27 พ.ค. 2019 เวลา 07:45 • กีฬา
ดราม่าที่ลุ้นระทึกที่สุดของกัลโช่ เซเรียอา เกมฟุตบอลที่ต้องลุ้นกันจนถึงแมตช์สุดท้าย นี่คือเรื่องราวของยูเวนตุส กับลาซิโอในปี 2000
การแย่งแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ซีซั่นที่มันส์ที่สุด เกิดขึ้นในฤดูกาล 1999-00
มันเป็นการดวลกันตัวต่อตัว ของยูเวนตุส แชมป์ 25 สมัย ทีมเต็งหนึ่ง กับลาซิโอ ยอดทีมจากกรุงโรม ที่ไม่ได้แชมป์ลีกสูงสุดมาแล้ว ถึง 26 ปี
ศักยภาพนักเตะของทั้ง 2 ทีม ถือว่าแกร่งทัดเทียมกัน
ยูเว่ นำทัพโดย อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่, ซีเนอดีน ซีดาน, ฟิลิปโป้ อินซากี้, เอ็ดการ์ ดาวิดส์ และ เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ เรียกได้ว่าครบเครื่องทุกตำแหน่ง
ขณะที่ลาซิโอ ก็ไม่ธรรมดา ทีมของสเวน โกรัน เอริคส์สัน มีพาเวล เน็ดเว็ด, อเลสซานโดร เนสต้า, ฮวน เซบาสเตียน เวรอน, ดีเอโก้ ซิมิโอเน่ และซินิซ่า มิไฮโลวิช
เรื่องฝีเท้า ถือว่าคุณภาพใกล้เคียงกันมาก คือใครได้เป็นแชมป์ก็ไม่น่าเกลียดเลย ล้วนสมศักดิ์ศรีทั้งสิ้น
ความสนุกในการแย่งแชมป์ซีซั่นนั้น คือการเบียดกันนัดต่อนัด
ยูเว่เป็นผู้นำ ส่วนลาซิโอ เป็นผู้ตาม
โดยยูเวนตุส เป็นจ่าฝูงมาตลอดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่ลาซิโอ ก็ไม่ยอมลดละ ยูเว่ชนะ พวกเขาก็ชนะ ไล่จี้แต้มมาเรื่อยๆ
ปัญหาคือ ยูเว่ ดันไม่พลาดเยอะ ลาซิโอเองก็ท้อ คืออุตส่าห์ชนะเกมยากๆหลายนัด แต่ก็ยังเป็นแค่รองจ่าฝูงอยู่เหมือนเดิม
จบนัดที่ 32 ของฤดูกาล ยูเวนตุส มี 68 แต้ม ลาซิโอ มี 66 แต้ม
จบนัดที่ 33 ของฤดูกาล ยูเวนตุส มี 71 แต้ม ลาซิโอ มี 69 แต้ม
1
และในที่สุด โปรแกรมก็มาถึงนัดที่ 34 เกมสุดท้ายของฤดูกาล
ยูเวนตุส จะออกไปเยือนเปรูจา ทีมอันดับ 13 ของลีก ที่รอดตกชั้นไปแล้ว
ส่วนลาซิโอจะเปิดบ้านโอลิมปิโก้ รับมือเรจจิน่า อันดับ 12 ของลีก ที่รอดตกชั้นแล้วเช่นกัน
ว่ากันตรงๆ ใครๆก็คิดว่า ลาซิโอคงแซงยูเว่ยากมากๆแล้ว เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่ทีมม้าลายจะพลาดในเกมกับเปรูจา
เปรูจาแรงจูงใจก็ไม่มี บอลมันรอดตกชั้นไปแล้ว แถมไม่ได้ลุ้นไปเล่นในรายการยุโรปอะไร นัดสุดท้ายก็แค่ลงให้ครบตามโปรแกรมเท่านั้น
ขณะที่การเจอกันในซีซั่นนี้ที่เดลเล่ อัลปิ ก็เป็นยูเว่ที่ยำมาเละ 3-0
มองเหลี่ยมไหน เกมก็น่าจะโอเวอร์แน่ๆ โอกาสเป็นแชมป์ลีกของทีมม้าลายสูงมากจริงๆ
อย่างไรก็ตาม สำหรับลาซิโอพวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดแล้ว นอกจากต้องเดินหน้าลุยต่อไป คือต้องเอาชนะในเกมของตัวเองก่อน แล้วค่อยไปภาวนา ให้สวรรค์มีตา ช่วยให้เกิดปาฏิหาริย์ที่สนามสตาดิโอ เรนาโต้ คูรี่ บ้านของเปรูจา
ถึงตรงนี้ แค่พวกเขาชนะเกมของตัวเองอย่างเดียวไม่พอ ต้องให้พระเจ้าช่วยด้วย
แต้มก่อนแข่ง ยูเว่มี 71 ส่วนลาซิโอมี 69
แต่ลาซิโอมีเฮดทูเฮดที่ดีกว่า แปลว่าถ้าลาซิโอชนะแล้วยูเว่หลุดเสมอหรือแพ้ ลาซิโอจะพลิกแซงขึ้นเป็นแชมป์ทันที
เกมนัดที่ 34 ของซีซั่น แข่งพร้อมกัน ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2000 เวลา 17.00 น.
