18 มิ.ย. 2019 เวลา 11:06 • การศึกษา
สงสัยกันหรือเปล่าคะว่าทำไมจำเลยในคดีอาญาส่วนใหญ่ถึงชอบอ้างว่าทำความผิดไปเพราะ "บันดาลโทสะ" !!
1
การอ้างว่าทำไปเพราะบันดาลโทสะนั้นจะมีผลทางกฎหมาย คือ ศาลอาจลดโทษที่กำหนดสำหรับความผิดฐานนั้นเท่าไหร่ก็ได้
โดยเรื่องบันดาลโทสะนี้ได้กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 ที่ได้บัญญัติว่า
" ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ "
เช่น จำเลยกระทำผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น ซึ่งกรณีนี้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ได้กำหนดโทษ ไว้ให้ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนี้ ถ้าข้อเท็จจริง ศาลเห็นว่าจำเลยทำร้ายร่างกายผู้อื่นเพราะเหตุบันดาลโทสะ ศาลจะลงโทษต่ำกว่าโทษที่กำหนดตามมาตรา 295 ข้างต้นได้
ขอยกตัวอย่าง เช่น A ยิง B ต่อหน้า C ซึ่งเป็นลูกของของ B ทันใดนั้น C จึงยิง A ดังนี้ C อ้างบันดาลโทสะได้ (คำพิพากษาฎีกาที่ 518/2500)
จากตัวอย่าง C คือผู้กระทำความผิด
A คือผู้ข่มเหง
แล้วอย่างไรถึงจะเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ?? กรณีนี้ต้องดูว่า
1. ผู้กระทำความผิดถูกข่มเหงอย่างไม่เป็นธรรมหรือไม่?
-> จากตัวอย่างถือได้ว่า A ข่มเหง C เพราะยิง B บิดา
2. การที่ถูกข่มเหงนั้นเป็นเหตุให้ผู้กระทำบันดาลโทสะหรือไม่?
-> หมายถึง การที่ A ยิง B ทำให้ C มีอารมณ์โกรธ (บันดาลโทสะ)
3. ผู้กระทำได้กระทำความผิดขณะบันดาลโทสะหรือไม่
->หมายถึง C ยิง A ขณะมีอารมณ์โกรธทันที
2
และมีข้อสังเกตเพิ่มเติมนะคะ ว่าการจะอ้างบันดาลโทสะได้นั้นต้อง
1. ต้องเป็นการกระทำต่อผู้ข่มเหงเท่านั้น คือ ถ้า C ยิงคนอื่นที่ไม่ใช่ A ก็จะอ้างบันดาลโทสะไม่ได้
2. อารมณ์โกรธ(บันดาลโทสะ) ที่เกิดนั้นจะดูจากว่า ถ้าเกิดเหตุข่มเหงแบบเดียวกันกับบุคคลทั่วไปนี้ บุคคลทั่วไปก็จะรู้สึกโกรธเช่นเดียวกัน
3. คำว่า กระทำความผิดขณะบันดาลโทสะนี้ อาจจะเป็นกรณีต่อเนื่องกันก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทันทีทันใด เช่น วิ่งไล่ตามไปยิงอย่างต่อเนื่องทันที ไม่ใช่รออีก 1 ชั่วโมงแล้วนึกได้ไปค่อยยิง
ติดตามเรื่อง ความจำเป็น
เรียบเรียงโดย kkpp
1
หากเห็นว่าเป็นประโยชน์ ก็แชร์ได้เลยจ้าาา และขอฝากติดตามด้วยนะคะ 😁
ที่มา ประมวลกฎหมายอาญา
โฆษณา