจจะบริจาคเงินให้กับมูลนิธิเพื่อการศึกษาต่างๆ อาทิ มูลนิธิยุวพัฒน์ มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา มูลนิธิเพื่อการศึกษาพิเศษในพระราชูปถัมภ์ฯ หรือสมัครเป็นครูอาสาสมัครให้กับเด็กๆ เหล่านั้นในยามที่มีเวลาเพื่อถ่ายทอดความรู้จากประสบการณ์ของเรา ไม่มีการให้ใดๆ ที่จะเสริมบุญวาสนาสร้างความร่ำรวยให้กับเรามากไปกว่าการให้ความรู้เพื่อสร้างคน
3.ทำบุญด้วยการบริจาคโลหิต ต่อชีวิตให้กับเพื่อนมนุษย์
บุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์ปุถุชนคนหนึ่งจะทำได้คือการบริจาคสิ่งสำคัญที่สุดของร่างกายเราอย่างโลหิตที่ไหลเวียนหล่อเลี้ยงชีวิตของเราอยู่นั้น เพื่อต่อชีวิตให้กับผู้ที่ต้องการการถ่ายเลือดฉุกเฉินหรือโรงพยาบาลที่ขาดแคลนเลือดสำรองสำหรับการผ่าตัด การทำบุญด้วยการบริจาคเลือดนั้นเป็นการเสริมดวงชะตาของเราให้แข็งแกร่ง และเป็นการแก้เคล็ดดวงตกได้เป็นอย่างดี เพราะการสละสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตอย่างเลือดให้แก่ผู้อื่นนั้นจะทำให้เราเรียนรู้ที่จะไม่ยึดติดในรูป รส กลิ่น เสียง หรือสิ่งล่อใจต่างๆ ช่วยให้จิตใจของเรามีความสงบร่มเย็น ทำมาหากินคล่องแคล่วไม่ว่าจะเกิดอุปสรรคอะไรก็ตาม เราก็พร้อมที่จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาด้วยใจที่สงบ ด้วยเชื่อว่าบุญกุศลที่เราทำไปจะช่วยคุ้มครองเราให้ผ่านพ้นช่วงเวลาอันยากลำบากไปได้
การบริจาคเลือดเป็นประจำทุกวันพระช่วยย้ำเตือนเราว่าแม้แต่โลหิตที่ไหลเวียนอยู่ในกายเรา เรายังสละเพื่อคนอื่นได้ เงินทองที่ไหลออกมาไปเป็นของนอกกายที่วันหนึ่งก็สามารถหาใหม่ได้หากเราต่อสู้ และด้วยทัศนคติเช่นนี้ได้สร้างเศรษฐีน้อยใหญ่มานักต่อนักแล้ว โดยผู้ที่สนใจบริจาคเลือดในวันพระสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์บริหารโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย คลิกที่นี่
4.ทำบุญช่วยเหลือคนตามสถานสงเคราะห์
การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ เวลาที่เรามีความทุกข์ใจหรือภาระการงานสร้างความตึงเครียดสะสมจนทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับ การออกไปทำตักบาตรทำบุญมักจะช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นเสมอ ที่เป็นเช่นนี้เพราะเมื่อเราสละบางสิ่งที่เป็นของเราให้แก่เพื่อนมนุษย์ เราจะรู้สึกว่าเราได้ทำหน้าที่เติมเต็มส่วนที่สมาชิกในสังคมขาดหายและนั่นคือสิ่งที่ทำให้การดำรงอยู่ของเรามีความหมาย
เฉกเช่นเดียวกันกับการทำบุญช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ที่อาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานสงเคราะห์สำหรับเด็กกำพร้า คนชรา หรือผู้ป่วยโรคเอดส์ พวกเขาทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการความรักและสีสันในชีวิต การเข้าไปทำบุญในวันพระหรือวันที่เราสะดวกไม่ว่าจะในรูปแบบของการเลี้ยงอาหารกลางวัน การจัดกิจกรรมสันทนาการ หรือการเข้าไปเป็นเพื่อนพูดคุยให้กำลังใจกับคนที่ไม่ได้รับโอกาสในชีวิตเหมือนกับเราล้วนแล้วแต่เป็นการทำบุญที่ได้กุศลและเป็นมงคลแก่ชีวิตเป็นอย่างยิ่ง เพราะทำให้เราเป็นคนที่มีจิตใจเมตตา โอบอ้อมอารี เห็นใจเพื่อนมนุษย์ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นลักษณะของคนที่จะเจริญก้าวหน้าในอนาคต ใครรู้ก็อยากจะเป็นเพื่อนด้วยความเต็มใจ สามารถสร้างเครือข่ายได้มากมาย เนื่องจากเราเป็นคนที่ไม่เห็นแก่เงิน ไม่เอารัดเอาเปรียบได้ ผลบุญที่ได้นอกจากจะช่วยส่งเสริมดวงการเงินของเราให้แข็งแกร่งเป็นดวงเศรษฐี เฮงๆ รวยๆ แล้ว ยังช่วยให้เรามีความสุขใจที่ได้รู้ว่าเราเกิดมาได้ใช้ชีวิตที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นชีวิตที่มีความหมาย ไม่ได้เกิดมาเพื่อตักตวงความสุขไปวันๆ แต่เกิดมาเพื่อช่วยเหลือและเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์
5.เพิ่มพลังบุญด้วยการคิดบวก
สิ่งสำคัญที่สุดในฐานะพุทธศาสนิกชนในวันพระอาจไม่ใช่การทำบุญ แต่คือการระลึกถึงพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน การปฏิบัติธรรมทุกวันพระอาจเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการถือศีล 5 ระงับควบคุมตนเองไม่ให้ลุ่มหลงไปกับสิ่งล่อลวงต่างๆ รู้เท่าทันอารมณ์ความโกรธ ความหลง ความอิจฉาของตนเอง และที่สำคัญคือการสละเวลาในช่วงเย็นหลังเลิกงานหรือเลิกเรียน จัดดอกไม้ธูปเทียนเข้าห้องพระสวดมนต์ นั่งสมาธิ อโหสิกรรมให้กับคนที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดี ทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง ละจากโทรศัพท์มือถือ นั่งระลึกว่าที่ผ่านมาในชีวิตเราได้ทำอะไรที่ผิดพลาดไป ทำให้ใครเสียใจ และมีอะไรที่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ วันพระเป็นโอกาสดีที่เราจะได้เดินทางภายใน สำรวจตัวเองเพื่อที่จะเปลี่ยนตนเองเป็นคนใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม พ่อค้าแม่ขายที่รู้ตัวว่าทำมาค้าขายไม่คล่อง ให้สำรวจว่าเราดึงดูดลูกค้าพอหรือยัง ทำอะไรให้ลูกค้าไม่พอใจหรือเปล่า ให้ทำเช่นนี้ทุกวันพระเพื่อเป็นการรีเฟรชสติของเราเองให้คิดบวกซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างพลังบุญที่เกิดจากการคิดดี ทำดี แบ่งปันช่วยเหลือเกื้อกูลสังคม มีสติในการทำมาหากิน ไม่เบียดเบียนใคร หากยึดความซื่อสัตย์ ความขยันขันแข็ง และทัศนคติที่คิดบวกเป็นหลักในการทำมาค้าขาย เพียงเท่านี้ เงินทองไม่ไหลมาเทมาก็ให้มันรู้ไป
สรุป 5 วิธีทำบุญเสริมดวงการเงินในวันพระ
การทำบุญในวันพระนั้นไม่มีสูตรสำเร็จ แต่ 5 วิธีทำบุญเสริมดวงการเงินในบทความนี้ได้ผ่านการพิสูจน์โดยมหาเศรษฐีจำนวนมากซึ่งล้วนแล้วแต่เริ่มต้นจากศูนย์ พวกเขาเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เกิดมาดวงอาภัพ แต่สามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตให้กลายเป็นดวงเศรษฐีด้วยน้ำพักน้ำแรงและหยาดเหงื่อของตนเอง โดยในระหว่างนั้นก็ไม่ลืมที่จะทำบุญช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก และให้โอกาสแก่เพื่อนมนุษย์ ความร่ำรวยของพวกเขาจึงมีฐานบุญเป็นเครื่องค้ำจุน มันจึงเป็นความร่ำรวยที่ยั่งยืน ไม่ใช่ความร่ำรวยแบบสามล้อถูกหวยที่วันหนึ่งเงินก็หมด ขึ้นอยู่กับว่าท่านผู้อ่านอยากเป็นเศรษฐีแบบไหน เศรษฐีที่ร่ำรวยแต่วันหนึ่งดวงตกก็หมดตัว หรือเศรษฐีที่เป็นขวัญใจมหาชน คนดีใครๆ ก็รัก ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ แม้วันหนึ่งอาจต้องตกอับ แต่ก็มีคนพร้อมยื่นมือมาช่วยเหลือมากมาย อยู่ที่ว่าท่านจะเลือกแบบไหน
อ่านบทความเกี่ยวกับดวงความรักอื่นๆ
หมอดูดวงความรักแม่นๆ
ดูดวงไพ่ยิปซีความรัก
Pixabay
โฆษณา