ที่กรุงโรม แฟนบอลกว่า 7 หมื่นคน เข้ามาอย่างแน่นขนัดในสนามโอลิมปิโก้ นั่นปลุกเร้าให้ลาซิโอเล่นได้อย่างสุดยอดมากๆ
ใน 45 นาทีแรก ลาซิโอ ยิงไป 2 เม็ด จากจุดโทษของซิโมเน่ อินซากี้ และ จุดโทษของฮวน เวรอน นำเรจจิน่าสบายๆ 2-0 ด้วยทรงเกมที่เหนือกว่าเยอะมาก ถึงตรงนี้ทุกคนเชื่อว่าลาซิโอชนะแน่ 100% ไม่มีเกมพลิก
ในขณะเดียวกัน แฟนลาซิโอก็ต้องใจเต้นระรัว เมื่อจบครึ่งแรกไปแล้วผลของอีกสนาม ยูเวนตุสเสมอกับเปรูจาอยู่ 0-0!
ไม่รู้เปรูจากินอะไรผิดสำแดง พวกเขาเล่นได้ดีมากๆ และยังไม่โดนยูเว่นำแม้จะถูกพับสนามก็ตาม
ตอนนี้ลาซิโอได้แต่เชียร์เปรูจาว่าอึดไว้ ทนไว้ อีกแค่ 45 นาทีเอง พวกนายทำได้!
ก่อนเกมยูเวนตุสกับเปรูจาจะเริ่มขึ้น สื่อมวลชนตั้งคำถามว่า เปรูจาจะเอาจริงแค่ไหน?
คาร์โล มัซโซเน่ เฮดโค้ชของเปรูจาเป็นแฟนบอลโรม่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเล่นเต็มที่ เพื่อถวายให้ลาซิโอคู่ปรับร่วมเมืองเป็นแชมป์
อย่างไรก็ตาม แม้คนนอกจะมองอย่างไรก็เถอะ แต่คนภายในสโมสรเปรูจามีความกระหายที่จะเอาชนะเกมนี้ให้ได้ พวกเขาอยากลบคำสบประมาท ว่าทีมเล็กก็ได้แค่เล่นให้ครบโปรแกรม
เปรูจาต้องการให้โลกเห็นว่า ทีมเล็กๆทีมนี้นี่แหละ จะเป็นตัวแปรสำคัญที่เปลี่ยนโฉมหน้าของฟุตบอลอิตาลีได้
คาร์โล มัซโซเน่ มีประกาศิตก่อนเกมว่า "เราจะสู้เพื่อชัยชนะ"
ขณะที่ ลูเซียโน่ กาอุชชี่ ประธานสโมสรออกมาขู่นักเตะว่า ถ้าพวกนายทำผลงานได้เลวร้ายในเกมนี้ จะต้องอยู่ซ้อมยาวไปจนถึง 30 มิถุนายน ไม่ได้ไปพักร้อน ซึ่งนักเตะในทีมทุกคนรู้ดีว่า เมื่อกาอุชชี่พูดอะไรออกมาแล้ว เขาจะรักษาคำพูดของตัวเองเสมอ
ในช่วงอาหารกลางวัน 5 ชั่วโมงก่อนบอลแข่ง ปกติโค้ชจะนั่งแยกกับกลุ่มนักเตะ แต่ก่อนเกมกับยูเว่ มัซโซเน่ตัดสินใจมานั่งที่โต๊ะอาหารร่วมกับผู้เล่น
มัซโซเน่ที่ปกติจะร่าเริง เขาไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว เขานั่งทานข้าวเงียบๆ แต่นั่นก็ทำให้นักเตะทุกคนในทีมรู้แล้วว่า บรรยากาศของเกมในนัดสุดท้ายของซีซั่น มันไม่ธรรมดาแน่ๆ
เวลา 17.00 มาถึง ยูเว่ ส่งชุดใหญ่ที่สุดเท่าที่จะพึงมี เดล ปิเอโร่ , อันโตนิโอ คอนเต้ , เปาโล มอนเตโร่ ,ซีดาน ,ดาวิดส์ ลงสนามครบเซ็ต
ส่วนเปรูจา นำทัพโดย นิโคล่า อโมรูโซ่ และ มาร์โก มาเตรัซซี่
เกมนัดนี้ สหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี เลือกปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า กรรมการมือ 1 ของโลก ทำหน้าที่ตัดสินเกม เพื่อการันตีถึงความโปร่งใสว่าจะไม่มีนอกมีในแน่นอน
