Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อ่านไปเรื่อย
•
ติดตาม
8 มิ.ย. 2019 เวลา 11:17 • ปรัชญา
ว่าด้วยเหล้ากับกวีเอก
เหล้า อาจทำให้ตับแข็งหรือกระเพาะอาหารทะลุก็จริง แต่ในด้านดีก็ช่วยทำให้เกิดบทกวีอันไพเราะเพราะพริ้งมากมาย อย่างของไทยใกล้ตัว ก็ไม่พ้นงานของสุนทรภู่ ที่มีบทเกี่ยวกับสุราอยู่เป็นเนืองๆ ที่ดังๆก็เช่นบท “ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก...” จากนิราศภูเขาทอง ที่ใครๆก็น่าจะรู้จักดีและท่องกันได้
1
ถึงผมจะอ่านภาษาจีนไม่ออก แต่ส่วนตัวกลับชอบบทกวีขี้เมาชื่อ 'หลี่ไป๋' มาก (อ่านที่แปลมา) เพราะให้ความรู้สึกเวลาอ่าน เหมือนกำลังคุยกะเพื่อนคอเดียวกัน (ว่ากันว่า หลี่ไป๋ไม่ได้เมาบ่อยๆนะ แต่เขาเมาตลอดเวลา 555) บทกวีของหลี่ไป๋แม้มีอายุมากกว่าพันปี แต่ก็ยังถูกนำไปใช้ในการเรียนการสอนคนจีนจนถึงทุกวันนี้
ร่ำสุรากับดวงจันทร์
จะว่าไป ราชวงศ์ถังที่หลี่ไป๋มีชีวิตอยู่ นับว่าเป็นช่วงรุ่งเรืองยุคหนึ่งก็ว่าได้ของจีน มีบางโพลสำรวจถามคนจีนว่า ยุคสมัยไหน ที่จีนยิ่งใหญ่สุด ซึ่ง 8 ใน 10 ในโพลนี้ตอบว่าสมัยราชวงศ์ถัง
ประวัติศาสตร์ช่วงนี้น่าสนใจมาก เริ่มจากช่วงที่ราชวงศ์สุยหมดอำนาจ ไปจนถึงเหตุการณ์ยิงธนูฆ่าพี่ฆ่าน้องของหลี่ซื่อหมิน (ถังไท่จง) จนถึงช่วงที่มีสีสันจากผู้ปกครองหญิงหนึ่งเดียวในประวัติศาสตร์จีน อย่างจักรพรรดินีบูเช็กเทียน ซึ่งประวัติศาสตร์ มักทำให้พระนางแลดูโหดเหี้ยมร้ายกาจ แต่มีเรื่องเล่าว่า ตอนใกล้หมดลม พระนางไม่ให้ใครจารึกอะไรไว้บนหลุมศพเด็ดขาด นั่นเพราะอยากจะให้คนรุ่นหลัง เป็นผู้ตัดสินเองจากข้อเท็จจริงว่าพระนางเป็นคนอย่างไร ซึ่งถ้าไม่อคติ ยุคนี้ของพระองค์ก็นับว่าเจริญสุดๆเหมือนกัน
พระนางบูเช็กเทียน ฮ่องเต้หญิงหนึ่งเดียว
หลังจากนั้น ยังมีหยางกุ้ยเฟย 1 ใน 4 ยอดสาวงามจีน ฯลฯ ยุคนี้เรื่องกาพย์กลอนก็เฟื่องฟูไม่น้อย มีกวีดังๆเกิดขึ้นมากมาย หลี่ไป๋ก็คือหนึ่งในนั้น
หลี่ไป๋นับว่าเป็นกวีที่ใช้เหล้า ในการสร้างแรงบันดาลใจโดยแท้ บทกวีหลายบทแสดงความงดงามของความรู้สึกนึกคิด ของเพื่อน คนรัก ธรรมชาติ บ้านเมือง บ้านเกิด และที่ขาดไม่ได้คือคนเมา อารมณ์แทบจะไม่ต่างอะไรเลยกับผู้คนสมัยนี้
ยกตัวอย่างสักบท เช่น 'ดื่มเดียวดายใต้แสงจันทร์' ที่ว่า "ใครว่าข้าเปลี่ยว กินเหล้าอยู่เดียวดาย ยังมีเงาข้ากะดวงจันทร์ รวมกันกับข้าเป็นสามสหาย (555 คิดได้) ดวงจันทร์อาจไม่กินเหล้า เงาอาจมัวแต่วิ่งตามหลังข้าตลอด แต่เวลาข้าร้องรำทำเพลง เพื่อนทั้งสองก็อยู่ร่วมครื้นเครง ท่ามกลางฤดูใบไม้ผลิอันสดใส ครั้นกรึ่มๆยังไม่เมา เราทั้งสามคือเพื่อนซี้ พอสติดีๆเริ่มหลุดลอย ต่างคนต่างคล้อยแยกจากไป รอจะพบกันใหม่ที่เส้นทางแห่งหมู่ดาว"
3
เป็นวิธีการปลอบใจในเวลาเหงาได้ดีมาก
หลี่ไป๋ในจินตนาการ
ส่วนตัวหลี่ไป๋เอง มีชีวิตที่อาภัพคล้ายๆกับสุนทรภู่ คือเคยได้ดีที่ราชสำนัก แล้วก็มาตกต่ำในบั้นปลาย มีเรื่องเล่าว่าสาเหตุการตาย เกิดจากการที่หลี่ไป๋ร้องรำทำเพลงขณะเมา แล้วพยายามเอื้อมตัวไปกอดเงาของดวงจันทร์ในแม่น้ำ ก่อนจะพลัดตกและจมน้ำไป นี่แบบการตายโรแมนติก ส่วนเรื่องจริง ว่ากันว่าหลี่ไป๋แค่นอนป่วยจากโรคสุราเรื้อรัง (ตับแข็ง?) ก่อนจากไปแบบเงียบๆบนเตียงนอนในกระท่อม
เราจะเลือกเชื่อแบบไหนดี?
7 บันทึก
44
7
5
7
44
7
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย