21 พ.ค. 2019 เวลา 07:56 • ปรัชญา
ความสุขบนรอยบิ่น
ครอบครัวเรามีพี่น้องสี่คน เราเป็นคนที่สาม
พวกเราพี่น้องรักกันมาก เพราะพ่อแม่ปลูกฝัง
ให้พวกเรารู้รักสามัคคีตั้งแต่เล็ก
เราไม่ใช่ครอบครัวที่ร่ำรวย
แต่คุณพ่อก็พยายามทำงานหนักเพื่อครอบครัว คุณแม่ดูแลทุกอย่างในบ้าน..
อย่างมีระเบียบให้น่าอยู่
ฝีมือทำอาหารนี่เกินคำบรรยาย
แม้พวกเราไม่เคยมีโอกาส..
ไปชิมอาหารตามภัตตาคารหรู
แต่เชื่อมั่นว่าฝีมือคุณแม่ไม่มีแพ้พวกเขา
บ้านเราไม่ได้มีข้าวของเครื่องใช้ที่แพงนักหนา
จะดีหน่อยก็จะเป็นชุดจานชามชุดใหญ่ที่เราใช้กันทุกมื้อ นั่นเพราะคุณแม่ต้องการให้พวกเราฝึก..
และคุ้นเคยกับมารยาทบนโต๊ะอาหาร
จานชามชุดนี้แหละที่น่าจะหรูสุดในบ้านแล้ว
วันหนึ่งตอนที่คุณแม่กำลังเสริฟมันฝรั่งต้มใส่จาน เรายกจานเร็วไปหน่อย..
จนจานไปกระทบจานของพี่สาว
ทำให้จานเราบิ่นไปเล็กน้อย
เราใจเสียขึ้นมาทันที เพราะจานชามชุดนี้..
เราต้องใช้ร่วมกันหกคนทุกครั้ง
แต่คุณแม่ก็ไม่ได้ดุว่าตำหนิเรา
เพียงบอกว่าบิ่นนิดนึงยังใช้การได้
แต่เตือนเราว่าวันหลังให้ระวัง
หลังจากนั้น พอทุกครั้งที่ใครได้รับจานใบนี้
ก็จะบ่นเป็นเชิงหยอกล้อว่าวันนี้โชคร้ายจัง
เราไม่สบายใจ มันเหมือนตอกย้ำความสะเพร่าของเราครั้งแล้วครั้งเล่า..
วันนี้น้องเราก็ได้จานใบนี้
แกเบ้ปากทำท่าจะเริ่มบ่น
อยู่ๆคุณพ่อก็ประกาศว่า..
จากนี้ไปถ้าใครได้รับจานบิ่นใบนี้
ทุกคนต้องไปหอมแก้มเขา
ว่าแล้วคุณพ่อก็เข้าไปหอมแก้มน้องเป็นคนแรก แล้วทุกคนก็ทำตาม น้องยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้รับความรักมากมายขนาดนี้
หลังจากวันนั้น ใครได้จานใบนั้น..
กลายเป็นสิ่งที่มีความสุข
และถ้าวันไหนใครแบกความทุกข์เข้าบ้าน
พวกเราก็จะจงใจวางจานใบนั้นข้างหน้าเขา
แล้วทุกคนก็จะไปรุมหอมเขาพร้อมรอยยิ้ม
ความทุกข์ความเศร้าหมองทั้งหลาย
ก็แทบจะมลายหายไปในชั่วพริบตา
จานชามชุดนั้น..
สุดท้ายก็ต้องโละทิ้งตามสภาพและกาลเวลา
ฐานะบ้านเราค่อยๆดีขึ้น
เดี๋ยวนี้บ้านเรามีจานชามมากกว่าหนึ่งชุดแล้ว
แต่เรามักจะระลึกถึงบรรยากาศของการโอบกอดหอมแก้มกันอยู่เสมอ
หลายปีผ่านไป..
วันหนึ่งเราไปทานข้าวที่ภัตตาคารพร้อมกัน
ตอนบริกรเอาจานมาเสริฟ
พวกเราสังเกตเห็นว่า..
จานตรงข้างหน้าคุณพ่อมีรอยบิ่นเล็กๆ
แทนที่เราจะเรียกให้บริกรเปลี่ยนจาน
แต่เปล่า..พวกเราทุกคนลุกขึ้น
แล้วเดินไปหอมแก้มและโอบกอดคุณพ่อ
อย่างมีความสุข
รอยบิ่นแท้จริงแล้วคือจุดบกพร่อง
แต่มันกลับกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุขของเรา ทุกวันนี้แม้เราจะเจอสิ่งเลวร้ายขนาดไหน
แต่เราก็สามารถเอาอีกมุมมองหนึ่ง..
มาสยบความรู้สึกที่ไม่ดีออกไป
ขอบคุณคุณพ่อมากๆ..
ที่สอนให้เรารู้จักวิธีการมองต่างมุม
เพื่อค้นหาความหมายใหม่ๆที่มีคุณค่ามากยิ่งๆขึ้น
ทุกสิ่งล้วนมีสองมุมมอง..
จะมองในแง่บวกหรือแง่ลบก็อยู่ที่ใจเรา
หากมัวแต่มองด้านลบ
เราคงสลัดปัญหาและความเศร้าหมองไม่พ้น
แต่ถ้าฉลาดพอที่จะมองในแง่บวก
ปัญหาต่างๆน่าจะกลายเป็นเรื่องง่ายที่จะแก้ไข
เครดิตบทความ : ขจรศักดิ์ แปล และเรียบเรียง
#needhug

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา