ขนอม (อ่านว่า ขะ - หนอม) : เพชรเม็ดงามแห่งใหม่ที่ต้องไปสัมผัส
ขนอม (อ่านว่า ขะ-หนอม) : เพชรเม็ดงามแห่งใหม่ที่ต้องไปสัมผัส
ผู้เขียนเคยไปทุกจังหวัดในประเทศไทยแล้ว แม้ว่าบางจังหวัดแค่เดินทางผ่านไม่เคยไปพักค้างคืนก็ตาม คุยได้นะครับว่าไปทั่วทุกจังหวัดแล้ว แต่ก็ยังคุยไม่ได้หรอกครับว่าได้ท่องเที่ยวทั่วไทยแล้ว
จังหวัดนครศรีธรรมราชนั้น เคยไปพักค้างคืนแทบนับครั้งไม่ถ้วน แต่ที่ขนอมนั้นไม่เคยไปครับ และที่ได้ไปเพราะมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าทะเลที่ขนอมนั้น สวยงามและน่าสนใจอย่าบอกใคร
ผู้เขียนไปขนอมมาเป็นปีแล้ว แต่ความทรงจำที่ขนอมเหมือนไม่ลืมเลือน
ซื้อทัวร์จากงาน “ไทยเที่ยวไทย” ไว้ครับ มีค่าห้อง ค่าอาหารเช้า-กลางวันและการนำเที่ยว ส่วนการเดินทางต้องจ่ายเอง ไปเมื่อไรก็ได้ภายใน ๑ ปี นับจากวันซื้อ
เมื่อเพื่อนทราบว่าซื้อทัวร์ไปเที่ยวที่ขนอม ก็เลยขอติดตามไปด้วยพร้อมเพื่อนอีก ๑ คน มอบภาระในการจัดการทั้งหมดให้ โดยตกลงกันว่าจะช่วยกันจ่ายแบบ American Share
การเดินทางไปขนอมมีหลายทาง แต่เลือกเครื่องบินเพราะสะดวกรวดเร็วดี ทางเลือกคือจะไปลงที่สุราษฎร์ธานีหรือนครศรีธรรมราช ขนอมอยู่ห่างจากสนามบินทั้งสองตามภาษาสถิติบอกว่ามีความแตกต่างกันแบบไม่มีนัยยะสำคัญ ก็ต่างกันเพียง ๒๐ กิโลเมตร นี่นับจากตัวเมืองนะครับ
ลงที่ไหนก็ต้องต่อรถตู้ เราก็เลือกไปลงสุราษฎร์ฯ โดยตอนแรกเข้าใจว่าลงที่นี่ราคาค่าตั๋วถูกกว่า ที่ไหนได้เมื่อถึงขนอมจึงทราบว่า จากสนามบินทั้งสองแห่งไปขนอมนั้น หากลงที่นครฯ ใกล้กว่า
แล้วค่าตั๋วจากกรุงเทพฯ ไปนครฯ ถูกกว่าไปสุราษฎร์ฯ เสียอีก วิชาคณิตศาสตร์นำมาใช้กับค่าตั๋วไม่ได้ ได้บทเรียนว่าการหาข้อมูลใดๆ นั้น จากเจ้าของพื้นที่ดีที่สุดและข้อมูลราคาก็ตรวจสอบก่อน
ดีที่ทั้งสุราษฎร์ฯ และนครฯ มีสายการบิน Low cost ไปลงมากกว่า ๑ สายการบิน ทำให้ราคาค่าเครื่องบินไม่ค่อยมหาโหดเหมือนมีสนามบินเดียว
ตอนที่ผู้เขียนไปชมดอกชมพูพูคาที่น่าน ยังต้องรอให้น่านมีสายการบินลงมากกว่า ๑ สาย ไปลงที่นั่นก่อนเลยครับ แฮะๆ ก็ทราบกำหนดก่อนนี่ครับว่าสายการบินอีกสายหนึ่งจะไปเริ่มลงเมื่อไร
เพื่อนที่ทำงานที่ทำงานที่สุราษฎร์ธานีช่วยเหลือโดยไปส่งให้ถึงที่พักที่ขนอม ก็ไม่เสียค่ารถตู้ครับ แต่ก็ติดค้างน้ำใจกัน
ออกจากสนามบินสุราษฎร์ธานี ๑๐.๔๐ น. แวะกินอาหารกลางวันเที่ยงที่ร้านป้าทิ้งซึ่งเป็นอาหารทะเลพื้นบ้านพอดี ร้านนี้อยู่ติดทะเลอยู่ในอำเภอดอนสัก
