7 มิ.ย. 2019 เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์
เปิดศึก 13 ห้างบางลำภู 2499 สังเวียนแจ้งเกิดของแดง ไบเลย์ และจุดเริ่มต้นยุคอันธพาลครองเมือง.
วันนี้ผมจะพาผู้อ่านย้อนเวลากลับไปชมศึก 13 ห้างบางลำภูที่สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ไทยครับ
ในห้วงปี พ.ศ. 2495-2505 นับเป็นช่วงที่อิทธิพลเพลง Elvis และชีวิตนักเลงอันธพาลได้รุ่งเรืองถึงขีดสุดกว่าช่วงไหนๆ
นักเลงคือกฎหมายของพระนคร
พื้นที่ในรัศมี 7 กิโลเมตรนับจากเยาวราชเป็นจุดศูนย์กลางถูกเรียกว่า "ดงมังกร" มีบ่อนและซ่องเกิดขึ้นมากมาย ควบคุมโดยผู้หลักผู้ใหญ่คนจีน และมีลูกมือเป็นโก๋ หรือพวกเด็กหนุ่มวัยกำลังห้าวที่อะดรีนาลีนพลุ่งพล่านและอยากพิสูจน์ตัวเองในวงการ
แดง ไบเลย์, เปี๊ยก เจริญพาศน์, พัน หลังวัง, ปุ๊ ระเบิดขวด, ดำ เอสโซ่, จ๊อด เฮาดี้, แอ๊ด เสือเผ่น, พล ตรอกทวาย, ปุ๊ กรุงเกษม, หล่อ ปังตอ, โหล แม้นศรี, เหลา สวนมะลิ, เต้ เยาวราช ชื่อเหล่านี้คือดาวรุ่งตัวทอปของดงมังกร
สมัยนั้นแหล่งแฮงค์เอาท์ในกรุงเทพที่ดังๆก็มีย่านวังบูรพาร้านกาแฟหรดี เป็นที่ๆโก๋จากตำบลต่างๆมารวมตัวกันนั่งจิบชา ทาเนยขนมปัง ฟังเพลงจากตู้หยอดเหรียญ เบ่งกันว่าใครคือเซียน และแซวนักเรียนหญิงแถวๆนั้น
อีกที่หนึ่งคือถนน 13 ห้าง ศูนย์การค้าสำคัญของพระนคร มีรถเมล์ผ่านหลายสาย เป็นชุมทางการจับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้านำสมัย อาหารสตรีทฟู้ดเจ้าดังๆ
ทำให้มีชาวแก๊งไปปักหลักแผ่อิทธิพลอยู่เยอะทีเดียว บางทีก็ไปนั่งจิบน้ำหวานกันเป็นวัน เหล่สาว กวนส้นเท้าหนุ่มกันไปเรื่อย
1
หากท่านคิดไม่ออกว่าสังเวียน 13 ห้างอยู่ตรงไหน ท่านผู้อ่านเคยไปถนนข้าวสารไหมครับ มันจะมี Swensens อยู่ด้านหลังถนนข้าวสารที่อยู่ใกล้ๆกับวงเวียนเล็กๆ ตั้งแต่ตรงวงเวียน มาจรดกับเส้นพระสุเมร ด้านขวามือเป็นวัดบวรนิเวศน์ คือถนน 13 ห้างครับ
ก่อนจะเข้าสู่การเซิ้งกันครั้งใหญ่ของเหล่านักเลง ผมขออนุญาตแนะนำตัวละครกันก่อนนะครับ
• แดงไบเลย์ - ชื่อจริงคือ บัญชา ศรีสุกใส เกิดที่ตรอกสลักหิน ต่อมาย้ายมาอยู่กับมารดาที่ตรอกไบเลย์ แดงเป็นเด็กหนุ่มที่หลายคนมองว่าอนาคตไกล ด้วยความใจที่ไม่เป็นรองใคร รวมกับหน้าตาหล่อเหลาและเป็นนักเลงที่มีคุณธรรม จัดได้เป็นดาวเด่นของวงการ
• เปี๊ยก เจริญพาสน์ - คนมักสับสนกับเปี๊ยก วิสุทธิกษัตริย์ จริงๆไม่ใช่นะครับ เขาคือ พิศาล อัครเศรณี ผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อดังในสมัยนี้ ใช่ครับเขาเลิกเป็นนักเลงได้ แล้วไปเอาดีด้านกำกับหนัง เป็นคนสนิทของแดง ไบร์เลย์ เรียกว่าถึงไหนถึงกัน
1
