9 มิ.ย. 2019 เวลา 06:39 • ธุรกิจ
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! แหลมเกตุ
กรณีที่โลกโซเชียลเกิดประเด็นดราม่า หลังชาวเน็ตหลายคนได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านบุฟเฟต์อาหารทะเลแหลมเกตุ ที่เพิ่งเปิดร้านใหม่ที่ห้างสรรพสินค้าโชว์ดีซี ชั้น 4 พระราม 9 โดยก่อนหน้านั้นทางร้านอาหารได้ออกโปรโมชั่นจำหน่ายบัตร voucher รับประทานบุฟเฟต์ในราคาถูกกว่าปกติมาก ซื้อ voucher ได้ใบละ 100 บาท ตอนที่มีโปรโมชั่น 
 
จากที่ผ่านมาราคาบุฟเฟต์ต่อหัวอยู่ที่หลายร้อยบาท เช่น 555 บาท และ 888 บาท ปรากฏว่ารายการอาหารบางส่วนถูกตัดออกไป โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า อีกทั้งมีการเสิร์ฟอาหารด้วยถ้วยกระดาษ จนสร้างความผิดหวังแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะพาคุณผู้อ่านไปย้อนดูเรื่องราวของร้านอาหารบุฟเฟต์ “แหลมเกตุ” ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร กับ 10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้มาก่อน เกี่ยวกับร้านอาหารบุฟเฟต์ “แหลมเกตุ” ที่กำลังเป็นข่าวดังในขณะนี้
 
1.แหลมเกตุ เป็นร้านอาหารมาจากอำเภอศรีราชา ชลบุรี
ภาพจาก bit.ly/2QGALTa
“แหลมเกตุ” เคยเป็นร้านอาหารทะเลฮอตฮิตติด Top 5 ของศรีราชา แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้แหลมเกตุต้องปรับเปลี่ยนโฉมหน้าใหม่ ย้ายมาเปิดในกรุงเทพฯ และประสบความสำเร็จอย่างมาก เป็นที่พูดถึงทั้งในกลุ่มนักชิมชาวไทย และกลายเป็นหนึ่งใน Destination ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก สร้างยอดขาย 100 ล้านบาทต่อปีจากที่ติดลบเดือนละ 5 แสนบาท  
 
2.เจ้าของร้านอาหารแหลมเกตุ คือ “โค้ก-อพิชาต บวรบัญชารักข์” คนเดียวกับ “โจม พารณจุลก”
ภาพจาก bit.ly/3169K0w
ปัจจุบันหลายคนอาจสับสนว่า เจ้าของร้านอาหารบุฟเฟต์แหลมเกตุเป็นใคร จากข้อมูลที่รับรู้กันในปัจจุบันหลังจากตกเป็นข่าว คือ “โจม พารณจุลก” แต่เดิมตั้งแต่ปลุกปั้นร้านแหลมเกตุในกรุงเทพฯ ชื่อ “โค้ก” อพิชาต บวรบัญชารักข์ ซึ่งอดีตเคยรายการต่างๆ เชิญไปพูดถึงแนวทางการทำธุรกิจ จนได้รับฉายา “อายุน้อยร้อยล้าน” 
 
3.“โค้ก” อพิชาต บวรบัญชารักข์ เจ้าของร้านแหลมเกตุ ไม่ชอบธุรกิจร้านอาหารมาก่อน
1
ภาพจาก bit.ly/317Y6SX
ร้านแหลมเกตุเป็นธุรกิจครอบครัว เปิดบริการมานานกว่า 33 ปี “โค้ก” เติบโตมากับงานร้านอาหาร เป็นพนักงานเสิร์ฟ ล้างจาน ในร้านมาตลอด เขาเคยให้สัมภาษณ์ฯกข่าวว่า เขาเกลียดธุรกิจร้านอาหารมาก เพราะร้านอาหารดึงชีวิตครอบครัวไปทั้งหมด ไม่เคยได้นั่งกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนครอบครัวอื่นๆ 
 