เพราะอยู่ริมทะเลจึงได้ทิวทัศน์ที่ดี อาหารอร่อย ผิดหวังนิดหน่อยตรงปูผัดผงกะหรี่ไม่เหมือนกับที่เราคาดหวัง เพราะที่นี่ปูผัดผงกะหรี่ใส่วุ่นเส้นเยอะพอควร ร้านแจ้งว่าเป็นสูตรเฉพาะของเขา
จากร้านอาหารถึงที่พัก เพียง ๓๐ นาที เท่านั้น หลังจากเช็คอินและนำของเข้าที่พัก ซึ่งเห็นแล้วก็สะอาดสะอ้าน สวยงาม เพื่อนก็นำไปเที่ยวชายทะเลขนอม แต่ยังไม่ได้ลงหาดเพียงแต่ไปดึ่มและชมรีสอร์ทดีๆ แห่งหนึ่ง
เนื่องจากบ่อนชนไก่ซึ่งเรียกเป็นทางการว่าสนามกีฬาชนไก่ เป็นบ่อนชนไก่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย อยู่ตรงข้ามที่พัก จึงเข้าไปแวะชม
ผู้เขียนเคยชมการชนไก่ครับ แต่ไม่เคยดูในบ่อนแบบนี้ ทราบว่าการชนไก่ของนครศรีธรรมราชนั้น จัดโดยสมาคมแล้วก็เวียนกันไปตามสนามต่างๆ ที่ขนอมนี้จัดเดือนละประมาณ ๒ ครั้ง เท่านั้น
ที่พักมีสระว่ายน้ำสวยด้วยครับ ตั้งใจว่าจะออกกำลังกายตั้งแต่ต้นเดือนนี้วันละไม่น้อยกว่า ๓๐ นาที ด้วยการเดินหรือปั่นจักรยาน พักที่นี่ ๒ คืน จึงได้ว่ายน้ำแทน
ตอนเย็นก็เดินไปชมวิถีชีวิตของคนบ้านบางแพง ตำบลท้องเนียน โดยเดินไปชมบ้านเรือนริมแม่น้ำบางแพง แล้วแวะตลาดบางแพง
ที่นี่ได้เห็นชาวบ้านมีรถสามล้อประดิษฐ์เองแทนรถกระบะ บรรทุกได้ทั้งคนและของ
เนื่องจากกลางวันกินอาหารจนอิ่มแปล้ เย็นจึงซื้อของเล็กๆ น้อยๆ จากตลาดมากิน เจอของแปลกครับ ข้าวหลามลูกเล็กของที่นี่ไม่มีจุกปิดครับ แต่เขาใช้กากมะพร้าวที่คั้นแล้วมาปิดแทน
อาหารเช้ามื้อแรก มีทั้งข้าวผัด ข้าวต้ม ผัดซีอิ้ว ขนมปัง แตงโมและกาแฟ หลังอาหารแล้ว ก็ออกทัวร์กันตามรายการซึ่งมีอาหารกลางวันรวมอยู่ด้วย
จุดแรกที่ไปคือไปแหลมประทับเพื่อลงเรือชมทะเลขนอม ก่อนลงเรือก็ได้กราบรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขอให้โชคดีมีใจ ปลอดภัยจากการเดินทางและขอให้ได้เห็นปลาโลมาด้วย
แล้วก็สมใจครับ เราได้เห็นปลาโลมา ๒ ตัว แหวกว่ายให้เราได้ชมหลายครั้ง มีข้อสังเกตครับ หากจะถ่ายรูปปลาโลมา รูปที่ออกมาอาจไม่เห็นปลาโลมานะครับ เพราะว่ายดำผุดด้วยความรวดเร็วมาก ทางที่ดีที่สุดก็คือถ่ายวีดิโอครับ แล้วค่อยมาจับภาพในภายหลัง
หลังจากนั้น ก็ได้ชมทัศนียภาพที่สวยสดงดงามของอุทยานแห่งชาติหาดขนอมและหมู่เกาะทะเลใต้
ได้ชมหินพับผ้า (Pancake rock) ซึ่งมีอายุกว่า ๒๔๐ ล้านปี ซึ่งเกิดจากการยกตัวของหินชั้นใต้ผิวน้ำ ไกด์อธิบายว่าหินพับผ้านี้มีเพียง ๒ แห่ง ในโลก เท่านั้น คือที่ขนอมและที่ประเทศนิวซีแลนด์ แต่ดูจากกูเกิ้ลแล้วก็มีหลายแห่งอยู่ครับ แต่อาจสวยไม่เท่า ๒ แห่ง นี้
ได้ชมเกาะนุ้ยนอก นุ้ยใน พร้อมทั้งได้รับทราบตำนานการเหยียบน้ำทะเลจืดของหลวงพ่อทอดที่เกาะนุ้ยนอกนี่เอง
