19 พ.ค. 2019 เวลา 23:14
มดแดงแฝงพวงมะม่วง
ย้อนกลับไปราวเก้าปีก่อน
สองชนม์หาเช่าอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน เขาขับรถเลือกจนได้อพาร์ตเมนต์ที่ถูกใจ บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ
เลือกห้องพักได้เป็นห้องชั้นล่างก็ตกลงใจเช่า
จ่ายค่าเช่าล่วงหน้าค่าประกันค่ามัดจำเป็นเงินรวมกัน 10,000 บาทให้กับน้องผู้หญิงที่เป็นธุรการ
ระหว่างที่น้องธุรการเตรียมเอกสารการเช่า สองชนม์ก็พิศมองน้องเขา รูปร่างสูงแต่ไม่ผอม หน้าตาน่ารัก ตาสวย ยิ้มเก่ง ท่าทางจะคุยเก่ง
เอ่ยปากถามชื่อออกไป เธอเงยหน้าขึ้นจากเอกสารแล้วยิ้ม
ตอบกลับมาว่า “ชื่อมะเหมี่ยวค่ะ”
สองชนม์ได้รู้ชื่อก็ดีใจ
ทุกครั้งที่เข้าออกห้องที่พัก สองชนม์ก็จะเห็นน้องมะเหมี่ยวนั่งทำงานที่ห้อง วันไหนน้องเขาเงยหน้ามาเห็นก็จะยิ้มให้
สองชนม์ชื่นใจ
วันหนึ่งสองชนม์ซื้อขนมไปฝากที่ห้องทำงาน น้องมะเหมี่ยวยิ้มและเอ่ยปากขอบคุณ เลยถือโอกาสนั่งคุยด้วย น้องเขาคุยเก่งอย่างที่คาดไว้ คุยกันอยู่เป็นชั่วโมง จนได้แอดเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊คกัน
หลังจากนั้นเมื่อมีโอกาส สองชนม์จะเข้ามานั่งคุยอยู่ด้วยเสมอ มีขนมมาฝากบ้าง จนคุ้นเคยสนิทกัน มีโอกาสก็จะพาไปทานข้าว ซื้อของฟู๊ดแลนด์ ไปเดินจ่ายตลาดกัน
สองชนม์เริ่มชอบน้องมะเหมี่ยวมากขึ้น
ในระหว่างนั้นก็จะมีน้องผู้หญิงอีกคนที่อยู่ในอพาร์ตเมนต์ ชื่ออั๋น ที่เข้ามารู้จักกับมะเหมี่ยวและสองชนม์ รวมทั้งเพื่อนของมะเหมี่ยว ชื่อแอนนี่ที่มาหามะเหมี่ยวบ่อยๆ ทำให้ทั้งสี่คนเป็นกลุ่มที่คุยถูกคอกัน
เมื่อคุ้นเคยกันมากขึ้นก็จะมีการสังสรรค์สรวลเสรเฮฮา โดยเริ่มจากทำอาหารกินกัน มะเหมี่ยวเพิ่งเรียนจบด้านคหกรรมจากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลแห่งหนึ่ง ทำให้ทำอาหารได้ และเจ้าตัวชอบคิดสูตรอาหารเองเอามาให้ทดลองชิม ก็จะไปซื้อของที่ฟู๊ดแลนด์มาทำอาหารกับสองชนม์อยู่บ่อยๆ
เมื่อมีอาหารย่อมมีการดื่ม ทั้งสามสาวดื่มเก่งใช่ย่อย ก็จะมีมะเหมี่ยว อั๋น และสองชนม์ดื่มกินเป็นตัวยืน สถานที่ก็คือหน้าห้องรับแขกของอพาร์ตเมนต์ ลมเย็นตลอดคืน แต่ยุงเยอะชมัด
แอนนี่มาดื่มเป็นบางครั้ง แต่มาทีไรฮาตลอด คราไหนอั๋นไม่อยู่มะเหมี่ยวกับสองชนม์ก็จะดื่มกินกันสองคน
แต่ละครั้งก็จะดื่มกันจนดึกโข เมื่อดื่มเสร็จต่างแยกย้ายกันไปนอน ไม่ได้มีการล่วงเกินใดๆกัน มะเหมี่ยวก็มีห้องในอพาร์ตเมนต์ซึ่งเช่าอยู่ในฐานะพนักงาน
ทุกครั้งสองชนม์ไม่เคยแสดงออกให้เห็นว่าชอบน้องมะเหมี่ยว