ขณะที่ครอบครัวอื่นกินข้าว ครอบครัวเขาต้องทำกับข้าวให้คนอื่นกิน ที่สำคัญคือ เวลาเปิดเทอมแล้วครูให้ออกไปเล่าหน้าชั้นว่า “ปิดเทอมไปทำอะไรมาบ้าง” เขาไม่เคยได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย อยู่แต่ที่ร้าน เลยเป็นความคิดฝังใจว่า โตขึ้นจะไม่มีทางเปิดร้านอาหารเด็ดขาด เพราะร้านอาหารไม่ได้ทำแค่ 8 ชั่วโมง แต่ทำยิ่งกว่า 24 ชั่วโมง 
 
4.ร้านอาหารแหลมเกตุ เกิดขึ้นอีกครั้งเพราะเจ้าของร้านอยากถ่ายรูปลง IG
ภาพจาก bit.ly/2EQEzg3
ร้านอาหารแหลมเกตุถูกปัดฝุ่นขึ้นมาอีกครั้ง มาจาก “โค้ก” อยากจะได้ถ่ายรูปร้านตัวเองลง IG บ้าง และร้านอาหารเป็นธุรกิจที่ถนัดที่เขาสุด มันอยู่ในสายเลือด เป็นสัญชาตญาณของเขาไปแล้ว จึงคิดว่าเปิดร้านอาหารดีกว่า โดยเลือกทำเล คือ community mall แห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท โยนเงินลงไปตูมใหญ่ ให้ช่างทำให้เสร็จและเปิดร้านให้ได้ภายใน 15 วัน
 
5.ร้านแหลมเกตุสุขุมวิท ปิดตัวลงถาวรช่วงสิ้นปี 2557
ภาพจาก bit.ly/2Ms3YDb
ก่อนย้อนถึงปรากฏการณ์ที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง เดือนสุดท้ายก่อนปิดตัวแหลมเกต-สุขุมวิท ซึ่งก่อนหน้านี้ร้านแหลมเกตุดังเป็นพลุแตก ลูกค้ายืนต่อแถวรอกันยาวเหยียด ทั้งห้างมีแต่คนมากินเราร้านเดียว จนเกิดความโกลาหล เพราะยังไม่มีการแบ่งขายเป็นรอบๆ วัตถุดิบไม่พอ พนักงานโหลดเกินไป แต่เจ้าของร้านไม่มองเป็นปัญหา แต่มองว่าคือโอกาสใหม่ และแล้วร้านแหลมเกตุ สุขุมวิท ปิดตัวเป็นการถาวรในช่วงสิ้นปี 2557 ถัดจากนั้นไม่ถึง 2 เดือน แหลมเกต ซอยพหลโยธิน 11 จึงเกิดขึ้น
 
6.แนวคิดร้านแหลมเกตุโฉมใหม่ มาจากร้านไทยเรสเทอรองท์ ในต่างประเทศ
ภาพจาก facebook.com/laemgate
จุดเปลี่ยนของแหลมเกตุ เกิดจากวันหนึ่งเจ้าของร้านไปพักผ่อนต่างประเทศ ได้เจอร้านอาหารแห่งหนึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำปราก ชื่อ ไทยเรสเทอรองท์ เสิร์ฟอาหารไทยจานใหญ่มาก จึงคิดว่าต้องแพง แต่พอคิดเงินมาราคาถูกมาก โค้กเลยเข้าไปคุยกับเจ้าของ ร้าน เขาบอกว่าอยากบอกให้รู้ว่านี่แหละคือ Experience คนคิดว่ามันต้องแพง แต่ไม่แพงเลย 
 
กลายเป็น Word of Mouth ที่คนพูดถึงในเวลาต่อมา นั่นเป็นแรงบันดาลใจให้โค้กกลับมาคุยกับน้องๆ ทีมงานทุกคนว่า ต้องสร้าง Word of Mouth ต้องสร้าง Experience กับลูกค้า กระทั่งช่วงนั้นกระแสบุฟเฟต์กำลังมา แล้วคุณโค้กเป็นคนเรื่องเยอะ ไม่ชอบตักบุฟเฟต์ เลยเอาเป็นบุฟเฟต์ที่ไม่ต้องตัก ลูกค้าแค่สั่งแล้วพนักงานจะเอามาเสิร์ฟให้เอง จึงเกิดเป็นโมเดลนี้ทุกวันนี้ 
 
