11 มิ.ย. 2019 เวลา 07:15
: เพื่อนกันธรรมดา :
'และสิ่งเดียวที่ผมรู้จักมาตลอดชีวิต คือการรักข้างเดียว' น้ำเสียงนั้นราบเรียบ ไม่มีทำนองตัดพ้อหรือน้อยใจในชะตาของตนเลยสักน้อย
'​ถ้าชอบ.. ทำไมไม่บอกล่ะ'
'​ถ้าบอก แล้วถูกปฏิเสธ ขอเลือกไม่บอก แล้วเก็บความรู้สึกไว้กับตัวดีกว่า'
'ต้องเก็บไว้นานเลยสินะ'
'อืมม์... กับบางคน ก็ตลอดไป'
'เศร้าจัง'
'ก็ไม่นะ... ชินแล้ว'​ ว่าพลางเก็บอุปกรณ์​ถ่ายรูปลงกระเป๋า อย่างเบามือ
...
เรารู้จักกันเมื่อสองปีที่แล้วจากที่ไปกางเต็นท์ข้างกันบนภูกระดึง, คนหนึ่งเป็นมือใหม่หัดกางเต็นท์ อีกคนเป็นมือโปรในการถ่ายรูป
เธออกหัก และอินดี้, ส่วนเขาอยากได้ภาพดีๆ ส่งประกวด และเมื่อถูกกวางเจ้าถิ่นบุกเต็นท์หาของกิน เธอทำได้เพียงเอาไม้เขี่ยไล่กวางออกไป เขาช่วยเธอกางเต็นท์ใหม่, และทั้งสองก็เป็นเพื่อนกัน
.
ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเป็นเพื่อนที่ดี
.
ทั้งสองไปกางเต็นท์ด้วยกันในต่อมา เขาเปลี่ยนสายจากการภ่ายภาพส่งประกวด มาเป็นถ่ายภาพแต่งงาน และรับปริญญาแทน เพราะเมื่อประมวลผลจากรายจ่ายแล้ว, เขาจำเป็นต้องมีรายได้เพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และแน่นอนการถ่ายภาพส่งประกวดนั้น บางทีทั้งปีทั้งชาติอาจจะไม่ได้รางวัลเลย
.
เธอไม่อกหักแล้ว, แต่ก็ยังไปออกทริปเดินป่ากางเต็นท์กับเขาอยู่บ่อยครั้งที่โอกาสอำนวย, ทั้งคู่คล้ายกันที่ชอบความเงียบสงบในระหว่างแคมปิ้ง บางครั้งก็นอนดูดาวกันเงียบๆ ในคืนที่ฟ้าโปร่ง และนอนฟังเสียงแมลงหากลานกางเต็นท์​นั้นอยู่ไม่ไกลป่า --
.
ความรู้สึกที่มีให้เธอนั้น แปรผกผันจากแค่เพื่อนธรรมดา, เป็นมากกว่าเพื่อนธรรมดามาสักพักใหญ่แล้ว, เธอไม่รู้ หรือเธอแค่อาจไม่สังเกตเห็น
.
และวันนี้ที่จุดชมวิวเสม็ดนางชี พังงา --
'เราว่า... เราจะแต่งงานนะ ก็เลยจะให้เป็นช่างภาพ...ได้มั้ย'
'ได้ดิ, เราเป็นเพื่อนกันนี่นา'
โฆษณา