2 ก.ค. 2019 เวลา 09:31 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Crypto Vi man X Ph.D Nattapong Puttanapong
Bitcoin คือการเกร็งกำไร ? , Blockchain มีศักยภาพเท่า internet ?, Bitcoin เอาไว้ขุดความรู้ ? , มุมมองความเห็นเกี่ยวกับ Facebook coin ( Libra ) ?
สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพ
วันนี้ทาง Crypto Vi man ได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์กับ อาจารย์ ณัฐพงศ์ พัฒนพงศร์
เป็นอาจารย์คณะ เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์
เกี่ยวกับมุมมองแล้วคิดเห็นเกี่ยวกับ blockchhain และ Bitcoin
มาเริ่มกันเลยครับ....
Crypto Vi man : มีความเห็นยังไงกับ Bitcoin and Crypto currency เป็นการเก็งกำไร , fraud, หรือจะมา disrupt financial sector ?
Ajarn Nattapong : ตอนนี้ผมว่าทุกคนรอดู generation 3 เพราะว่า Bitcoin คิอ generation 1 แล้วมันก็มีข้อจำกัดเยอะแต่ว่าคนใช้เยอะสุด รองลงมาคือ generation 2 คือ Ethereme ที่แก้ปัญหาในด้าน scaling แล้วมันก็มี application ให้ใช้เยอะคือถ้าอยากทำ application อะไรที่ใช้ Crypto ก็ใช้ Ethereum ได้เลย เอา code สำเร็จมาใช้ได้เลยครับ แม้แต่ผมเองตอนนั้นก็มีเพื่อน วิศวะมา แชร์ไอเดียกัน
Crypto Vi man : แล้วทางอาจารย์มองว่า Bitcoin เป็นการเกร็งกำไรหรือจะมาแทนที่ธนาคารไหมครับ ?
Ajarn Nattapong : คือผมมองว่ามันคนละประเด็น คือ Bitcoin นั้นคือเงินที่สร้างขึ้นมาโดยไม่ได้มี Asset backup จากประวัติศาสตร์ที่เราเรียนรู้มา monetary economic นั้นต้องมีอะไรสักอย่างที่ backup แม้แต่ Us dollar เองก็เถอะ ถึงแม้บางคนบอกว่ามันไม่ได้มี Asset backup แต่จริงๆมันมีพันธบัตรรัฐบาล backup ถึงแม้มันไม่ได้ใช้ทอง
แต่ในส่วน Crypto นี้มันประหลาดมาก อยู่ๆก็มีค่าขึ้นมาโดยที่ไม่ได้มีอะไร back up ซึ่งในหลัก Monetary Economic มันเป็นไปไม่ได้ ที่จะสร้าง currency ขึ้นมาโดยที่ไม่มีอะไร backup เพราะท้ายที่สุด สมมุติคุณไม่อยากถือ ธนบัตรไทย ถ้าเป็นยุค อาจารย์ป๋วย คุณเดินไปที่บางขุนพรมก็สามารถแลกเป็นทองได้เลยน่ะ แม้แต่ dollar ก็เหมือนกันถ้าไม่อยากถือเป็น ธนบัตรก็เดินไปที่ FED ก็สามารถแลกเป็น ทองได้เลย อันนี้คือท้ายที่สุดแล้ว Last resource หรือ value สุดท้ายมันยังมีอยู่ ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ แบงค์ชาติไม่ได้รับแลกเป็นทองแล้ว เดินไปบางขุนพรมไม่ได้รับแลกแล้ว เราก็ยังสามารถ covert เป็น USD เป็น Euro แล้วมูลค่ามัน stable นั้นก็คือสิ่งที่ทำให้คนนั้นเชื่อถือว่าเป็น Currnecy
Crypto Vi man : แล้วอาจารย์เห็นถึงการเก็งกำไรในตลาดไหมครับ ?