เห็นเกาะท่าไร่ซึ่งเป็นเกาะกั้นเขตแดนระหว่างจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี
และได้เห็นเกาะเล็กๆ ซึ่งมีหลักหมุดเขตแดนปักอยู่ด้วย
เกาะท่าไร่นี้มีสิ่งที่น่าสนใจ ๒ อย่าง คือต้นกระบองเพชรป่า ซึ่งขึ้นตามโขดหินเหมือนจันทร์ผา แสดงถึงลักษณะการอยู่รอด อีกอย่างหนึ่งคือนกนางแอ่นขี้หนู ชนิดนี้กินรังไม่ได้ครับ เพราะรังทำด้วยหญ้าไม่ใช่น้ำลาย ก็นับว่าเป็นโชคดีของนกนางแอ่นชนิดนี้ไป
ได้ชมเกาะผี หาดนางกำ ช่องรูเล็ดซึ่งเดิมเรียกว่าช่องเสด็จ และเขาหัวช้าง ซึ่งผู้เขียนจินตนาการไม่พอที่จะเห็นเป็นหัวช้าง ก็ตามแต่จินตนาการของแต่ละบุคคลนะครับ สำคัญก็คือสวยมากครับ
ขึ้นมาจากทะเลด้วยความประทับใจในความสวยงามของทะเลขนอมเป็นอย่างยิ่ง ได้ความรู้สึกดีๆ ที่อยากเรียนท่านผู้อ่านว่าทะเลขนอมสวยงามสมคำเล่าลือจริงๆ
แหล่งท่องเที่ยวถัดไปคือสวนลุงแดง เป็นสวนของนายอรุณ ดำคุ้ม เกษตรกรดีเด่นระดับอำเภอ เห็นแล้วชื่นชมมากและได้ความรู้มาปรับใช้ด้วย สวนนี้เป็นเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง นอกจากฝรั่งกิมจูที่ขึ้นชื่อแล้ว ยังปลูกส้มโอ มะนาว ส้มโชกุน ใบยาสูบ เลี้ยงปลาและเลี้ยงไก่อีกด้วย
ได้ความรู้เรื่องวิธีการกำจัดแมลงวันทอง โดยใช้สารล่อแมลงวันทองไว้ที่ก้นขวดแล้วเจาะรูให้แมลงวันทองเข้า เข้ามาแล้วออกไม่ได้ก็เรียบร้อย
ไปสวนตาสรรค์ปลาตอด ซึ่งมีลำธารไหลผ่าน ได้จัดที่ให้ผู้คนนั่งให้ปลาตอดที่เท้าทั้งสองข้างหรือทุกส่วนที่แช่ลงไป ได้ความรู้สึกดีๆ
ขึ้นไปชมทิวทัศน์บนเขาสูงสุดของขนอมชื่อเนินเทวดาและเนินนางฟ้า เห็นอ่าวขนอม อ่าวหัวถนนหาดคอเขาและอ่าวนายเพลา
ลงมาเดินที่ชายหาดขนอม ได้บรรยากาศที่ดีแม้ว่าฟ้าไม่แจ่มใสมากนัก แต่ไปทางใต้ไม่ต้องกลัวฝนหรอกครับ ฝนไล่ช้างนั้นตกแรงแต่ไม่นาน นับว่าโชคดีที่เจอฝนทั้งสองวันแต่ตกในขณะที่อยู่บนรถ
ไกด์แนะนำร้านอาหารทะเลดีๆ ที่ขนอม ให้หนึ่งร้าน คือร้านน้องวาเลน ได้ขอร้องให้เจ้าของร้านไปรับและส่งที่รีสอร์ท เพราะไกด์ไม่ว่า ทราบจากเจ้าของว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ไปรับส่งลูกค้าที่ที่พัก
อาหารอร่อยมากครับ เราสั่งอาหาร ๔ อย่าง คือ ยำกุ้ง ปลาสำลีทอดยำมะม่วง ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาวและยำทะเล แต่มีสิ่งที่ต้องระวังอย่างมากหากไม่เคยไปร้านนี้มาก่อนก็คืออาหารที่นี่จานใหญ่มากเป็นพิเศษ
