8 มิ.ย. 2019 เวลา 03:14 • ธุรกิจ
Agoda พัฒนาคนยังไง ในยุค AI กำลังมา
ใครๆ ก็กลัว AI มีหลายบทความคาดการณ์ว่า AI จะมาแย่งงานคนในหลายๆ อุตสาหกรรมยกตัวอย่างเช่น ในช่วงระหว่างปี 2015-2025 พนักงานธนาคารจะในสหรัฐอเมริกาต้องตกงานถึง 770,000 ตำแหน่ง และในยุโรปอีกประมาณ 1 ล้านตำแหน่ง แค่เห็นตัวเลขก็เริ่มใจหายแล้วใช่มั้ยคะ?
วันนี้เราอยากเล่าเรื่องราวของบริษัทที่ใกล้ตัวพวกเรา บริษัทนี้เขากลับนำ AI นำข้อมูลมาใช้เพื่อช่วยพัฒนาการทำงานของคน AI มีความเก่งในบางเรื่อง มนุษย์มีความเก่งในบ้างเรื่อง เมื่อเอาจุดแข็งของ 2 ด้านมารวมกัน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ขนาดไหน
หัวใจสำคัญในยุค AI คือ ‘ข้อมูล’ ค่ะ เพราะ เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางด้านธุรกิจในยุคนี้ ลองนึกๆ ดู ชีวิตประจำวันของเรา ค้นหา ซื้อ ขาย และทำกิจกรรมต่างๆ ผ่านอินเตอร์เนตมากมาย เราแทบใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ควบคู่กับการดำรงชีวิตบนโลกออฟไลน์ สิ่งที่ต่างกันคือ บนโลกออนไลน์มีเครื่องมือเก็บข้อมูลที่แม่นยำ ทำให้เจ้าของ Platform ที่เราใช้บริการคาดเดาพฤติกรรมของของเราได้และยิ่งเราใช้บริการเขาบ่อย เขายิ่งรู้จักและรู้ใจเรามากขึ้น
ถ้าถามว่าบริษัทไหนคลั่งข้อมูลสุดๆ เราขอส่ง Agoda เข้าชิงตำแหน่ง เพราะบริษัทแห่งนี้ใช้ข้อมูลเป็นแกนกลางในการตัดสินใจทุกๆ เรื่องเลยค่ะ โดยเฉพาะการตลาด เราขอยกตัวอย่างง่ายๆ ให้ทุกคนเห็นภาพมากขึ้นค่ะ
1. Agoda รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ไว้แล้วว่าพื้นที่ไหนมีค่าเฉลี่ยในการจ่ายค่าที่พักเท่าไหร่? ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยที่ห้องพักแห่งเดียวกัน ถ้าจองต่างโซน ต่างพื้นที่ ราคาต่างกัน
2. Agoda เร่งการตัดสินใจของคนด้วยแถบอักษรสีแดง Only___ Left ตัวอักษรเหล่านี้สร้างความรู้สึกกลัวโดนปาดหน้าจองห้องไม่ทัน คนเลยกดจองมากกว่าปกติ ซึ่ง Agoda มีการทดสอบ และเก็บข้อมูลว่า การขึ้นอักษรเหล่านี้ตรงจุดไหนจะส่งผลต่อการจองมากที่สุด
3. มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เราจะรู้สึกอุ่นใจถ้าไม่ได้ทำอะไรอยู่คนเดียว Agoda มีมีข้อความบอกว่าที่พักนี้ที่เรากำลังมองหาอยู่มีการจองไปแล้วกี่ครั้งตั้งแต่เมื่อวาน วิธีการนี้สร้างความรู้สึกอุ่นใจ เพราะ เรารู้สึกว่าไม่ได้จองห้องที่นี่อยู่คนเดียว นอกจากนั้นยังมีส่วนรีวิวเพื่อสร้างความมั่นใจสองชั้น Agoda วัดว่า Feature Review เพิ่มยอดการจองได้มากมายเลยค่ะ
4. Agoda รวบรวมปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจจองห้องพัก และพยายามสอดแทรกข้อมูลดังกล่าวเพื่อช่วยให้คนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เช่น การขึ้นคำว่า Newly Build เพื่อกระตุ้นให้คนที่ชอบที่พักใหม่แวะกดเข้าไปดูเป็นต้น
หลังจากใช้ข้อมูลในเกือบทุกส่วนขององค์กร กลับมีแผนกหนึ่งของ Agoda ที่ยังไม่ค่อยนำข้อมูลมาใช้มากนัก แผนกนั้นคือ HR Division ซึ่งต่อมา Agoda เปลี่ยนชื่อเป็น People Team ผู้บริหาร Agoda ตั้งเป้าว่าจะนำข้อมูลมาใช้กับ HR Division ให้จงได้ และวาง Vision ในการเปลี่ยน HR Division ได้น่าสนใจค่ะ
Vision ในการเปลี่ยน HR Division แบ่งเป็น 3 ข้อหลักๆ