Ajarn Nattapong : ก็คือคนไม่เข้าใจตั้งแต่ Currnecy คืออะไร, คนไม่เข้าใจว่าตัว Bitcoin จริงๆว่าเบื้องหลังมันทำงานยังไง นั้นก็คือ Double bilnd ครับ ไม่เข้าใจทั้งสองเรื่องปนยิ่งไปกันใหญ่ อันนั้นคือการเก็งกำไรจริง
ถามว่ามันมี application ไหม มันก็มีครับ ถามว่าจะตราค่ามันได้ไหม มันก็ทำได้ มันก็มีหลาย approach ในการพยายามที่จะ value Bitcoin เช่น value จาก difficalty rate ก็ได้ และคิดจาก ค่าไฟ , ค่า hard ware ก็คิดกลับมาได้ จริงๆมันมีหลาย ทฤษฏีมากในการ value Bitcoin อันที่เรียนให้ทราบคือ คิดจาก Supply side ฝั่ง Production ว่า ต้องใช้ค่าไฟ ค่าhard ware อะไรเท่าไร
แล้วมันก็มี ทฤษฏี Network thoey ที่พยายามจะ value Bitcoin ว่าถ้าคนใช้มากขึ้น Bitcoin จะมี มูลค่าเท่าไร อันนั้นก็เป็นอีก ทฤษฏีนึงของฝั่ง Demand side
แต่ทั้งหมดทั้งปวงนั้นก็ไม่ใช่วิธีที่ value currnecy ที่ถูกต้อง
1
Crypto Vi man : มีการเทียบกันเยอะ ระหว่าง blockchain กับ internet ,อาจารย์คิดว่า blockchain เป็น trend ที่มีศักยภาพเหมือน internet ไหมครับ?
Ajarn Nattapong : ก็ใช่ครับ เพราะมันเป็นวิธีเรียง Data base ที่ hack ได้ยากมาก ถามว่าสามารถ hack ได้ไหมอันนี้ก็มีคนพยายามลองอยู่เรื่อยๆน่ะครับ
เพราะ blockchain มันเหมือนสมุดบัญชีธนาคารที่แชร์ใว้ให้ทุกคนสามารถเข้าไปดูได้ และเขียนทับไปเรื่อยๆได้
1
Crypto Vi man : แล้วด้านอุสหกรรม อาจารย์คิดว่าจะมีบทบาทอะไรไหมครับ ?
Ajarn Nattapong : เยอะเลยครับ คือผมอยู่ใน กลุ่ม international group ของ developer ทางด้าน blockchain ก็แลกเปลี่ยนความรู้กันทุก อย่าง admin ของกรุ็ป ก็เคยอยู่ที่ Morgan staley ( financial institution )มาก่อนครับ คือจะรู้ทั้งด้าน programmer และการเงินด้วย
ถ้าอยากรู้เรื่องนี้จริงๆควรจะเป็น engineer ด้วยและก็มีความรู้ด้านการเงินด้วย บ้างเรื่องมันก็ไม่ได้ยาก แค่ต้องศึกษาครับ อย่างเช่น ​code ที่เป็น id ประจำตัว bitcoin , 10^18 คือจำนวนที่มากกว่าอะตอมทั้งหมดในจักวาล, และเชื่อไหม bitcoin ประมาณยกกำลัง 17
เลยแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ คอมพิวเตอร์ธรรมดาจะ hack
Crypto Vi man : แล้วที่บอกว่า quantum computer สามรถทำได้ละครับ ?
Ajarn Nattapong : ใช่ครับ ถ้า quantum computer ออกมาก็ต้องเปลี่บยวิธีที่ incode ใหม่หมดเลย
คือทุกวันนี้เจ้า Bitcoin ก็ไม่ได้ใหม่ทั้งหมดน่ะครับ คือผมว่าเขาเก่งในการ intregrate ความรู้หลายๆเรื่อง อยากวิธีเข้า code ของ bitcoin ก็ใช้วิธีที่กระทรวงกลาโหมอเมริกาคิด “ SHA 256 ” วิธีนี้กระทรวงกระโหมของอเมริกาใช้ในการส่งข้อมูลหากัน เหมือนในหนังสงครามสมัยก่อนอาจเคยได้ยินชื่อ engima นั้นก็คือ บรรพบุรษของพวกนี้ครับ
ส่วนคอมพิวเตอร์ธรรมดานี้ยากมากที่จะถอดรหัสพวกนี้นี่นานเลยครับ
คือมันก็ไม่ใช้สิ่งที่ใหม่เพราะ pentagon เป็นคน develop
แต่ถ้า quantum compute ออกมา 2 นาทีก็จะ crack พวกนี้ออก
แล้วก็ base ความรู้จาก markle tree ครับ คือวิธีการเรียง data base โดยการเอารหัสพวกนี้ไปใช้
Crypto Vi man :ความคิดเห็นของการระดมทุนดิจิตอลหรือ ICO/IEO เป็นความบ้าคลั่ง หรือ การระดมทุนสำหรับโลกอนาคต ?