เริ่มเกม ยูเว่บุกเข้าใส่ตามคาด พวกเขาต้องการปิดเกมให้เร็วที่สุด แต่เวลาผ่านไป เปรูจา ยิ่งเหนียวแน่นขึ้นเรื่อยๆ เกมรับที่นำโดยมาเตรัซซี่ ไม่มีช่องให้ยูเว่เข้าทำเลย
โอกาสดีที่สุดมาจากอินซากี้ แต่ก็ยิงเฉี่ยวเสาออกไป
บรรยากาศตอนนี้ทางฝั่งยูเว่ เต็มไปด้วยความร้อนรน นักเตะทีมม้าลายหลายคนระหว่างเล่นอยู่ ก็เดินมาถามโค้ชคาร์โล อันเชล็อตติ ว่าสกอร์สนามลาซิโอมันเท่าไหร่แล้ว จนอันเช่ต้องตอบกลับไปว่า "ใจเย็นๆ พวกนายคิดถึงเกมในสนามก็พอ" อย่างไรก็ตามดูจากสีหน้าของอันเชล็อตติแล้ว เขาก็ว้าวุ่นใจเช่นกัน
1
จบครึ่งแรก เกมเปรูจากับยูเว่ อยู่ที่สกอร์ 0-0 ขณะที่ ลาซิโอนำเรจจิน่า 2-0 ด้วยผลแบบนี้ลาซิโอจะได้แชมป์กัลโช่ไปครอง
ในช่วงพักครึ่ง มีเรื่องที่ทำให้ทุกคนต้องปวดหัว เมื่อฝนห่าใหญ่ตกกระหน่ำลงมาที่สนามแข่งขันในเปรูจา
มันตกหนักมากขนาดที่ลูกบอลติดหล่มน้ำ ไม่สามารถคอนโทรลได้ซึ่งหลายๆคนคิดว่า ด้วยสภาพแบบนี้ น่าจะยากมากที่จะแข่งต่อได้ บางทีอาจต้องยกเลิกไป แล้วไปแข่งต่อวันหลังแทน
สำหรับยูเวนตุส นั่นอาจเป็นเรื่องดีกว่า เพราะเกมนี้ครึ่งแรกพวกเขาเล่นไม่ออกเลย บางทีอาจจะไม่ใช่วันของทีมม้าลาย บวกกับเป็นวันที่เปรูจาผีเข้าพอดี
ถ้าหากได้พักเบรกสั้นๆแล้วกลับมาบู๊กันใหม่วันหลัง บางทียูเว่น่าจะได้เปรียบแล้ว เพราะไม่มีอะไรการันตีว่า ทีมเล็กๆอย่างเปรูจา จะเล่นดีในวันหลังอีก
หลังหมดเวลาพักครึ่ง 15 นาที แมตช์คอมมิชชั่นเนอร์ เรียกอันโตนิโอ คอนเต้ กัปตันยูเว่ กับ เรนาโต้ โอลิเว่ กัปตันเปรูจา เข้ามาคุยกันว่า บางทีแมตช์อาจต้องเลื่อนไปก่อน เพราะสนามมันเล่นยากจริงๆ
ตอนนั้นนักเตะเปรูจาถอดเสื้อผ้า เดินเข้าไปอาบน้ำแล้ว ทุกคนเตรียมใจว่าคงต้องอยู่ซ้อมต่อไปอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งถึงตรงนั้นความมุ่งมั่นในการเล่นคงหายไปหมดแล้ว
อย่างไรก็ตามมีคนหนึ่งที่ไม่ยอมให้เกมการแข่งขันเลื่อนออกไป
เขาคือปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า
คอลลิน่า มองภาพรวมทุกๆอย่าง ทั้งเรื่องความมุ่งมั่นของนักเตะฝั่งเปรูจา การเบรกไปเพื่อให้แข่งใหม่ ไม่เป็นผลดีกับใครทั้งสิ้น
เกมนัดสุดท้ายควรจบในวันเดียวทุกสนาม เพื่อให้ได้บทสรุปของลีกอย่างชัดเจนไปเลย
นอกจากนั้น ถ้าหากเลื่อนการแข่งออกไป รับรองว่าที่สนามของเปรูจาในเกมนัดแข่งใหม่ คราวนี้จะมีทั้งแฟนบอลยูเว่ และแฟนบอลลาซิโอ เข้ามาลุ้นผลการแข่งแน่ๆ และเมื่อ แฟนบอลสองฝ่าย มาอยู่รวมกัน มันมีสิทธิจะปะทะจนเลือดตกยางออกได้แน่ๆ
