17 มิ.ย. 2019 เวลา 13:53 • ธุรกิจ
10 สิ่งที่เราควรลงทุนจากวอเร็น บลัฟเฟต
วอเร็น บลัฟเฟต เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ปัจจุบันอยู่อันดับที่ 3 นักลงทุน ผู้ใจบุญที่บริจาคทรัพย์สินมากเป็นอันดับที่สองของโลก เจ้าของบริษัท Berkshire Hathaway เป็นส่วนนึงของธุรกิจมากมายที่เราใช้กันอยู่ในทุกวัน เค้าเป็นผู้บุกเบิก value investing การลงทุนระยะยาวหรือการลงทุนแบบคุ้มค่า มีหนังสือเขียนถึงเค้าเกือบร้อยเล่ม เนื้อหาเรื่องนี้มาจากสารคดี Becoming Warren Buffet เป็นเรื่องราวการใช้ชีวิต ความสัมพันธ์ของผู้ชายชื่อวอเร็น 10 สิ่งที่เราควรลงทุนจากวอเร็น
1. สิ่งที่คุณควรลงทุนในชีวิตมากที่สุดมีสองอย่าง
หนึ่งคือลงทุนในชีวิตของคุณเอง เพราะตัวคุณคือสินทรัพทย์ที่มีค่ามากที่สุด
อันดับสองคือ หาสิ่งที่คุณรักให้เจอ ให้คุณพร้อมที่จะตื่นนอนในทุกๆ เช้า เพื่อจะตื่นเต้นที่จะได้ทำในสิ่งที่คุณรัก
ในสารคดี เล่าถึงคุณปู่ไปอยู่ในห้้องเรียนเล็กๆ มีเด็กนั่งอยู่ล้อมรอบ คุณปู่บอกให้เด็กๆ ลองจินตนาการว่าสามารถมีรถคันใหม่ ยี่ห้อไหนก็ได้ เลือกได้เอง หรู สวย ราคาเท่าไหร่ก็ได้ รถคันนี้จะมาจอดที่หน้าบ้านผูกโบว์ให้กับคุณ แต่รถคันนี้จะเป็นรถคันเดียวในชีวิตของคุณ คุณต้องเลือกและดูแลมันให้ดีที่สุด คุณมีโอกาสเลือกแค่ครั้งเดียว ห้ามเปลี่ยน คุณปู่บอกว่าในเรื่องนี้ รถให้เปรียบเหมือนกับร่างกายและจิตใจของพวกเรา
คุณมี asset เดียวที่มีค่ามากที่สุดก็คือชีวิต ร่างกายและจิตใจที่ต้องดูแลให้ดีที่สุด ความหมายของปู่ก็คือให้เราค้นหาในสิ่งที่เรารักให้เจอ ค้นหา passion ให้เจอ เหมือนคุณปู่ที่รู้ว่าตัวเองชอบตัวเลข ชอบลงทุนตั้งแต่ 6-7 ขวบ ซื้อของมา 5 เซ็นไปขายเค้า 6 เซ็น 10 ขวบเค้าก็ได้นั่งทานข้าวกับสมาชิกตลาดหุ้นนิวยอร์ก​ ซื้อหุ้นตัวแรกตอนอายุ 11 ปีในราคา 38 ดอลล่าร์สหรัฐ พออายุ 16 ปี หุ้นขึ้น 53,000 ดอลล่าร์สหรัฐ เค้าชอบตัวเลขมาก เค้ารู้ว่าเค้าชอบการลงทุน หลายๆ คนที่บอกชอบการลงทุนเพราะเงิน แต่เค้าชอบลงทุนเพราะเค้าคิดว่ามันเป็นเกมๆนึงของเค้า เค้าบอกว่า 50-60 ปีที่ทำงานมา มันเหมือนเค้าเต้นรำไปทำงาน เหมือนออกไปเล่น
วิธีการค้นหาในสิ่งตัวเองรัก ให้คุณลองถามคำถามนี้กับตัวเองว่า ถ้าคุณเลือกงานได้งานเดียวแม้ว่าคุณจะรวยล้นฟ้าแต่คุณก็ยังจะเลือกงานนี้ คุณจะทำงานๆ นี้ คำตอบของคำถามนี้มันจะเป็นงานที่คุณรักได้ คุณจะมีปัญหาแน่ถ้าเกิดคุณคิดว่าการที่คุณหาเงินได้มากกว่าเดิม กับงานที่คุณไม่ค่อยรัก 10-20 เท่าแล้วคุณจะมีความสุขตามมา เค้าว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย มันไม่ใช่สมการแบบนั้น เพราะฉะนั้นลงทุนในชีวิต ลงทุนในตัวเอง เพราะคุณคือสินทรัพย์ที่มีค่ามากที่สุด
2. ลงทุนในความรู้
บัฟเฟตเป็นคนที่อ่านหนังสือเยอะมาก อ่านหนังสือวันนึงไม่ต่ำกว่า 5-6 ชม อ่านทุกๆ อย่าง อ่านหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับ อ่านชีวประวัติ หนังสือทั่วไป รายงานประจำปีของบริษัท เค้าบอกว่าการอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุด เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เค้าประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ แค่การอ่านหนังสือมันไม่พอ สิ่งที่ิยากที่กว่าในหนังสือก็คือ คน คุณต้องเรียนรู้เกี่ยวกับคน คุณต้อง interact กับคน คุณต้องเอาสิ่งที่คุณอ่านในหนังสือเอามาใช้กับคนให้ได้