• ปุ๊ ตรอกสาเก - หรือปุ๊ ระเบิดขวด อีกหนึ่งตัวเอ้ในวงการ อยู่กับกลุ่มแดงไบร์เลย์ ปุ๊เป็นเสือผู้หญิงที่เลื่องลือ และนักเลงที่พร้อมบวกแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง อันที่จริงปุ๊ไม่เคยใช้ระเบิดขวดเลยในชีวิต แต่มีครั้งหนึ่งไปต่อยตีแล้วมีคนปาระเบิดขวด นสพ.ถ่ายภาพเขาไว้ได้ และเริ่มเรียกเขาว่าปุ๊ ระเบิดขวด
• ปุ๊ กรุงเกษม - หรือปุ๊ วงเวียนเล็ก เป็นราชาขาสั้น คุมโรงเรียนมัธยมชิโนรสด้านฝั่งธน ทุกวันนี้เขาก็ยังมีชีวิตอยู่ เป็นสามีของนักร้องสาว แหวน ฐิติมาที่เพิ่งเสียชีวิตไป และเขียนหนังสือชื่อ เดินอย่างปุ๊ ตีแผ่เรื่องราวของโก๋หลังวังให้คนรุ่นหลัง
1
ถ้าเราได้ดูในหนังเรื่อง 2499 อันธพาลครองเมือง ตัวหนังจะบอกว่าศึก 13 ห้าง คือการห้ำหั่นกันระหว่าง แดง ไบเลย์ และ ปุ๊ ระเบิดขวด ซึ่งมีทั้งส่วนที่จริงและไม่จริง
คู่พิพาทคือ แดงกับปุ๊ ใช่ครับ แต่เป็นปุ๊ วงเวียนเล็กต่างหาก ด้วยตอนนั้นแดงกับปุ๊ ระเบิดขวด ยังเป็นเกลอกันและบู๊เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตลอด
เรื่องราวเริ่มขึ้นในวันหนึ่ง ปุ๊ วงเวียนเล็กกับพวกรวม 4 คน ขึ้นรถเมล์จากฝั่งธนเข้าเมืองไปที่ถนน 13 ห้าง เพื่อที่จะไปซื้อผ้ามาตัดกางเกงขายาวใส่กันหลังจากจบชั้นมัธยม
1
เป้าหมายก็คือเกาะกลางถนน 13 ห้างข้างๆวัดบวรที่ในปัจจุบันกลายเป็นที่เล่นสเกตบอร์ดของวัยรุ่นย่านนั้น เนื่องด้วยมีร้านขายผ้า และมีร้านข้าวแกงเจ้าอร่อย โดยแพลนคร่าวๆก็คือ ไปหาซื้อผ้า แวะร้านข้าวแกง หยอดตู้ฟังเพลงสักหน่อย แล้วค่อยขึ้นรถเมล์กลับ
เมื่อได้ผ้ากันเป็นที่เรียบร้อย 4 สหายสายฝั่งธนก็เข้าไปนั่งในร้านข้าวแกง และที่นั่นเอง ที่พวกเขาเริ่มรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนแอบเหล่พวกเขาอยู่
ซึ่งก็คือ แดง ไบเลย์, เปี๊ยก เจริญพาสน์ และ จ๊อดเฮาดี้นั่นเอง ที่นั่งทานข้าวแกงอยู่ที่นี่เป็นประจำ แต่วันนั้นปุ๊ ระเบิดขวดไม่อยู่
ตามองตา เหมือนผีเห็นผี ทั้งสองกลุ่มรู้ได้โดยทันทีว่าเจอของจริเข้าให้แล้ว เหตุการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทั้งสองแก๊งไม่วางสายตาจากกันเลย บรรยากาศมาคุถึงขีดสุด
2
เจตน์ หลังวัง หนึ่งในแก๊งฝั่งธนจึงเอ่ยเข้าให้ว่า "เห้ย พวกนายเหล่เราอยู่ สงสัยอะไรรึ?" เหมือนโดนน้ำร้อนลวก 3 หนุ่มจากดงมังกรผุดลุกขึ้นมา
แดงเอ่ยตอบไปว่า "พวกนายดูไม่ใช่คนแถวนี้แต่คงจะแน่พอตัวใช่ไหม" ปุ๊ วงเวียนเล็กจึงตอบกลับไปว่า "เราก็พอตัว และเราไม่ชอบโดนเหล่แบบนี้"
หลังจากมีปากเสียงกันพอสมควร แดงจึงถามว่าจะเอาอย่างไร แก๊งฝั่งธนก็สวนกลับมาทันทีว่าพวกเราอยากเปิดศึก นายอยากลุยที่ไหน แดงชี้นิ้วลงที่พื้นดิน และตอบว่าที่นี่ วันพรุ่งนี้ เวลานี้
ปุ๊ วงเวียนเล็กตอบรับด้วยความกราดเกรี้ยวและก้าวเท้าเฉิบออกจากร้านข้าวแกงทันที บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลง หารู้ไม่ว่า อีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า ร้านค้าแผงลอยแถวนี้จะพังราบเป็นหน้ากลอง