7.ร้านแหลมเกตุ ถือเป็นเจ้าแม่ด้านโปรโมชั่น
ภาพจาก bit.ly/317s1KC
แหลมเกตุนอกจากทำโปรโมชั่นราคาถูก จนล่าสุดเกิดปัญหาขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้แหลมเกตุยังทำโปรโมชั่นมาโดยตยลอด เช่น โปรโมชั่นหวยรับทาน ออกโปรโมชั่นวันที่ 1 กับ 16 ใครมากินเอาลอตเตอรี่มาโชว์ ลดราคาเหลือ 500 บาทจาก 555 บาท หรือโปรโมชั่นหน้าฝน เพราะเจ้าของร้านรู้ดีว่าหน้าฝนไม่ค่อยมีคน จึงออกโปรโมชั่นว่า ถ้าฝนตกเมื่อไหร่ลดราคาเหลือ 500 บาท พอฝนตกเท่านั้นแหละ คนในร้านก็ร้องเฮ จ่ายแค่ 500 บาท คือ ได้กำไรน้อยลง แต่มันเกิดการแชร์และเล่าประสบการณ์ต่อเรื่อยๆ
 
หรือแม้แต่โปรโมชั่นที่ดังที่สุดของร้านแหลมเกตุ คือ โปรโมชั่น มา 4 จ่าย 4 ลูกค้าชอบมาก คือ ไม่ได้ลดราคาด้วยซ้ำ แต่คนแชร์เยอะมาก เพราะมันตลก แล้วมีคนมาขอใช้โปรโมชั่นนี้จริงๆ ด้วย โค้กมองว่าร้านต้องมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา แหลมเกตุไม่เคยหยุดสร้างสิ่งเหล่านี้เลย พยายามทำให้มันดูสนุก สร้างความสุขให้ลูกค้าตลอดเวลา
 
8.แหลมเกตุ เริ่มโด่งดังมีชื่อเสียงมาจากการใช้สื่อโซเชียล
ภาพจาก bit.ly/311FGTE
คุณโค้กให้สัมภาษณ์สื่อว่า ได้ใช้สื่อโซเชียลโปรโมทร้าน ทำลงไปบนโลกออนไลน์ เพราะว่ามีงบมีจำกัด ทำทุกสื่อไม่ได้ แต่การทำสื่อในโลกออนไลน์แล้วให้คนสนใจแหลมเกตุ อันนี้เป็นเรื่องยากมาก โดยเริ่มจากหาว่าในร้านมีอาหารอะไรเป็น Signature บ้าง มีการใช้ภาชนะและการเสิร์ฟอาหารที่มีเอกลักษณ์ จนที่ผ่านมาแหลมเกตุลายเป็นผู้นำด้านแฟชั่นร้านอาหารไปแล้ว
 
Theme ของร้านคือคำว่า Happiness เลยคิดว่าจะบอกยังไงให้คนรู้สึกว่ามันคือความสุข เพราะอาหารมันยิ้มไม่ได้ เจ้าของร้านเลยเริ่มใช้ Influencer มายิ้มแทนอาหาร คนแรกคือ น้องรัศมีแข ตอนนั้นคนให้การตอบรับดีมาก แชร์ออกไปเกือบแสนแชร์ เจ้าของร้านเลยรู้สึกว่านี่แหละ คือกลยุทธ์ของร้าน เพราะสามารถทำให้อาหารยิ้มได้ เลยหา Influencer มายิ้มแทนอาหาร
 
9.แหลมเกตุสุขุมวิท เจ๊งเพราะความผิดพลาดในการ “ตั้งราคา”
ภาพจาก sanook.com/travel
หากย้อนกลับไป แหลมเกตุสาขาแรกสุขุมวิทนั้น คุณโค้กเผยกับสื่อมวลชนว่า ประสบการณ์ที่ผิดพลาดของเขา คือ การตั้งร้านใหม่ที่สุขุมวิทครั้งนั้น ยังไม่มีการวาง “เอกลักษณ์ของแบรนด์” ว่าจะมีจุดยืนอย่างไร แต่กลับไปให้ความสำคัญกับการ “ตั้งราคาขาย” เพียงอย่างเดียว ยกตัวอย่าง อาหาร 1 จาน ต้นทุน 50 บาท หากจะขายต้องมีกำไร 1 เท่า คือ ต้องขายอาหารจานนั้นในราคา 100 บาท และในเมื่อเป็นร้านจับลูกค้า “กลุ่มบน” ต้องตั้งราคาขายสูงกว่าต้นทุน 1 เท่าครึ่ง 
 