และสำหรับเปรูจา ไม่ว่าพวกเขาจะชนะหรือแพ้ ในเกมนัดแข่งใหม่ พวกเขาก็จะเป็นคนผิดสถานเดียว ดังนั้นคอลลิน่า จึงมีประกาศิตให้นักเตะทุกคนอย่าเพิ่งกลับ และสั่งให้สโมสรช่วยกันรีดน้ำ ออกจากสนามเพื่อให้แข่งต่อให้ได้ในวันนี้
ในที่สุด 71 นาทีผ่านไป การรีดน้ำก็สำเร็จ ส่วนฝนก็ไม่ตกเพิ่ม นั่นทำให้สภาพสนามกลับคืนสู่ระดับที่ลงแข่งขันได้
คอลลิน่าเรียกนักเตะทั้ง 2 ฝ่ายลงเล่นต่อในครึ่งหลัง
การดีเลย์ไป 71 นาที แปลว่า การแข่งขันที่สนามอื่นนั้นจบไปแล้ว โดยลาซิโอ ยิงเพิ่มได้อีกเม็ดในช่วงครึ่งหลัง ทำให้เอาชนะเรจจิน่า 3-0
ตอนนี้คะแนนแบบ Real-Time ลาซิโอ ทำแต้มแซงยูเวนตุสขึ้นไป เป็น 72 ต่อ 71 ซึ่งยูเว่ถึงตรงนี้ ต้องชนะสถานเดียว พวกเขาไม่มีชอยส์อื่นอีกแล้ว
ความกดดันจึงถาโถมเข้าใส่ทีมม้าลายอย่างจัง
"ผมมองไปที่นักเตะยูเวนตุสฝั่งตรงข้าม และรับรู้ได้จากสายตาเลยว่า พวกเขากลัวการแพ้เกมนี้จริงๆ" มาร์โก มาเตรัซซี่ เล่า
"สำหรับผมเมื่อเห็นดังนั้น เลยรู้สึกว่า ถ้ากลับมาแข่งต่อ ยูเวนตุส คงไม่ชนะเราแน่ๆ"
เกมเริ่มกลับมาลงแข่ง นักเตะยูเว่ตอนนี้ ใจเริ่มเสียไปแล้ว ยิ่งรู้ผลอีกสนาม มันทำให้ต้องเดินหน้าบุกอย่างเดียวเพื่อยิงประตูให้ได้
เปรูจาบุกไม่เยอะแต่เน้นคุณภาพ นาที 49 จากลูกฟรีคิก เปรูจาบอมบ์เข้ามา บอลขลุกขลิกในกรอบเขตโทษของยูเว่ ก่อนมาเข้าทาง อเลสซานโดร คาโลรี่ อัดเปรี้ยงด้วยขวา บอลพุ่งผ่านฟาน เดอ ซาร์ เข้าไปอย่างสวยงาม ให้เปรูจานำ 1-0
ตอนนี้สมาธิของนักเตะยูเว่แตกกระจายหมดแล้ว
พวกเขาเดินหน้าบุกเต็มสูบ แต่ในเกมฟุตบอลเมื่อสมาธิคุณไม่อยู่กับตัวแล้ว เกมก็โอเวอร์ตรงนั้น
นักเตะในทีมพยายามวิ่งกันอย่างบ้าคลั่ง ระบบแบบแผนต่างๆที่เคยมีนั้นหายไปจากทีมอย่างสิ้นเชิง พวกเขาต้องยิ่ง 2 ลูกในช่วงเวลาที่เหลืออีกแค่ 40 นาที มันไม่มีเวลาจะมาใจเย็นอีกแล้ว
อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ นักเตะอัจฉริยะ พยายามปรี่เข้าชาร์จลูกบอล แต่ก็ไม่ถึง เขาล้มลงในสนามที่เป็นสภาพกึ่งโคลน มันเป็นสภาพที่สิ้นหวังมากๆ
ตรงข้ามกับเปรูจาที่ยิ่งเล่นยิ่งดี พวกเขาครองบอลได้อย่างเหนียวแน่นมาก
นาทีที่ 73 มัสซิมิเลียโน่ เอสโปซิโต้ ครองบอลกินเวลา ทันใดนั้นจานลูก้า ซัมบร็อตต้า น็อตหลุด เขาวิ่งเข้าเสียบจนเอสโปซิโต้ปลิว ทำให้คอลลิน่าเดินมาควักใบแดง ไล่ออกจากสนามทันที