Ajarn Nattapong : คือเจ้า Ethereum นั้นเขียน Code ขึ้นมาเป็น Smart contact และนึงใน Smart contact คือการสร้าง ICO หรือสร้าง Coin ใหม่ขึ้นมาโดย base on Ethereum ซึ่งจริงๆ Code มันไม่กี่ บรรทัดเองน่ะครับ เราก็สามารถสร้าง Coin มาเองได้เลยครับโดย base กับ Ethereum code แต่ว่าปัญหาตอนนี้คือตัวฐานหรือ Ethereum นั้นก็กำลังแย่อยู่เหมือนกัน (ในด้าน scaling ) เพราะฉะนั้นอะไรที่ On top Ethereum ก็แย่ตาม
Crypto Vi man : แล้วอาจารย์มองว่ามันเป็นอนาคตของการระดมทุนไหมครับ ?
Ajarn Nattapong : ยังครับเพราะมัน Fail ไปเยอะมาก ตัว Crypto เอง value ก็ไม่นิ่ง ผมว่ามันเป็นของหลอกสะเยอะอะครับ เคยอ่านหนังสือเชื่อเชิญ ( whitle paper ) ก็ไม่ค่อยขนาดนั้น ผมคิดว่าทุกคนพยายามเกาะกระแสตรงนั้นมากกว่าอะครับ แล้วก็หลอกเอาเงินครับ
แต่ส่วนตัวผมว่ามันไม่ได้จะตายในอนาคตครับ แต่คงต้อง evolve อีกสักพัก เหมือน internet ที่ออกมายุคแรกๆก็ล้มลุกคุกคลานกว่าจะ stable
สัก Gen3 หรือ Gen4 ที่สามารถแก้ปัญหาในอดีตให้ได้ก่อน
Crypto Vi man : แล้วเริ่มมีประเด็นว่า BItcoin จะเป็น next safe heaven อาจารย์คิดว่าอย่างไรครับ ?
Ajarn Nattapong : ผมไม่แนะนำให้ลงทุนน่ะครับ เคยมีคนมาถาม ผมก็ตอบไปว่าไม่ได้เอาไว้ขุดเงิน แต่เอาไว้ขุดความรู้ แม้แต่ตัวผมเอง ผมก็ใช้ Bitcoin เป็นแม่แบบในการเรียนการหาความรู้ครับ
1
แต่ผมก็รอดู Gen3 ของมันนะครับว่าจะแก้ปัญหาในอดีตอย่างไรบ้าง ตอนนี้ก็มีคนที่พยายามจะสร้าง Crypto ที่มี Asset base ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหา volatility ครับ
แต่เหมือนเห็น แบงค์ชาติก็ทำอยู่น่ะครับเป็นระบบที่ไม่ให้คนทั่วไปเทรด เป็น clearing house ให้ ธนาคารพาณิช จริงๆก็มองเป็น blockchian+currency แต่ว่าใช้กันเองระหว่างธนาคารในประเทศประเทศไทย เพราะไม่งั้นธนาคารต้องมานั่งขับรถส่งเงินสดระหว่างกัน
ผมมองว่ายังไงอนาคตต้องมี digital currency เพราะ transaction มันโตขึ้นเรื่อยๆ
Crypto Vi man : แล้วอาจารย์เห็นข่าวที่ Facebook จะสร้าง coin ของตัวเองไหมครับ ?
Ajarn Nattapong : เป็นไปได้ครับ เพราะคนใช้เยอะ 1.6 พันล้านคน เพียงแต่จะทำยังไงไม่ให้ผิดกฎหมายของแต่ละประเทศ มันจะมีประเด็นว่ากฎหมายของแต่ละประเทศนับตรงนี้เป็นเงินไหม อย่างประเทศไทยก็ไม่ให้ใครสร้างเงินมานอกจาก แบงค์ชาติ ตัวอย่าง Uber ก็เหมือนกันที่ผิดกฎหมายในหลายๆประเทศ เกิน 70% ที่เข้าข่ายว่า uber ผิดกฎหมายครับ
เป็นยังไงบ้างครับท่านผู้อ่าน
มีความคิดเห็นยังไงก็สามารถคอมเม้นได้เลยน่ะครับ
ส่วนถ้าผู้อ่านอยากเสริมหรืออยากโต้แย้งตรงไหน รบกวนอยู่ในกรอบของคำว่า สุภาพและเหตุผล ด้วยน่ะครับ
ขอบคุณ อาจารย์ณัฐพงษ์ อีกครั้งมา ณ ที่นี้
By. Crypto Vi man
โฆษณา