ดังนั้น อาหารต้นทุน 50 บาท จึงขายที่ 125 บาท ถึงจะมีกำไรสูงสุด พอคิดแบบนี้ เลยเกิดสูตรเข้าไปครอบในธุรกิจ กลายเป็นว่าอาหารทุกจานถูกขายในราคาต้นทุนบวกกับกำไร 1.5 เท่า และคิดว่าธุรกิจจะไปได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ มันเป็นแบบเหมือนฝันเลือนราง เคว้งคว้างลอยไปเลย คือลูกค้าให้การตอบรับน้อยมาก สุดท้ายก็ปิดกิจการ
1
ภาพจาก bit.ly/2WaqXC0
 
ก่อนจะมาเปิดร้านพหลฯ 11 จากที่ไม่มีใครเคยสนใจ คนเต็มทุกที่นั่ง สื่อเริ่มให้ความสนใจ เข้ามาทำข่าว มารีวิว คนเริ่มแชร์ บล็อกเกอร์ทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาหา ทุกพื้นที่มีแต่เงิน คนแน่นจนขยายเพิ่มไม่ได้ จึงต้องเปิดสาขา 2 ที่ซอยอารีย์ อยู่ใกล้ๆ กัน ก็เต็มอีก และไม่มีที่จอดรถ ชาวบ้านแซ่ซ้องสรรเสริญทุกวันว่าทำให้รถติด 
 
คุณโค้กจึงมองหาทำเลใหม่ จนสุดท้ายมาเจอที่ปัจจุบันคือ อาคาร SJ Infinite One พื้นที่ 666 ตารางเมตร รองรับคนได้ประมาณ 330 ที่นั่งต่อรอบ เฉลี่ยวันหนึ่งรับคนได้ประมาณ 700-800 คน ถ้าช่วงเทศกาลก็ได้หลักพัน ก่อนที่ในปัจจุบันได้มีการขยายสาขา Laemgate Avatar มาที่โชว์ดีซี พระรามเก้า จัดโปรโมชั่น 555 บาท รับประทานเพียงแค่ 2 รอบ
 
10.โปรโมชั่น 888 บาท ลดเหลือหัวละ 100 บาท เป็นสาเหตุให้ร้านแหลมเกตุโดนโจมตี
1
ภาพจาก bit.ly/2IdRAkF
รายงานข่าวจากสื่อหลายสำนักว่า ร้านอาหารชื่อดังแหลมเกตุ ได้มีการจัดโปรโมชั่นราคาต่อหัวจาก 888 ลดเหลือหัวละ 100 บาท จนมีลูกค้าสนใจซื้อโปรโมชั่นจำนวนมาก แต่ปัญหาคือซื้อโปรโมชั่นแล้วจองโต๊ะยาก ต้องรอกินอาหารนานกว่า 2 เดือน หรือรอจนสิ้นสุดโปรโมชั่น จนเหยื่อที่ซื้อโปรฯ นี้ออกมาแฉเรื่องราว กระทั่งทางร้านขู่ฟ้องร้อง กระทั่งลูกค้าคนอื่นๆ ที่โดนเหมือนกันออกมาเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ ทวงเงินค่าซื้อโปรโมชั่นที่จ่ายไปก่อนหน้านี้จำนวนมาก 
 
ทั้งหมดเป็น 10 เรื่องจริงที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับร้านบุฟเฟต์ “แหลมเกตุ” ถือเป็นร้านมีชื่อเสียงอย่างมาก จากติดลบสู่รายได้ร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันคงต้องหาทางออกกันต่อไปว่า จะแก้ปัญหาให้กับลูกค้าอย่างไรบ้าง เพราะการทำธุรกิจร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จ ร้านอยู่ได้อย่างยั่งยืน ต้องรักษาคุณภาพมาตรฐานให้จงอยู่ ไม่หลอกลวงลูกค้า ขณะที่ลูกค้าก็อย่าเห็นเพียงแค่ “ราคาถูก” เท่านั้น จึงหลงเชื่อกับโปรโมชั่นต่างๆ ที่ร้านจัดขึ้น ไม่เช่นนั้นก็อาจโดนเอาเปรียบเหมือนเช่นนี้  -
โฆษณา