3. คุณต้องลงทุนในการสื่อสาร
จุดอ่อนของคุณปู่เมื่อก่อนคือ การกลัวการพูดคุยต่อหน้าผู้คนเยอะๆ Public​ speaking เค้ากลัวมาก ก็เลยไปลงทุน ลงเรียนคอร์สสอนพูด คุณปู่บอกอีกว่าการเรียนคอร์สๆ นั้นเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามากที่สุดในชีวิตเค้า เป็นปริญญาที่มีค่ามากกว่าใบอื่นๆ ที่เค้าได้รับ ถึงขั้นเค้าเอาใบปริญญาอันนี้ไปติดไว้ในห้องทำงาน ถ้าหากคุณมีไอเดียที่บรรเจิดแต่ไม่สามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นเข้าใจได้ ไอเดียนั้นจะไม่มีค่่าอะไรเลย นอกจากนี้คอร์สนี้ทำให้เค้าเจอภรรยาและได้แต่งงานกัน
4. การลงทุนในสิ่งที่คุณถนัดขอเพียงแค่สิ่งเดียว
ครั้งนึงบัฟเฟตกับบิลเก็ตไปนั่งกินข้าวด้วยกัน สองคนนี้เค้า​สนิทกัน คุณพ่อของบิลเก็ตก็ถามทั้งสองคนว่า ถ้าเกิดให้บรรยายสิ่งที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จในวันนี้ เขียนลงกระดาษโดยใช้แค่คำๆ เดียวคุณจะเขียนว่าอะไร ทั้งสองคนก็เขียนพร้อมๆ กัน คำตอบของคู่คือคำว่า Focus บัฟเฟตบอกว่าผมไม่สนใจเรื่องอื่น ใครจะว่าอะไรยังไง ผมมีสิ่งที่สนใจเพียงอย่างเดียว ผมไม่ใช่อัจฉริยะแต่ผมฉลาดอยู่เรื่องเดียวแล้วก็ติดอยู่กับมัน เค้าเรียกสิ่งนี้ว่า circle of competence วงกลมแห่งความถนัด เมื่อเวลาเราโยนลูกฟุตบอล จะมีเพียงแค่จังหวะเดียว วงกลมวงเดียว ที่พอโดนกลางลูก ลูกบอลจะไปไกลมากที่สุด มันอาจจะมีวงกลมหลายวง เหมือนกับสิ่งที่คุณรู้บ้างไม่รู้บ้าง แต่จะมีวงกลมเพียงวงเดียวตรงกลางที่ส่งผลให้ลูกบอลไปไกลได้มากที่สุด คุณต้องโฟกัสในสิ่งที่คุณถนัดที่สุด และต้องลงทุนกับมัน สิ่งนี้เองที่ทำให้การลงทุน 40-50 ปีของบัฟเฟต ไม่เคยขาดทุน เพราะเค้าจะลงทุนในสิ่งที่เค้ารู้ สิ่งที่เค้าถนัดเท่านั้น
1
5. ลงทุนในการได้เปรียบของการแข่งขัน
ต่อเนื่องจากข้างบน สมมุติคุณทำธุรกิจทีวี อาจจะมีอีกสัก 10 คนที่อยากทำทีวีเหมือนคุณตอนคุณประสบความสำเร็จ หรือร้านอาหาร สักพักก็จะมีคนมาขโมยเมนู ขโมยเชฟของคุณ ทำที่จอดรถ ลดราคาดีกว่าคุณ ระบบทุนนิยมจะมีคนที่พยายามจะมาชิงปราสาทคุณเสมอ เพราะฉะนั้น คุณต้องมีปราสาทที่แข็งแกร่งที่สุดและความได้เปรียบทางการแข่งขัน คุณต้องมีแต้มต่ออะไรบ้างอย่างที่ทำให้คุณแข่งกับคนอื่นได้ ตัวอย่างแบบ สตีเว่น สเติลเบริก์ คนส่วนใหญ่อยากจะทำงานร่วมกับเค้า เพราะการันตีได้ว่าหนังสตีเว่นจะทำกำไรได้ เพราะสเติลเบริก์มีความได้เปรียบทางการแข่งขัน สิทธิพิเศษบางอย่างหรือเอกลักษณ์บางอย่างที่ไม่ใครลอกเลียนแบบได้ เพราะฉะนั้นเราต้องรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันของเราเอาไว้
สำหรับ​วันพรุ่งนี้​จะมาต่ออีก 5 สิ่งที่เราควรลงทุนจาก Warren Buffett กันนะคะ ขอทิ้งท้ายข้อคิดที่ได้จาก Warren Buffet
"Without passion you don't have energy, without energy, you have nothing"
ข้อมูล​จาก the secret source
โฆษณา