ระหว่างที่รู้จักกันนั้น สองชนม์จะรู้ว่ามะเหมี่ยวอยู่ในช่วงที่มีปัญหากับแฟน ก็ได้แต่เพียงรับรู้ไว้ เมื่อเวลาน้องเล่าให้ฟัง
สองชนม์เคยเล่าให้มะเหมี่ยวฟังว่าตัวเขาเองก็ไม่มีใคร
มีอยู่คืนหนึ่ง มะเหมี่ยวไปดื่มกับเพื่อนๆที่ข้าวสาร กลางดึกเสียงโทรศัพท์ในห้องสองชนม์ดังขึ้น เป็นมะเหมี่ยวที่โทรมาหาสองชนม์จากห้องของเธอเอง โทรไปร้องให้ไป บอกว่ามีปัญหากับแฟนมาก เนื่องจากความเจ้าชู้ของแฟน จนผู้หญิงคนนั้นมาประกาศตัวตนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ร้องห่มร้องให้คุยไปสักพักจนสองชนม์รู้สึกสงสาร จึงบอกไปว่า “ให้พี่ไปหาที่ห้องไหม” ตอบกลับมาทั้งสะอื้น “ค่ะ”
สองชนม์ขึ้นลิฟท์ไปชั้นสาม เดินไปห้องของมะเหมี่ยว เขาไม่เคยเข้าไปในห้องของมะเหมี่ยวมาก่อน และมะเหมี่ยวก็ไม่เคยมาห้องของสองชนม์เช่นกัน
ยืนอยู่หน้าห้อง จะเคาะประตูเรียกให้เปิด แต่ชงักมือไว้ ในห้องเงียบเสียง คิดว่าคงจะหลับแล้ว สองชนม์จึงหันหลังเดินกลับไปที่ลิฟท์ แล้วกลับห้อง
สายๆเจอกัน แล้วจึงได้คุย
ระหว่างนั้นทั้งสองคนพบปะพูดคุยกัน ไปซื้อของ ทำอาหาร สังสรรค์กันอยู่เรื่อยๆ ที่เพิ่มมาคือการออกกำลังกายโดยการตีแบด มีสนามแบดมินตันอยู่ใกล้อพาร์ตเมนต์ อั๋นมาร่วมตีอยู่เสมอ แอนนี่ก็มาแจมบ้าง
ในระหว่างนั้นมะเหมี่ยวได้เลิกกันกับแฟน สองชนม์แอบยิ้มในใจ พยายามทำตัวให้ใกล้ชิดกับมะเหมี่ยวมากขึ้น ไปไหนมาไหนกันบ่อยขึ้น แต่ไม่มีการล่วงเกินใดๆ มือยังไม่ได้จับ ดูท่าว่ามะเหมี่ยวให้การตอบรับมาดี
พ่อค้าแม่ขายเริ่มแซวว่าเป็นแฟนกัน
สองชนม์ไม่ได้เอ่ยปากอะไรออกไป มะเหมี่ยวเองก็เช่นกัน
จากนั้นเวลาผ่านไปเกือบปีนับจากที่สองชนม์มาเช่าอพาร์ตเมนต์ มะเหมี่ยวเล่าให้สองชนม์ฟังว่า ไปกินเหล้ากับเพื่อนแล้วมีรุ่นพี่ของเพื่อนไปด้วยกันมาชอบเธอและจะชวนไปกินข้าว สองชนม์ก็ได้แต่บอกไปว่าอย่าไปคนเดียว ให้ชวนเพื่อนที่รู้จักกับพี่คนนั้นไปด้วย มะเหมี่ยวก็ตอบรับมา
กลับมามาเล่าให้สองชนม์ฟังว่าเธอไม่ชอบพี่คนนี้เลย คุยแต่เรื่องตัวเอง อวดรวย สองชนม์ได้แต่ฟังไม่ได้ให้ความเห็นอะไรไป
เวลาผ่านไปความสัมพันธ์ของมะเหมี่ยวและสองชนม์ก็ยังมีอยู่เรื่อยๆโดยที่อั๋นและแอนนี่ก็ยังมาร่วมเป็นกลุ่มสี่คนอยู่
สองชนม์เองก็ไม่กล้าบอกอะไรกับมะเหมี่ยวออกไปเพราะไม่รู้ว่าเธอคิดอย่างไรกับเขา
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่สองชนม์วุ่นๆอยู่กับงานร่วมสองสามเดือน ทำให้ห่างๆจากวงสี่คนนี้ไป
วันหนึ่งมะเหมี่ยวบอกเขาว่าบริษัทที่เป็นเจ้าของอพาร์ทเม้นท์จะให้เธอเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศที่ทำเรื่องพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