และก็ถึงเวลานัด วันนี้ไลน์อัพทางฝั่งดงมังกรยังคงไร้ขุนพลตัวเปิดอย่างปุ๊ระเบิดขวด แต่ตัวหลักๆอยู่กันครบ ไม่ว่าจะเป็น แดง ไบเลย์, เปี๊ยก เจริญพาสน์, จ๊อด เฮ้าดี้ และพวก รวมกันได้ราว 20 คน
1
ฝั่งธนยกกันมาเต็มรถเมลเล็กหนึ่งคัน นำโดยปุ๊ วงเวียนเล็ก, เจตน์ หลังวัง, แมว หลังวัง และพวกในจำนวนเท่าๆกัน กระโดดออกมาจากรถเมลพร้อมอาวุธครบมือ มีด สนับ ไม้ทีเหล็ก
ไม่มีใครพกปืนมาแม้แต่คนเดียว
ไม่พูดพร่ำทำเพลง ทั้งสองฝ่ายเริ่มละเลงเดือดกันอย่างไม่ลดละ ต่างฝ่ายต่างบาดเจ็บกันเป็นอันมาก บ้างโดนฟัน บ้างโดนสนับเข้าที่หน้า แต่ก็ยังสู้กันไม่ถอย เพราะศักดิ์ศรีของทั้งสองถื่นมันค้ำคอ
การต่อสู้ดำเนินไปเรื่อยๆ หนึ่งนาทีช่างยาวนานราวกับหนึ่งปี ยังไม่มีทีท่าว่าใครจะแพ้ใครจะชนะ เครื่องชามรามไห แม่ค้าแผงลอย แตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง จัดเป็นศึกที่รุนแรงดังสนั่นไปทั่วพระนคร
1
กระทั่งมีคนหนึ่งตะโกนออกมาว่า เฮ้ย ตำรวจมา
วิ่งกระจายกันไปคนละทิศคนละทาง แต่แดงยังไม่วายหันมาบอกกับผู้มาเยือนว่าพอก่อน พรุ่งนี้ให้กลับมาใหม่แน่นอนปุ๊ วงเวียนเล็กก็ตอบรับในทันที
กลับไปนอนพักเติมพลัง ทำแผลกันหนึ่งคืน จนวันรุ่งขึ้นทั้งสองพวกก็กลับมาละเลงคิวบู๊กันที่เก่าเวลาเดิม เขียนไปผมก็สงสัยว่าต้องใช้ใจขนาดไหนกันนะ ถึงจะออกไปตีรันฟันแทงกับอริถึง 2 วันติดต่อกัน!
วันที่สองจบลงเร็วกว่าวันแรกเล็กน้อยด้วยตำรวจนั้นตั้งท่าคอยจับเหล่านักเลงอยู่แล้ว ทำให้ชาวแก๊งนั้นวิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งบาดเจ็บทั้งเหนื่อย แต่ไม่มีใครอยากติดคุก
ทิ้งไว้ก็แต่ซากหักพังของร้านค้า ข้าวของกระจัดกระจาย ไม่มีใครถูกจับแต่สภาพร่างกายและจิตใจก็ไม่เหมือนเดิม ตัดสินไม่ได้ว่าใครแพ้ใครชนะ ดงมังกรหรือขาสั้นฝั่งธน แต่นั่นก็ถือว่าเป็นจุดจบของศึก 13 ห้างอันลือลั่น และเป็นจุดเริ่มต้นของยุค อันพาลครองเมือง ในกาลต่อมา
นักเลงเกือบทุกคนเมื่อผ่านจุดนั้นมาได้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าถ้าเลือกได้ ก็ไม่อยากเดินทางสายนี้ มันไม่เคยมีอะไรดี มันอาจจะดูเท่ในตอนนั้น แต่ผลของการกระทำก็ส่งผลร้ายอย่างคาดไม่ถึง
หวังว่าเรื่องนี้จะให้อะไรกับผู้อ่านบ้างนะครับ ผมขอปิดบทความด้วยคำพูดจากหนังสือชื่อ เดินอย่างปุ๊ ที่ว่า
"ในใจคือเอลวิส ความคิดคือเจมส์ดีน"
1
เกร็ดเล็ก: นักเลงสมัยนั้นพูดจากันเพราะจริงๆนะครับ แทนตัวเองว่าเราและนาย ไม่ได้มึงมาพาโวยเหมือนสมัยนี้ แถมแต่งกายดี หวีผมเนี้ยบตลอด
เกร็ดน้อย: แดง ไบเลย์ตัวจริงเขาไม่เคยฆ่าคน ไม่เคยดื่มเหล้า ชอบกินนมเย็น และเป็นเพียงเด็กหนุ่มอันธพาลธรรมดาเท่านั้น ไม่ใช่ฆาตกร
2
#2499อันธพาลครองเมือง
โฆษณา