เราพยายามกินให้หมดแต่ไม่หมดครับ คงเพราะคุยกันถูกคอเจ้าของร้านได้นำไส้อ่อนทอดกระเทียม ซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งของร้านมาแถมให้ แต่ก็ได้แค่ชิมคำเดียวรสชาติอร่อยมาก แต่รับไม่ได้จริงๆ ครับ เพราะล้นคอแล้ว
หลังอาหารเช้าแล้วจึงขึ้นรถตู้ขนอม-สุราษฎร์ฯ ค่าบริการคนละ ๑๐๐ บาท ออกตั้งแต่ ๗.๔๕ น. ห่างกัน ๔๕ นาที กลับสุราษฎร์ฯ หลังจากเที่ยวชมที่สุราษฎร์ฯ นิดหน่อย ก็ขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพมหานคร
ไปขนอมซึ่งไม่เคยไปมาก่อนครั้งนี้รู้สึกประทับใจ สนุกและมีความสุขมาก เพราะได้มีโอกาสชมทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามรวมทั้งมีสิ่งอื่นๆ ที่น่าสนใจ
หากขนอมได้รับการพัฒนาโดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่านี้ ขนอมจะเป็นคู่แข่งสำคัญของแหล่งท่องเที่ยวอื่น
โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญคือไฟฟ้า น่าเกลียดมากครับ ขนอมมีโรงไฟฟ้า ๓ โรง ผลิตไฟฟ้าโดยแก๊สธรรมชาติ บางโรงก็ปล่อยควันออกมา ก็ทำลายสิ่งแวดล้อมของขนอมส่วนหนึ่ง แต่คนขนอมกลับไม่ได้รับประโยชน์จากโรงไฟฟ้าเหล่านี้เท่าที่ควร การปล่อยให้ไฟฟ้าของขนอมดับบ่อยๆ นั้น นอกจากทำลายเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว ยังทำลายสุขภาพรวมทั้งทำลายความรู้สึกของคนขนอมด้วย
สิ่งที่อยากเห็นก็คือขนมน่าจะมีรถสาธารณะที่ใช้ในการเดินทางท่องเที่ยวจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งได้ สำหรับเศรษฐีไม่มีปัญหาครับ แต่ฉิ่งฉับทัวร์หรือมากันไม่กี่คนลำบากหน่อย
ชาวขนอมน่าจะรวมตัวกันเช่นเดียวกับการรวมตัวของเรือหางยาวที่นำชมทะเลในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะทะเลใต้ ซึ่งอาจเป็นสองแถวหรือตุ๊กๆ ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาที่ขนอมมากขึ้น
โรงแรมและที่พักต่างๆ น่าจะมีจักรยานไว้ให้บริการหรือให้เช่าก็ได้ แล้วมีเส้นทางจักรยานให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยว เช่นเดียวกับรายการชมทะเลที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะทะเลใต้นั่นแหละ
สุดท้ายก็คือการใช้บัตรเครดิต ที่ขนอมใช้บัตรเครดิตได้ที่ที่พักและร้าน แต่ต้องเสียค่าบริการซึ่งธนาคารเก็บร้อยละ ๓% น่าจะช่วยกันหาทางแก้ไข เพราะการพกเงินสดไปเที่ยวไม่สะดวกนัก
ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้ช่วยกันเจียระนัยให้ขนอมเป็นเพชรเม็ดใหม่ ที่ส่งประกายแวววาวทางตอนใต้ของอ่าวไทยให้ขจรขจายไปทั่วโลกด้วย
พุธทรัพย์ มณีศรี
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
