ช่วงรีวิวกากๆ กับ ค.ว.ย!!!!
Brydge Pro เป็น Wireless Keyboard third-party ที่ทำมาสำหรับ iPad Pro (จริงๆมีของรุ่นอื่นๆด้วย)
พอดีสองอาทิตย์ก่อนผมนั่งดู youtube ไปเรื่อยเปื่อยแล้วจู่ๆก็มีวิดีโอของเจ้า Bridge keyboard ขึ้นมาผมดูแล้วน่าสนใจ บวกกับผมใช้ iPad 11” อยู่แล้ว เลยอยากลองใช้ก็เลยเข้าไปดูในเวปของผู้ผลิต (www.brydge.com) เอาเป็นว่าผมดูรายละเอียดเสร็จก็สั่งเลยทันที เข้าประเด็นละกัน
1.) ราคา
สำหรับรุ่น 11” ราคาอยู่ที่ 149.99USD (ทำไมไม่ 150ไปเลย) และสำหรับรุ่น 12.9” ราคาอยู่ที่ 169.99USD ค่าบริการจัดส่ง airfreight ของ FedEx อีก 25.00USD รวมเป็น 174.99USD
หลังจากสั่งไป อีกสิบวันให้หลังของก็มาถึงพร้อมโดน FedEx เก็บภาษีอีก 350.70 บาท (บางคนอาจจะไม่ต้องจ่ายค่าภาษีเพราะว่าเขาสุ่มตรวจ)
2.) แกะกล่อง UNBOX!!!! ลองดูรูปด้านล่างประกอบนะครับ รูปกากนิดนึง ผมทำได้แค่นี้ละ
Packaging ออกแบบมาค่อนข้างดี ข้อมูลครบถ้วน เรียกได้ว่าเปิดกล่องมาพร้อมใช้ได้เลย (ถ้าอ่านก่อนนะ) แต่เพื่อความชัวร์อ่านคู่มือก่อนนิดนึงก็ดีครับ เพราะเขาสอนวิธีสอดใส่ด้วย 555+
พอเปิดกล่องออกมาจะมีอุปกรณ์ให้มา 3 ชิ้นคือ ตัว keyboard, สาย USB C-C สำหรับชาร์จ (ไม่มี adapter ให้) และ เคสแม่เหล็กกันรอยหลังเครื่อง
3.) วัสดุ - สัมผัสแรกตัว keyboard
ตัววัสดุหลักที่ใช้น่าจะเป็นพลาสติก แต่ทำผิวสัมผัสเหมือนโลหะ ให้ฟีลลิ่งเหมือนกับ Macbook (จริงๆนะ) แป้นพิมพ์แบบ QWERTY แน่นอนว่ารองรับภาษาไทย ลองกดๆดูก่อนใช่จริงก็เด้งรับนิ้วได้ดีนะ แถวบนสุดของ keyboard แถม function key มาให้ด้วยได้แก่ ปุ่ม home, ปุ่ม lock screen, ไฟ backlight, ปรับแสงหน้าจอ, โชว์ on screen keyboard, ปุ่มเล่น multi-media, ปุ่มปรับลดเสียง และก็ปุ่มเช็ค Battery
*เรื่องของ Battery ผู้ผลิตเคลมว่าถ้าปิดไฟ backlight ใต้แป้นพิมพ์ จะสามารถใช้ได้นานถึง 9 เดือนด้วยการชาร์จครั้งเดียว O_o
4.) เคสแม่เหล็ก แปะหลังเครื่องสำหรับกันรอย
เป็นแผ่นแม่เหล็ก วัสดุด้านหนึ่งลักษณะพื้นผิดแบบหนังมี logo รูปตัว Y ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นผ้าออกแนวลื่นๆ
5.) สายชาร์จ เป็น USB C-C คือแบบหัว type 2 ด้านนั้นละ จบ!!!
6.) ประกอบร่าง
อันนี้ฟังให้ดี ตัวบานพับ (hinge) แมร่งแข็งมากกกกก ช่องเสียบตัว iPad หุ้มด้วยยางที่ฟิตมากๆๆเช่นกัน กว่าจะเข้าไปสุดได้ต้องออกแรงนิดนึง พอประกอบเสร็จลองพับขึ้นพับลง ก็เข้าใจว่าทำไมมันต้องฟืดๆแข็งๆ เพราะมันต้องรับน้ำหนักของตัวเครื่อง ถ้าไม่แข็งมีล้มแน่ๆ
7.) ใช้งานจริง
วันนี้ผมลองไม่ใช้ laptop ทำงาน จริงๆงานผมก็แค่รับส่งอีเมล์ แล้วก็แก้เอกสารนิดหน่อยก็เลย ลองใช้เจ้า brydge พิมพ์เมล์ทั้งวัน แรกๆก็กดไม่ตรงปุ่มบ่อยๆ เพราะผมพิมพ์สัมผัส มันชินกับระยะห่างแบบ keyboard ปกติไปแล้ว แต่พอใช้ไปสักพักก็พิมพ์ได้แม่นขึ้น แป้นพิมพ์ตอบสนองได้ดี บทความรีวิวอันนี้ก็ใช้เจ้านี่พิมพ์
8.)ข้อดี
-เคสแม่เหล็กค่อนข้างแข็งเมื่อแปะไว้หลังเครื่อง น่าจะช่วยกันเครื่องงอได้ในระดับหนึ่ง
-แป้นพิมพ์ตอบสนองได้ดี ใช่ไปสักพักก็พิมพ์มันดีเหมือนกัน (แต่คิดว่าตัว Apple smart keyboard ก็ยังพิมพ์คล่องกว่า)
-ปุ่ม function คีย์ลัดมีประโยชน์มาก ชอบเลย
-ราคาถูกกว่า Apple smart keyboard เกือบ 2,000 บาท
-ประกอบแล้วรูปร่างคล้ายๆ macbook
-อนาคต iPadOS สามารถใช้เมาส์ได้ และก็มีฟังก์ชั่นรองรับการทำงานเอกสารมากขึ้น ก็อาจจะใช้ทดแทน laptop ได้เลยสำหรับงานบางประเภท
9.)ข้อเสีย
-ประกอบแล้วค่อนข้างหนักน่าจะเพราะ battery
-ถอดเข้าออก ค่อนข้างลำบากเพราะรูมันยังฟิตอยู่
-ถ้าใช้เจ้า keyboard นี้ ตัวเครื่องก็จะไม่มีเคสหุ้มข้างเครื่อง ถ้ากลัวเป็นรอยก็ต้องไป wrap
10.) #คิดวิเคราะห์แยกแยะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