แต่เธอไม่อยากเข้าไปที่ออฟฟิศและรู้สึกเหมือนกับว่าบริษัทอยากจะให้เธอลาออก จึงคิดที่จะหาที่ทำงานใหม่
สองชนม์จึงคิดจะหางานใหม่ให้เธอและคิดว่าคงสมควรแก่เวลาแล้วที่เขาจะบอกความรู้สึกที่มีต่อมะเหมี่ยวไป
ค่ำนั้นมะเหมี่ยวกับสองชนม์ทานอาหารและนั่งดื่มที่อพาร์ตเมนต์ตามเคย ระหว่างที่คุยกันมะเหมี่ยวเอ่ยขึ้นมา
“หนูรู้นะว่าพี่ชอบหนู” แล้วยกแก้วขึ้นมาชนกับเขา
สองชนม์นึกแปลกใจจึงถามออกไป “ ทำไมหนูถึงรู้”
“หนูเป็นผู้หญิงนะพี่ การที่มีผู้ชายสักคนมาชอบมาทำดีกับเราทำไมหนูจะดูไม่ออก และนึกขอบใจที่พี่ไม่เคยทำอะไรล่วงเกินหนูเลยแม้แต่นิดเดียว คืนนั้นหนูก็ดูอยู่ว่าพี่จะมาหาหนูที่ห้องหนูหรือเปล่า แต่พี่ก็ไม่มา สิ่งเหล่านี้หนูขอบคุณพี่มาก”
“แล้วหนูรู้แต่เมื่อไหร่”
“รู้แต่แรกที่เราเริ่มสนิทกันแล้ว”
“แต่หนูอยากจะบอกพี่ว่า...” เธอพูดต่อ “ตอนนี้หนูรับปากที่จะคบกับพี่ธีรกุลที่เป็นรุ่นพี่ของเพื่อนหนูไป...”
มะเหมี่ยวนิ่งไปสักพักแล้วพูดต่อ “...ในช่วงสองสามดือนที่ผ่านมา พี่ธีรกุลเขายังขอเจอ พูดคุยทานข้าวกับหนูเรื่อยๆ แรกๆหนูไม่ชอบเขาอย่างที่เคยบอกพี่ล่ะ แต่พี่เขาก็เหมือนรู้ตัว ปรับปรุงตัวจนหนูยอมรับในตัวเขาได้ และนี่เขาก็ชวนหนูไปทำงานที่บริษัทที่เขาบริหารอยู่ในต้นเดือนหน้า...”
“แล้วนี่หมายถึงถ้าหนูออกจากที่นี่ไปแล้วเราจะไม่ได้เจอกันแล้วใช่ไหม... ” สองชนม์พูดแทรกขึ้นมา
“...จนถึงสิ้นเดือน เราก็ยังได้พูดคุยเจอกันอย่างนี้ใช่ไหม”
มะเหมี่ยวตอบมา “ถึงต้นเดือนหน้า หนูไปทำงานที่ใหม่ พี่กับหนูก็คงไม่ได้เจอกัน แต่เรายังมีเฟซกันอยู่ และพี่ก็โทรหาหนูได้ แต่ถ้าหนูไม่สะดวกที่จะคุยหนูก็จะบอก”
“แล้วหนูชอบพี่ไหม” เขานิ่งไปนานก่อนที่จะถาม
“หนูคงตอบคำถามนี้พี่ไม่ได้แล้วล่ะ หนูว่าพี่เองน่าจะรู้คำตอบนี้อยู่ ตลอดเวลาร่วมปีที่ผ่านมาพี่น่าจะดูออก...”
มะเหมี่ยวพูดต่อ “...ต่อจากนี้ไปจนสิ้นเดือนหนูอยากให้ความสัมพันธ์ของเราสองคนเป็นเหมือนที่ผ่านมา เราจะเก็บความรู้สึกดีๆที่มีต่อกันไว้ตลอดไป หนูเองจะไม่ลืมพี่ และขอขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่มีให้หนูตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา...”
สองชนม์รู้สึกได้ถึงน้ำตาที่คลอออกมาโดยไม่รู้ตัว
มะเหมี่ยวพูดทั้งน้ำตา “หนูขอจับมือพี่หน่อยได้ไหม เรายังไม่เคยจับมือกันเลย” เธอพูดพร้อมยกมือขึ้นมาวางบนโต๊ะ
สองชนม์เอื้อมมือไปจับมือมะเหมี่ยวไว้ “พี่ชอบหนูนะ”
“หนูรู้พี่ หนูรู้มาตลอด และรอว่าเมื่อไหร่พี่จะบอกหนูสักที”
ทั้งมะเหมี่ยวและสองชนม์นั่งจับมือกันตลอดในค่ำคืนนั้น
จบ
โฆษณา