Blockdit Logo (Mobile)
ค
“คิดคิด•เขียนเขียน”
•
20 พ.ค. 2019 เวลา 16:27 • ธุรกิจ
อ่านหนังสือไม่เข้าหัว ทำยังไงดี???
เป็นกันบ้างไหมครับ อ่านหนังสือทีไร จำไม่เคยได้
วันนี้เรามีเทนนิคเล็กๆน้อยๆ มาเล่าให้ฟัง คงพอช่วยทุกเพื่อนๆได้บ้าง.....
เรามาทำความเข้าใจระบบการทำงานของสมองกันก่อนดีกว่า
สมองของเราจะมีระบบความทรงจำสองแบบคือ
1.ความทรงจำระยะสั้น
2.ความทรงจำระยะยาว
สมองจะรับข้อมูลผ่านประสบการณ์หรือทางประสาทสัมผัสของเรานั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การฟัง การกิน การได้กลิ่นหรือการฟัง สมองแปรประสบการณ์เหล่านี้เป็นข้อมูลและนำเข้าไปเก็บเป็นความจำระยะสั้นที่ส่วน Hippocampus เอาไว้ก่อนครับ
สมองส่วนฮิปโปแคมปัส
เรียกว่า “ความทรงจำระยะสั้น” แสดงว่าต้องเก็บข้อมูลไว้ระยะหนึ่ง แล้วสมองเราเก็บไว้นานแค่ใหน???
สมองของเราจะเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้ประมาณ 2-4 อาทิตย์ โดยสมองของเราจะประเมินว่าเขามูลเหล่านั้นสำคัญหรือไม่ หากเป็นข้อมูลที่สำคัญ ก็จะส่งข้อมูลไปเก็บไว้ในตู้เซฟของสมอง ภาษาอักกฤษเขาเรียกว่า “Temporal lobe” หรือ สมองกลีบขมับ
1
แล้วจะทำอย่างไรให้เราอ่านหนังสือแล้วจำได้ละ???
จากกระบวนการทำงานของสมองที่ได้บอกไปแล้ว พอเห็นโอกาสอะไรบ้างไหมครับ ตอนที่ข้อมูลเก็บไว้ในส่วนความจำระยะสั้น 2-4 อาทิตย์ เราต้องบอกสมองของเราเองว่าข้อมูลนี้เป็นข้อมูลสำคัญ เอาไปเก็บไว้ที่ส่วนความจำระยะยาวซะ!!!
•
•
•
แล้วจะบอกยังไงละ? เราพูดกับสมองได้ด้วยเหรอ?
•
•
เราต้องสื่อสารกับสมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ก็ด้วยการนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ซ้ำหลายๆครั้ง เช่นการใช้ข้อมูลความรู้ที่ได้อ่านมาทบทวน
“อย่างต่ำสามครั้งภายในสองสัปดาห์”
สมองเราก็จะตัดสินว่าเป็นข้อมูลที่สำคัญและจะเอาไปเก็บไว้ที่ตู้เซฟสมอง หรือส่วน Temperal lobe นั่นแหละครับ
สมองส่วน Hippocampus และ Temperal lobe ภาพจาก: http://theconversation.com/why-people-with-dementia-dont-all-behave-the-same-100960
และการจะสั่งให้สมองตัดสินว่าข้อมูลใหนควรเก็บไว้เป็นความทรงจำระยะยาว ส่วนใหนควรลบออกไปจากความทรงจำ คือการใช้ซำ้หรือการทบทวนเท่านั้นนะครับ ไม่มีทางอื่น!!!
“ขอย้ำอีกครั้ง ภายในสองอาทิตย์ เอาความรู้ไปใช้หรือทบทวนอย่างต่ำสามครั้ง”
1
คราวนี้หายสงสัยกันแล้วใช่ใหมครับ ว่าทำไมเราอ่านหนังสือทีไร จำไม่เคยได้ ก็เพราะเรายังไม่ได้ทบทวน
แล้วทำไมคนบางคนเราอยากลืม แต่ลืมไม่ได้เขาไม่ได้ซักที
ก็เพราะเรายังคิดถึงเขาตลอดไปยังไงละครับ
ไอเดียของเรื่องนี้มาจากหนังสือ :
OUTPUT: The Power of Output :How to Learning to Outcome
学びを結果に変える “アウトプット大全”
สามารถเขาไปอ่านเนื้อหาเก่าๆได้จากหน้าเพจนะครับ
โฆษณา