บทสรุป ลิเวอร์พูล แชมป์ 6 สมัย ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก
ลิเวอร์พูลเข้าชิงชนะเลิศ 9 ครั้ง ชนะ 6 ครั้ง แพ้ 3 ครั้ง
Rome 1977 แชมป์แรก จุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่
Liverpool 3 : 1 Borussia Mönchengladbachลิเวอร์พูลสามารถเอาชนะไปด้วยสกอร์ 3-1โดยได้ประตูจาก เทอร์รี่ แม็คเดอร์ม็อตต์, ทอมมี่ สมิธ และ ฟิล นีล คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ไปครองเป็นสมัยแรก
London 1978 – ชัยชนะในบ้านเกิด
Liverpool 1:0 Club Brugge
ลิเวอร์พูลได้ประตูชัยจากเคนนี่ ดัลกลิช ทำให้ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน
Paris 1981 – คว่ำราชันแห่งสเปน
Liverpool 1:0 Real Madrid
ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเอาชนะไป 1-0 จากยิงของอลัน เคนเนดี้ ในช่วงท้ายเกม ช่วยให้ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ ไปครองเป็นสมัยที่ 3
Rome 1984 – ดวลโทษชนะเจ้าถิ่น
Liverpool 1-1 Roma (Penalty 4:2)
เกมยืดเยื้อกันการดวลจุดโทษ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการยิงจุดโทษในรอบชิงชนะเลิศ และเป็นลิเวอร์พูลที่เอาชนะไปได้โดยมีบรูซ กรอบเบลาร์ เป็นฮีโร่ด้วยการทำท่า “Spaghetti Leg” ทำให้ลิเวอร์พูลชนะในการดวลจุดโทษ 4-2 คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพไปครองเป็นสมัยที่ 4
Brussel 1985 – โศกนาฏกรรมเฮย์เซล และความพ่ายแพ้ครั้งแรก
Juventus 1-0 Liverpool
เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อแฟนบอลลิเวอร์พูลปะทะกับแฟนบอลยูเวนตุสจนทำให้อัฒจันทร์ถล่มลงมา ทำให้มีแฟนบอลเสียชีวิต 39 ราย และนำไปสู่การปะทะกันระหว่างแฟนบอลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่อย่างไรก็ตามหลังเหตุการณ์สงบการแข่งขันก็ดำเนินต่อไป และเป็นยูเวนตุสที่เป็นฝ่ายชนะไป 1-0 จากจุดโทษของมิเชล พลาตินี่ ทำให้ลิเวอร์พูลแพ้ในรอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ลิเวอร์พูลถูกตัดสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลถ้วยนี้เป็นเวลา 6 ปี
Istanbul 2005 – ปาฏิหาริย์อิสตันบูล
Liverpool 3-3 AC Milan (Penalty 3:2)
20 ปีผ่านไปหลังเหตุการณ์ที่เฮย์เซล ลิเวอร์พูลกลับมาเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้อีกครั้ง
ครึ่งแรกเป็นเอซี มิลาน บุกกดดันใส่ลิเวอร์พูลและได้ประตูขึ้นนำถึง 3-0 จนใครๆก็คิดว่าแชมป์เป็นของเอซี มิลานแน่นอนแล้ว แต่เริ่มครึ่งหลังได้ไม่นานลิเวอร์พูลก็สามารถไล่ตีเสมอ จากเจอร์ราร์ด, ซามิเซอร์และอลอนโซ่ จบเกมในเวลาเสมอกัน 3:3 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ และเป็นดูเด็ก สามารถเซฟลูกจุดโทษของ เชฟเชนโก้ พาลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกเป็นสมัยที่ 5 มากที่สุดในเกาะอังกฤษ นัดนี้แฟนบอลจำนวนมากที่ติดตามการถ่ายทอดสด เมื่อโดนนำ 3:0 ถึงกับปิดทีวีนอน ตื่นเช้ามาถึงต้องตกใจเมื่อทราบว่าลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ จนนัดนี้มีการขนานนามว่า “ปาฏิหาริย์อิสตันบูล”
Atens2007 — ปาฏิหาริย์ไม่เกิดซ้ำ
AC Milan 2-1 Liverpool
คู่ชิงชนะเลิศเมื่อ 2 ปีที่แล้วกลับมาเจอกันอีกครั้ง ปรากฏว่า เอซี มิลานสามารถล้างแค้นได้สำเร็จ โดยได้ 2 ประตูจากฟิลลิปโป้ อินซากี้ ส่วนลิเวอร์พูลได้ประตูจากเดิร์ก เคาต์ ทำให้เอซี มิลานคว้าแชมป์ไปครอง ซึ่งนัดนี้ไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเหมือนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
Kiev2018 ค่ำคืนแห่งน้ำตา
Real Madrid 3:1 Liverpool
ลิเวอร์พูลกลับมาเข้าชิงชนะเลิศอีกครั้งหลังจากห่างหายไป 11 ปี นัดนี้ทีมหมายมั่นปั้นมือว่าจะเก็บชัยชนะเพื่อคว้าแชมป์ให้ได้ เนื่องจากฟอร์มอันร้อนแรงของ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ที่ทำประตูทุกถ้วยรวมกันมากกว่า 40 ประตู แต่ต้องผิดหวังเนื่องจากได้รับบาดเจ็บในครึ่งแรกไม่สามารถเล่นต่อได้ ซาล่าห์เองถึงกับหลั่งน้ำตา และน่าจะเป็นจุดพลิกผันขิงเกม และมาดริดได้ประตูจากความผิดพลาดของผู้รักษาประตูถึง 2 ลูก และยิงไกลสุดสวยของ แกเร็ธ เบลล์ ส่วนลิเวอร์พูลได้ประตูจาก มาเน่ สุดท้ายทำให้ทีมมาดริดชนะไปในที่สุด 3:1 หลังจบเกม คาริอุส ผู้รักษาประตูลิเวอร์พูลถึงกับนอนร้องไห้ฟูมฟายกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นที่มีส่วนทำให้ทีมพ่ายแพ้ด้วย
Madrid2019 พ่ายแพ้เป็นบทเรียน แล้วกลับมาอีกครั้ง
Liverpool 2:0 Spurs
ลิเวอร์พุลโชว์ฟอร์มน่าประทับใจในรอบรองชนะเลิศ สร้างคืนมหัศจรรย์ชนะบาร์เซโลน่ามา 4:0 ผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศ 2 ปีติดต่อกัน โดยนัดนี้มาเจอกับ สเปอร์ทีมในอังกฤษด้วยกัน รูปเกมเป็นรองครองเกมได้น้อยกว่าแต่สามารถเอาชนะไปได้ 2:0 โดยการทำประตูจากจุดโทษของ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ นาทีที่ 2 และลูกยิงของ ดิว็อค โอริกี้ ท้ายเกมส์ คว้าแชมป์สมัยที่ 6 ไปอย่างงดงาม สมกับการรอคอยของแฟนบอลที่รอแชมป์มานานแสนนาน
#Liverpoolsusu
#YNWA
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
