"Don't judge a book by its cover" อย่าตัดสินคนแต่ภายนอก สำนวนนี้ยังใช้ได้ดีทุกยุคทุกสมัยเลยขอรับ 😄😄😄
ปัจจุบันเรามักเห็นคนมากมายยิ้มแย้มแจ่มใส ไปเที่ยว ร่าเริง กินเพลิน เดินกับแฟนเต็มโซเชียลไปหมด จนบางครั้งเราก็อาจจะรู้สึกว่าทำไมคนอื่นมีความสุขกันจัง มันน่าอิจฉายิ่งนัก 🤔🤔🤔
มีหลายคนที่ได้คุยกับเจี๊ยบ เจอเจี๊ยบครั้งแรกและบอกว่า ติดตามเฟสอยู่ (อันนี้ขอบคุณทุกคนนะขอรับ) ดูรูปกับสามีแล้ว สวีทกันมากเลย ดู happy เนอะ ดีจัง เจี๊ยบจะกล่าวขอบคุณ ยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า...
"ก็เหมือนคู่ทั่วไปแหล่ะขอรับ ไม่ได้สวีทมากมาย บางทีเถียงกันจะตาย เหมือนคู่รักคู่อื่นนั่นแหล่ะ 😄😄😄 55555+"
ล่าสุดที่เจี๊ยบแชร์ประสบการณ์ตอนป่วยของตัวเอง เมื่อไปอบรมที่โรงพยาบาลศรีธัญญา เจี๊ยบบอกว่าเมื่อใดที่เจี๊ยบป่วย เศร้า ดิ่ง สิ่งหนึ่งที่เจี๊ยบทำ คือ ปิดมือถือ ไม่ดูมันอีกเลย
เพราะเมื่อป่วย คุณจะห้ามความคิดไม่ได้เลยว่าทำไมฉันถึงไม่มีชีวิตที่ดีเหมือนคนอื่น ทำไมฉันไม่มีความรักที่ดี ทำไมฉันไม่ได้ไปเที่ยวบ้าง สำหรับเจี๊ยบสิ่งที่ทำให้เจี๊ยบยิ่งดิ่งมากๆตอนกำลังป่วย คือ การเห็นภาพอดีตตัวเองก่อนป่วยในเฟส เรากดเข้าไปดูแล้วพบว่า เมื่อก่อนเราไม่ใช่แบบนี้
สิ่งเหล่านี้มันยิ่งทำให้เราจมดิ่งกับความทุกข์มากขึ้น มากขึ้น จนบางครั้งเราก็ถลำไปกับกับดักเหล่านั้นจนเกือบจะต้องหายไปจากโลกนี้ 😔😔😔
เจี๊ยบเลือกที่จะรักษาจิตใจตัวเองไปพร้อมกับเข้ากระบวนการแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่มีพิธีแก้กรรม ไม่มีสะเดาะเคราะห์ และไม่เคยใช้น้ำมันกัญชาที่กำลังเป็นกระแสตอนนี้
สิ่งหนึ่งที่เจี๊ยบเลือก คือ การเข้าไปในกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มอิสระช่วยเหลือ ให้คำแนะนำกัน และให้กำลังใจต่อกัน เจี๊ยบเรียนรู้หลายอย่าง และค้นพบว่า ยังมีคนมากมายที่เผชิญความทุกข์มากกว่าเรายิ่งนัก และพบว่าหลายคนก็หายจากการเป็นโรคนี้เช่นกัน
หลังจากที่หายจากการเป็นผู้ป่วย วันนี้เจี๊ยบตัดสินใจเลือกที่จะเดินทางการเป็นผู้บำบัด ตอนอยู่ในห้องสัมภาษณ์ อาจารย์ผู้สัมภาษณ์ทั้ง 4 คนได้ยิงคำถามประมาณว่า "คุณรู้สึกยังไงที่จากการเป็นผู้ป่วยแล้วจะมาเป็นผู้บำบัด"
เจี๊ยบตอบว่า มันทำให้เจี๊ยบเข้าใจคนมากขึ้น ว่าความทุกข์ของคนเราไม่เหมือนกัน เราไม่รู้ว่าเค้าเจออะไรมาบ้าง เราไม่สมควรตัดสินใคร เจี๊ยบเล่าว่าเวลามีคนมาขอคำปรึกษาเจี๊ยบ เจี๊ยบมักจะรับฟัง ไม่ตัดสิน ไม่สั่งสอน แต่ก็จะมีแนะนำการปฏิบัติตัวว่าต้องทำยังไงถึงหายจากประสบการณ์ตัวเอง สอนให้เค้าคิดด้วยตัวเค้าเอง เพราะเจี๊ยบจะบอกทุกคนที่มาคุยว่าสุดท้ายการที่เค้าจะหายได้ มันคือ การรักษาด้วยยา 50 และตัวคุณเองอีก 50 แค่นั้น
จากประสบการณ์ คนที่มาขอคำปรึกษาเจี๊ยบหลายคนเป็นคนตลก ร่าเริง บางคนเป็นคนในวงการบันเทิงที่เราไม่คิดว่าเค้าจะเป็นซึมเศร้าด้วยซ้ำ แต่เจี๊ยบก็เข้าใจนะเพราะตอนที่เจี๊ยบหายแล้วประกาศตัวว่าเคยเป็น ก็มีหลายคนประหลาดใจว่าเราก็เคยป่วยเป็นโรคจิตเวชแบบนี้เช่นกัน 😊😊😊
This is what depression looks like
อย่าตัดสินคนแต่ภายนอก และอย่าเชื่อในสิ่งที่เราเห็นเท่านั้น เพราะบางครั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่เค้าแสดงออกมา มันอาจจะเป็นแค่วิธีการกลบเกลื่อนความทุกข์อันมืดสนิทของเค้าก็ได้...
.
ใครจะรู้??
#ขอให้ทุกคนมีความสุข #รัก #23May2019
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
