ยานยนต์ไร้คนขับ : นวัตกรรมที่เราเอื้อม(ไม่)ถึง???
ภาพจาก : http://www.konnakhon.com/detail_news.php?n_id=1512
เพื่อนๆคงเคยได้ยิน “ยานยนต์ไร้คนขับ” มาบ้างแล้วใช่ไหมครับ แล้วรู้ไหมครับ ว่าการจะเป็น “ยานยนต์ไร้คนขับ” ได้
• จะต้องการพัฒนาเป็นกี่ระดับ?
• ตอนนี้แต่ละค่ายรถยนต์ เขาพัฒนากันไปถึงใหน?
• สุดท้ายภาครัฐต้องเตรียมมาตรการรองรับอย่างไรบ้าง?
เราจะเล่าให้ฟัง
รูปจาก : www.sae.org/autodrive
1. ค่ายรถยนต์เขาต้องพัฒนากันกี่ระดับ????
ระดับของยานยนต์ไร้คนขับมี 6 ระดับ คือ
ระดับ 0 : ขับเคลื่อนโดยคน (รถยนต์บ้านเราทั่วไปเป็นแบบนี้)
ระดับ 1 : เริ่มมีการติดตั้งระบบช่วยขับเคลื่อน เช่น ระบบการเตือนเมื่อออกนอกเลนส์ ซึ่งพบได้ทั่วไปในระยนต์ที่ประเทศญี่ปุ่น)
ระดับที่ 2: ขับเคลื่อนได้เองบางส่วน เช่น ระบบ Cruise control หรือระบบช่วยจอด เป็นต้น
คุ้นๆบ้างไหมครับ เราเริ่มเห็นค่ายรถบางเจ้า เอาเทคโนโลยีนี้มาโฆษณาขายกันบ้างแล้ว
ระดับที่ 3: รถยนต์ขับได้เองบางส่วน แต่ต้องมีคนคอยควบคุมอยู่หลังพวงมาลัย
ระดับที่ 4: รถยนต์ขับเคลื่อนได้เองทั้งหมด แต่อาจต้องแก้ไขสถานการณ์บ้างในกรณีฉุกเฉิน
ระดับที่ 5 : ขับเคลื่อนได้เองร้อยเปอร์เซนต์
**ระดับการพัฒนายานยนต์ไร้คนขับ (ให้คำจำกัดความโดย สมาคมวิศวกรรมยานยนต์ หรือ Society of Automotive Engineering ซึ่งมีตัวย่อว่า SAE)
2. แต่ละค่ายเขาทำกันไปถึงใหนแล้ว
• ค่ายรถยนต์ Audi : ในปี 2015 ได้ทดสอบในระดับที่ 3 โดยการวิ่งจาก ซานฟานซิสโก ไป นิวยอร์ก เป็นระยะทาง 3,400 ไมล์ ในระหว่างการทดสอบทีมวิศวกร ต้องควบคุมรถหลายครั้งด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัย
• ค่ายรถยนต์หน้าใหม่อย่าง Google: ประสบความสำเร็จในการทดสอบระยนต์ไร้คนขับระดับที่ 2 แต่อย่างไรก็ตามยังต้องพัฒนาต่อไปเพื่อมุ่งไปสู่ระดับที่ 5
• ฟอร์ด มอเตอร์: ได้ร่วมลงทุนกับบริษัท Argo AI จำนวน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อลงทุนในนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ และมุ่งหวังที่จะนำนวัตกรรมนี้ไปใช้ร่วมกับยานยนต์ไร้คนขับในระดับที่ 4 ในปี 2021
เราข้ามมาทางฝั่งเอเชียกันบ้าง
• ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นอย่าง ”โตโยต้า” และ “ฮอนด้า” มีความพยายามจะพัฒนาให้ได้ในระดับที่ 4 ในการวิ่งบนทางไฮเวย์ เพื่อให้ทันการแข่งขันกีฬา “โอลิมปิกส์ 2020”
• ค่ายเกาหลีอย่าง “ฮุนได” มีแผนทดสอบยานยนต์ไร้คนขับบนไฮเวย์ให้ได้ ภายในปี 2020 และจะทดสอบในเขตชานเมืองในปี 2030
3. ภาครัฐต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
จากงานวิจัยของ KPMG เรื่อง 2019 Autonomous Vehicles Readiness Index ได้ระบุว่าภาครัฐควรให้ความสำคัญกับ 4 เรื่องด้วยกัน คือ
1. การสนับสนุนการลงทุนในเรื่องนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง
2. การมีสถาบันวิจัยที่เกี่ยวเนื่องการยานยนต์ไร้คนขับ
3. การสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การแก้ไขกฏหมายและนโยบาย
4. การให้ความสนใจของผู้บริโภค
งานวิจัยชิ้นนี้ได้ลำดับความสามารถไว้ด้วยเป็นดังนี้
1. ประเทศเนเธอร์แลนด์
2. ประเทศสิงคโปร์
3. ประเทศนอร์เวย์
4. ประเทศสหรัฐอเมริกา
5. ประเทศสวีเดน
6. ประเทศฟินแลนด์
7. ประเทศอังกฤษ
8. ประเทศเยอรมัน
9. ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
10. ประเทศญี่ปุ่น
ท่านผู้อ่านสังเกตเห็นอะไรบ้างไหมครับ ลำดับที่ 2 คือประเทศสิงคโปร์!!!!
ทีนี้พอทราบหรือยังครับว่า
“ยานยนต์ไร้คนขับ” เป็นนวัตกรรมที่เราเอี้ม(ไม่)ถึง
เพราะสิงคโปร์อยู่ไกล้บ้านเราแท้ๆ ยังทิ้งเราไปไกลขนาดนั้น
ซึ่งจริงๆมันคงยาก เพราะวันนี้ “สภา” บ้านเรายังเป็น “โรงละคร” อยู่เลยครับ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