1. ผู้จัดการ ไม่ใช่ HR ที่วางแผนและพัฒนาความเป็นผู้นำของตัวเองและเพื่อนร่วมงานขององค์กร
2. ผู้จัดการ ไม่ใช่ HR ที่ต้องทำหน้าบริการจัดการคน เช่น การคัดเลือกคนเข้าทีม
3. พนักงาน ไม่ใช่ HR ที่ต้องจัดการและแก้ไขปัญหาโดยตรงกับผู้จัดการ
แนวคิดแบบนี้เกิดจากความเชื่อว่า ‘ทุกคนตั้งแต่พนักงานจนกระทั่งผู้บริหารมีศักยภาพในการบริหารจัดการด้วยตัวเอง Agoda ไม่อยากพรากศักยภาพเหล่านั้นจากพนักงานทุกคนด้วยการให้ HR จัดการสิ่งเหล่านั้นแทนในทุกๆ เรื่อง’
ดังนั้นหน้าที่ของ People Team ที่ Agoda คือ
‘Help managers manage better, not to manage on their behalf’ หรือแปลเป็นไทยแบบง่ายๆ ว่าช่วยผู้จัดการให้จัดการได้ดีขึ้น ไม่ใช่ไปจัดการแทน ซึ่งกลยุทธ์หนึ่งที่ใช้ในการช่วยผู้จัดการคือการให้ข้อมูลสำคัญเพื่อช่วยตัดสินใจ
ลองมาดูตัวอย่างกันค่ะ
1. Compensation and Benefits
ถ้าคุณเป็นระดับผู้จัดการหรือผู้บริหารใน Agoda คนมีหน้าที่สัมภาษณ์ คัดเลือกพนักงาน และตัดสินใจเรื่องเงินเดือนด้วยค่ะ อย่าคิดผลักภาระเหล่านี้ให้ HR เป็นอันขาด เพราะว่าหน้าที่ของ People Team คือ ให้ข้อมูล Real-time market rates on compensation เป็นข้อมูลฉบับอัพเดทเพื่อให้รู้ว่าตำแหน่งดังกล่าว ในท้องตลาดทั้งในอุตสาหกรรมเดียวกันและต่างอุตสาหกรรมจ่ายค่าตอบกันเท่าไหร่? ผู้จัดการจะได้ตัดสินใจให้เงินเดือน และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้ถูกต้อง
2. Performance Evaluation and Promotion
แต่ละแผนกมีวิธีการทำงานที่ต่างกัน หากวัดผลด้วยเกณฑ์เดียวกัน ดูเหมือนจะไม่เป็นธรรมเท่าไหร่นักใช่มั้ยคะ? คนที่รู้ดีที่สุดว่าจะวัดผลงานพนักงานในทีมยังไง คือ ผู้จัดการนั่นเอง Agoda เปิดกว้างให้ผู้จัดการออกแบบวิธีการวัดผลและให้โบนัส ตามความสะดวกใจ บางทีมจ่ายโบนัสทุกปี บางทีมจ่ายทุกเดือน
https://www.mckinsey.com/business-functions/organization/our-insights/toward-a-new-hr-philosophy
โดย People Team ของ Agoda จะเก็บข้อมูลการทำงาน วิเคราะห์พัฒนาการรายบุคคล และสรุปผลลัพธ์จากการงานทำ เพื่อมีข้อมูลช่วยผู้จัดการให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น นอกจากนั้น Agoda ยังมีการทำแบบทดสอบเพื่อค้นหา Skill ที่คนใน Agoda ขาดเพื่อ ผู้จัดการ และ People Team จะได้คิดค้นวิธีพัฒนา Skill ที่ขาดหายไปแบบไม่ต้องสุ่มเดา
3. Recruitment
People Team รู้ดีว่าการเติมทักษะให้ผู้จัดการคัดสรรคนเข้าร่วมทีมไม่ใช่เรื่องง่าย จึงต้องมีตัวช่วยเริ่มตั้งแต่อบรมการสัมภาษณ์และคัดเลือกคน พร้อมข้อมูลเพื่อประกอบการวางกลยุทธ์ เช่น แหล่งไหนที่ดึงผู้สมัครที่มีคุณภาพได้มากที่สุด ผู้สมัครจากมหาลัยใดตรงกับความต้องการขององค์กรมากที่สุด ผู้จัดการส่วนใหญ่ใช้เวลาสัมภาษณ์กี่นาที? คำถามแบบไหนใช้แล้วได้ผล? นอกจากนั้นหลังจบกระบวนการสัมภาษณ์ ฝ่าย People Team จะมีการติดตามผลให้ผู้สมัครงาน Feed Back ผู้ให้สัมภาษณ์เพื่อเก็บสถิติว่า ผู้จัดการคนไหนสัมภาษณ์ได้ดี และผู้จัดการคนไหนควรฝึกฝนให้ดียิ่งขึ้น
ในยุคที่คนกลัว AI เราลองมองมุมกลับปรับมุมมองกันดีกว่า ว่าเราจะเพิ่มทักษะของตัวเองอย่างไรได้บ้าง เพื่อทำงานร่วมกับ AI ได้ในอนาคต หรือในมุมมองธุรกิจเราจะใช้ประโยชน์อะไรจาก AI ได้บ้าง? มาแบ่งปันกันนะคะ
โฆษณา