16 มิ.ย. 2019 เวลา 09:00 • กีฬา
🔵 กำแพงแห่งโชคชะตาที่ไม่อาจข้าม
🔵 “ผมขอยอมแลกแชมป์กับบาร์เซโลน่า เพียงเพื่อถ้วยแชมป์รายการเดียวกับทีมชาติ” นี่คือประโยคที่ยอดนักเตะอย่างลิโอเนล เมสซี่ เคยกล่าวไว้เมื่อปี 2018
🔵 มันสะท้อนให้เห็นว่าการคว้าแชมป์ร่วมกับทีมชาติอาร์เจนตินาคือความฝันสูงสุดของยอดดาวเตะเจ้าของบัลลงดอร์ 5 สมัย
🔵 สิ่งที่เมสซี่ทำได้ใกล้เคียงที่สุด คือการพาทัพฟ้า-ขาวคว้ารองแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 และรองแชมป์โคปา อเมริกา 2016
🔵 การได้เห็นถ้วยรางวัลอยู่ตรงหน้า มันก็ไม่ได้แปลว่าเราจะมีโอกาสได้สัมผัสเสมอไป และภาพที่เห็นเป็นประจำคือการที่ลิโอเนล เมสซี่ ยืนคอตกด้วยอาการผิดหวังอย่างรุนแรง
🔵 และจากความล้มเหลวกับทีมชาติแบบน่าเจ็บใจถึง 2 ครั้ง ทำให้ตัวผู้เล่นเคยประกาศเลิกเล่นทีมชาติในปี 2016 (สุดท้ายก็ตัดสินใจกลับมาเพื่อเล่นให้อาร์เจนตินาอีกคำรบ) รวมถึงการพิจารณาเลิกเล่นทีมชาติแบบจริงจังหลังจบบอลโลกที่รัสเซียเมื่อปีก่อน (สุดท้ายก็หวนกลับมารับใช้ทีมชาติอีกครั้ง)
🔵 เรื่องราวทั้งหมดถูกวางไว้เบื้องหลัง ลิโอเนล เมสซี่ กลับมาเป็นกัปตันทีมนำทัพอินทรีฟ้าขาว ลงเล่นศึกโกปา อเมริกา 2019 ที่บราซิล พร้อมกับความหวังที่จะปลดแอกความเจ็บปวดด้วยการเถลิงถ้วยรางวัลในนามทีมชาติเสียที
🔵 ทว่าเกมนัดแรกของกลุ่ม B ที่เพิ่งจบลงไป อาร์เจนตินา ต้องพบกับความปราชัยต่อ โคลอมเบีย 0-2 ทั้งที่ดูจากชื่อชั้นนักเตะหลายต่อหลายราย ต้องบอกว่ายังทัพฟ้า-ขาวก็ดูจะเป็นต่อกว่า
🔵 หรือนี่จะเป็นอีกครั้งที่ลิโอเนล เมสซี่ จะพาทีาชาติที่เขารักไปไม่ถึงฝั่งฝันอีกครา
🔵 ว่ากันตามตรงแล้วการเป็นราชาไร้บัลลังก์ไม่ว่าจะเป็นศึกฟุตบอลโลก หรือระดับทวีป มันทำให้คนบางกลุ่มแคลงใจในความสามารถและการกระตุ้นทีมของยอดนักเตะจากบาร์เซโลน่ารายนี้
🔵 หลายครั้งที่คนมักจะนำลิโอเนล ไปเปรียบเทียบกับยอดตำนานอย่างดิเอโก้ มาราโดน่า ในแง่ของความสามารถและความสำเร็จต่างๆ
🔵 หากวัดกันปอนด์ต่อปอนด์ก็ยังดูลำบากว่าสองนักเตะชาวอาร์เจนไตน์ ใครเก่งกว่ากัน แต่จุดที่เมสซี่จะดูเป็นรองกว่าคือเรื่องของแชมป์กับทีมชาติชุดใหญ่
🔵 ลิโอเนล เมสซี่ พยายามทำทุกวิถีทางเท่าที่สามารถทำได้เพื่อที่เขาจะคว้าถ้วยรางวัลร่วมกับอาร์เจนตินาให้สำเร็จ แต่มันก็เหมือนจะต้องมีอุปสรรคมาขัดขวางเสมอ
🔵 แนวรุกของทัพฟ้า-ขาวในปัจจุบัน ถือว่าแกร่งและอันตรายเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ในทางกลับกันแนวรับและผู้รักษาประตูกลับเสียประตูง่าย
🔵 หรือโชคชะตาที่เมสซี่ไม่อาจข้ามได้คือองค์ประกอบของทีมในช่วงเวลาของเขา
🔵 เพราะแม้กระทั่งฟุตบอลโลก 2014 ที่นักเตะของอาร์เจนตินาถือว่าสมดุลที่สุด ก็ยังต้องจบลงด้วยความพ่ายแพ้ต่อทีมชาติเยอรมนีที่ดูสมบูรณ์แบบมากๆ ในขณะนั้น
🔵 สิ่งที่ตัวของนักเตะสามารถพิสูจน์ได้ดีที่สุดคือความพยายามและมุมานะ ตราบใดที่เขายังมีแรง กายและใจ การแข่งขันยังไม่จบสิ้น ทุกอย่างยังคงเป็นไปได้เสมอ
🔵 ยังเหลือเกมโคปา อเมริกา 2019 อีก 2 นัดให้เมสซี่และเพื่อนร่วมทีมชาติอาร์เจนตินาแก้ไขสถานการณ์ ถ้าหากทำสำเร็จ อะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้
🔵 แต่ถ้าหากมันต้องจบลงเพียงแค่รอบแบ่งกลุ่ม อาจถึงเวลาอีกครั้งที่ลิโอเนล เมสซี่ จะต้องถามตัวเองแล้วว่า “ทุกอย่างกับทีมชาติควรต้องยุติแบบจริงๆ สักที” หรือ “จะนำพาทีมชาติที่เขารักลงเล่นศึกฟุตบอลโลก 2022 อีกครั้งในวัย 34 ปี”
🔵 ฉะนั้นนี่ไม่ใช่เวลาสำหรับการคอตก แต่มันคือช่วงแห่งการเชิดหน้าและกลับมาสู้อย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้ง
#OnThePitch #LearningHub #Messi #Argentina
โฆษณา