สกอร์ตามหลัง นักเตะจิตใจไม่อยู่กับตัว และผู้เล่นที่น้อยกว่า นั่นทำให้เกมของยูเว่มันจบลงเรียบร้อยแล้ว
จบ 90 นาที เปรูจา ทีมที่ไม่มีลุ้นอะไรเลย สร้างเรื่องช็อกโลกเมื่อโค่นทีมเต็ง 1 ไปได้แบบมหัศจรรย์ด้วยสกอร์ 1-0
นักเตะยูเวนตุส ทำสีหน้ายากที่จะบรรยาย ซัมบร็อตต้าคนที่โดนใบแดงถึงกับร้องไห้เป็นเด็ก เขาเองยังไม่ได้แชมป์เซเรียอาสักครั้ง แต่โอกาสแรกที่มีก็หลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย
เดล ปิเอโร่ นักเตะที่เฟรนด์ลีย์เสมอ เดินเข้าห้องแต่งตัว ไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับใครเลย บรรยากาศเต็มไปด้วยความหดหู่ใจ
ยูเว่ นำเป็นจ่าฝูงในเซเรียอามา 13 วีก แต่สุดท้ายมาหล่นลงสู่อันดับ 2 ในนัดสุดท้ายของลีก มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ
ท่ามกลางความเศร้าของยูเวนตุส อีกฟากของประเทศ ที่กรุงโรม แฟนบอลลาซิโอ ยังคงนั่งอยู่สนาม แม้เกมกับเรจจิน่าจะจบลงไปแล้วก็ตาม พวกเขารอลุ้นผลการแข่งขันของอีกสนาม
และเมื่อสุดท้ายสกอร์บอร์ดในโอลิมปิโก้ บอกสกอร์เกมที่เรนาโต้ คูรี่ จบลงด้วยชัยชนะของเปรูจา
คราวนี้แฟนบอลลาซิโอ ออกมาเฉลิมฉลองอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาได้แชมป์เซเรียอาจริงๆ! ครั้งแรกในรอบ 26 ปี การรอคอยอันยาวนานสิ้นสุดลงแล้ว
จากที่เป็นอันดับ 2 ในลีกมายาวนาน พวกเขาอดทนทำแต้มเกาะยูเว่มาเรื่อยๆ และมาแซงเอาในเกมสุดท้ายนี่เอง
ขอบคุณสวรรค์ที่พวกเขาไม่ถอดใจไปก่อนหน้านี้
ในโลกของฟุตบอลลีก ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ
 
ทีมที่ใหญ่กว่าไม่ได้การันตีว่าจะชนะทีมที่เล็กกว่าแบบ 100% ผลการแข่งขันมันสามารถออกได้ทุกรูปแบบ
ดังนั้นไม่ว่าทีมอะไรก็ตาม ที่มีคะแนนตามหลัง สิ่งเดียวที่ทำได้ คือทำหน้าที่ของตัวเองไป เก็บชัยชนะไปได้เรื่อยๆเพื่อไล่จี้ เพิ่มแรงกดดันให้ผู้นำได้ตึงเครียดมากที่สุด
จากนั้นก็ภาวนา ให้มีคู่แข่งสักทีมเล่นได้อย่างผีเข้า ช่วยตัดแต้มจ่าฝูงให้ได้เพื่อที่ตัวเองจะได้มีโอกาสแซงหน้าในสักวัน
ดูอย่างยูเวนตุส ทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะเวิลด์คลาส พอโดนแรงกดดันหนักๆเข้า ก็มาเป๋เอาในเกมสุดท้ายได้เหมือนกัน เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้
เพราะเกมฟุตบอลมันไม่เคยมีอะไรแน่นอน
จนกว่านกหวีดในเกมสุดท้ายของฤดูกาลจะสิ้นสุดลง
ตำแหน่งแชมป์มีสิทธิเปลี่ยนมือได้ทุกวินาที
ขึ้นอยู่กับผู้ตามเองนั่นแหละ ว่าจะถอดใจไปก่อนหรือเปล่า?
#Juventus #Lazio
โฆษณา