มาร์โก ซิโมเน่ : 2 เดือนต่อมา
มาร์โก ซิโมเน่ เข้ามารับตำแหน่งเฮดโค้ชของราชบุรี มิตรผล เอฟซี อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2562 นับจนถึงวันนี้ (25 พฤษภาคม) ก็ 2 เดือนเต็มพอดี ผลงานเป็นอย่างไรบ้าง เรามาลองไล่เรียงกัน
ซิโมเน่คุมทัพราชันมังกรมาแล้ว 9 นัด รวมทุกถ้วย ชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 3 ถ้านับเฉพาะในไทยลีก ผลงานจะเป็น 7 นัด ชนะ 3 เสมอ 1 และแพ้ 3 ถ้าดูแต่ตัวเลข ออกแนวเสมอตัว
แต่ถ้าดูจากรูปเกมแล้ว จะเห็นได้ถึงพัฒนาการของทีมอย่างเห็นได้ชัด และดูเหมือนว่าจะถูกอกถูกใจแฟนบอลราชบุรีไม่น้อย
เราสามารถแบ่งการทำงานของกุนซือชาวอิตาลีเป็น 3 ช่วงเวลา ช่วงแรกเป็นการศึกษาผู้เล่นในทีม ช่วงที่ 2 เป็นช่วงที่ให้ผู้เล่นในทีมทำความรู้จักกับแทคติกของเขา และช่วงที่ 3 ช่วงสุดท้าย เป็นช่วงที่เรียกได้เต็มปากว่า "ทีมของซิโมเน่"
• เริ่มที่ช่วงแรก : ศึกษาลูกทีม
- การจะประสบความสำเร็จในการทำงานนั้น สิ่งหนึ่งที่ควรทำคือ การทำความรู้จักกับกับเพื่อนร่วมงานให้ได้มากที่สุด คนไหนชอบอะไร มีความสามารถด้านไหน หรือไม่ชอบอะไรและทำอะไรไม่ได้
ซิโม่เน่ก็เลือกที่จะทำความรู้จักกับนักเตะของเขาก่อนเช่นกัน
- 3 นัดแรกของซิโมเน่นั้น ต้องพบกับทีมใหญ่ทั้งนั้น เมืองทอง, สมุทรปราการ และของแสลงอย่างเชียงราย
แม้ซิโมเน่จะเป็นโค้ชที่ชอบใช้ระบบหลัง 3 แต่การมาคุมทีมช่วงแรก โค้ชเลือกที่จะคงระบบ 4-3-3 ที่ทีมคุ้นเคยมานานก่อน
นั่นเป็นเพราะโค้ชต้องการจะเรียนรู้ขีดความสามารถของนักเตะในทีม
- นัดแรกที่คุม ทีมสามารถเอาชนะเมืองทองได้อย่างเหลือเชื่อ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม นั่นคือการเริ่มต้นที่ดี นัดนี้โค้ชเลือกใช้มนตรีแทนล็องจิลที่ช่วงนั้นบาดเจ็บ ยืนหน้าในแผนหน้า 3 ตัว แผงกลางเลือกใช้ชุติพนธ์กับณัฐวุฒิ
- นัดที่ 2 ทีมต้องออกไปเยือนสมุทรปราการ ซิตี้ ทีมที่กำลังร้อนแรง แม้จะออกไปพ่ายแต่ก็เป็นการแพ้อย่างหวุดหวิด 1-2 รูปเกมเรียกได้ว่าสู้กับเจ้าบ้านได้ดีเลยทีเดียว นัดนี้ซิโมเน่เลือกที่จะทำความรู้จักกับยศศักดิ์ เชาวนะ
- นัดที่ 3 ต้องเจอกับของแสลงอย่างเชียงราย และสุดท้ายก็พ่ายคาบ้านไป 0-2 เป็นเกมหนึ่งที่ทีมเราเล่นไม่ดีเท่าที่ควร นัดนี้โค้ชเลือกที่จะดูฟอร์มนาซารี่และศาสนพงษ์
หลังจบ 3 นัดแรก เป็นช่วงเวลาที่ไทยลีกได้หยุดพัก 2 สัปดาห์ ซิโมเน่ได้เริ่มงานต่อไปของเขาทันที
• ช่วงที่ 2 : ให้ลูกทีมทำความเข้าใจแทคติก
- หลังจากทำความรู้จักและเห็นปัญหาของลูกทีมแล้ว สิ่งแรกที่ซิโมเน่ทำก็คือ เรียกนักเตะมาทดสอบความฟิต
ปัญหาหนึ่งที่โค้ชมองเห็นก็คือเรื่องความฟิตของนักเตะ เมื่อเห็นปัญหาแล้วก็แก้ตรงจุดนั้น
การทดสอบความฟิตแบบนี้ส่วนมากเรามักจะเคยเห็นกันในช่วงพรีซีซั่น ซึ่งการมาเริ่มทำระหว่างฤดูกาลเช่นนี้ก็ไม่ผิดอะไร เพราะนี่คือพรีซีซั่นของซิโมเน่นั่นเอง
- หลังกลับมาจากพักลีก เกมแรกที่ต้องเจอคือการไปเยือนพีทีที ระยอง ซึ่งเป็นบททดสอบที่ดี
- นัดนี้เป็นนัดแรกในยุคของซิโมเน่ที่ทีมใช้หลัง 3 ตัว อาจจะดูแปลกๆ หน่อยตรงที่จับศิลา, ปวีร์ และเอกลักษณ์ มายืนเป็น 3 ปราการหลังตัวกลาง และเลือกใช้จิรวัฒน์เป็นวิงแบ็คซ้าย
- ส่วนตรงกลางเป็นการใช้กลางรับ 2 คน อย่างปฐมชัยและกฤษณนนท์ ซึ่งเป็นการกลับมายืนคู่กันอีกครั้งหลังจากเกมนัดเปิดสนามกับท่าเรือ
ผลที่ออกมากลับดีเกินคาด ราชบุรีสามารถเอาชนะในเกมเยือนได้เป็นครั้งแรกของฤดูกาล
- หลังจากทำผลงานได้ดี เกมถัดมาราชบุรีต้องมาเจอกับบุรีรัมย์ ซึ่งอย่างที่ทุกคนทราบ เราพ่ายไปอย่างหวุดหวิด แต่เป็นการแพ้ที่หลายคนลงความเห็นว่า ทีมของซิโมเน่เล่นได้ดีกว่าด้วยซ้ำ
และนั่นถืิอเป็นการเริ่มต้นแห่งทีมของซิโมเน่
• ช่วงที่ 3 : ทีมของซิโมเน่
- การคั่นด้วยฟุตบอลถ้วยลีกคัพ ทำให้แฟนต้องทำความคุ้นเคยกับฟุตบอลสไตล์ของซิโมเน่ด้วย
แม้จะพบกับทีมที่ห่างชั้นกว่าอย่างฉะเชิงเทรา แต่กุนซือชาวอิตาเลียนก็แสดงให้เห็นอย่างคร่าวๆ ว่า ไม่ว่าจะเจอกับทีมใดก็ตาม ราชบุรีจะเล่นแบบรัดกุม ไม่ผลีผลาม ตามสไตล์อิตาลีแท้ๆ
- การพบกับสุโขทัยในนัดต่อมานั้น แม้ทีมจะพลาดแบบที่ซิโมเน่ก็ยังไม่เข้าใจในช่วงต้นของเกม แต่นักเตะในทีมก็ยังแสดงให้เห็นถึงหัวจิตหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ ตามตีเสมอในช่วงก่อนจบครึ่งแรกได้
แม้ครึ่งหลังจะพับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียว แต่ด้วยสภาพฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ก็เป็นการยากที่จะทำอะไรไปมากกว่านี้
- การออกไปเยือนอยุธยาในนัดถัดไปนั้น ทีมมีการเปลี่ยนผู้เล่นและแทคติกพอสมควร ครึ่งแรกทีมกลับโดนคู่ต่อสู้จากลีกรองทุบแบบสู้ไม่ได้ แต่เพราะการแก้เกมแบบทันท่วงทีของซิโมเน่ ทำให้ช่วงเวลาที่เหลือ ราชบุรีพลิกกลับมาเล่นได้เหนือกว่าคู่ต่อสู้และเอาชนะไปได้ในที่สุด
แสดงให้เห็นถึงการกล้าตัดสินใจของโค้ชได้เป็นอย่างดี
- และนัดล่าสุดสด ๆ ร้อน ๆ ที่ผ่านมา ในเกมที่ราชบุรีสามารถบุกไปเอาชนะชัยนาทได้ถึงเขาพลองนั้น เราได้เห็นทีมของซิโมเน่อย่างแท้จริง
ซิโมเน่ได้ทีมเป็นของตัวเองแล้ว ตั้งแต่แผงหลัง, กลาง, หน้า ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข 5-3-2 หรือ 3-5-2 ก็ตามแต่ โค้ชจะปรับใช้ให้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์
- ถ้าสถานการณ์บีบให้ต้องตั้งรับ วิงแบ็คทั้งซ้ายและขวาจะไม่เติมเกมบุก แต่ถ้ามีโอกาสรุกกลับ วิงแบ็คจะเติมขึ้นไปจนสุด อีกทั้งกลางรับที่ยืน 2 คน ในจังหวะบุกจะมี 1 คนเติมขึ้นไปช่วย
หรือบางช่วงที่ต้องครองเกม ล็องจิลจะลงมาล้วงบอล ทำให้การยืนตำแหน่งคล้าย ๆ จะเป็น 5-4-1 ด้วยซ้ำ
- แทคติกที่ยืดหยุ่น การตั้งรับอย่างอดทนและมีระเบียบวินัย กลายมาเป็นจุดแข็งของราชบุรีชุดนี้ไปแล้ว
แม้เกมอาจไม่สวยงามอย่างใคร ๆ แต่กลับซ่อนไว้ซึ่งประสิทธิภาพอันเต็มเปี่ยม
เท่าที่ผมได้ไล่อ่านความคิดเห็นของแฟนบอลราชบุรีที่มีต่อซิโมเน่ ทั้งในเพจของสโมสรและกลุ่มของแฟนบอลต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะชื่นชอบและรู้สึกมีความหวังกับการทำงานของโค้ชชาวอิตาเลียนผู้นี้เป็นอย่างมาก
หวังว่าความคิดเห็นของแฟนบอลเหล่านี้ จะทำให้ผู้บริหารเชื่อมั่นในตัวของซิโมเน่มากขึ้นด้วย
เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์คน แม้ 2 เดือนที่ผ่านมาอาจดูไม่มากมาย แต่ก็ไม่น้อยเกินไปที่จะพูดว่า กุนซือชาวอิตาเลียนผู้นี้ได้เข้าไปนั่งอยู่กลางหัวใจของสาวกราชันมังกรทุกคนเรียบร้อยแล้ว
- บททดสอบที่สำคัญอีกเกมหนึ่ง คือการออกไปเยือนชลบุรีในสุดสัปดาห์นี้ ถ้าผลงานยังออกมาดีอย่างต่อเนื่อง เราอาจจะได้เห็นมาร์โก ซิโมเน่ คุมทีมกันไปยาวๆ
ไม่ต้องเปลี่ยนโค้ชบ่อยๆ แบบที่ผ่านมา
#สาวกราชันมังกร #TheDragonianFC #RBMFC #MarcoSimone
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
